น้ำเสียงและรังสีที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเซียวเย่หลันดุจดั่งเมฆทะมึนปกคลุมไปทั่วเมือง ทำให้คนพบเห็นแทบหายใจไม่ออก
แต่เซี่ยเชียนฮวันกลับไม่อยากตอบเขา
นางหันไปกล่าวอำลาอันติ้งโหวแล้วหันหลังเดินจากไปตามลำพัง
เซียวเย่หลันตามนางมาอย่างใกล้ชิด เอื้อมมือไปคว้าแขนนางเอาไว้ "เจ้าเล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียด"
"เจ้าจะกังวลไปทำไม? มีคนต้องการช่วยเจ้ากำจัดลูกนอกคอกที่เจ้าว่า เจ้าควรจะดีใจไม่ใช่หรือ" เซี่ยเชียนฮวันเยาะเย้ยถากถาง
"ในจวนอ๋องของข้า เรื่องเช่นนั้นไม่สมควรเกิดขึ้น"
เซียวเย่หลันมองไปที่นางด้วยสายตาอันสงสัย
บางทีเขาอาจรู้สึกว่านางกำลังโกหก แล้วแสร้งทำตัวน่าสงสาร
เซี่ยเชียนฮวันไม่อยากเสียเรี่ยวแรงและเวลาไปอธิบาย นางกล่าวเพียงว่า "เจ้าพูดได้ถูกแล้ว เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นในจวนของเจ้า เพียงแค่เจ้ามีกระจิตกระใจไปสืบดู เหตุใดจะสืบไม่รู้ความ"
"การที่เจ้าไม่รู้เรื่องนั้นเป็นเพราะเจ้าไม่เคยใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของข้า หากเทียบกับซูอวี้เออร์ เจ้ามักปิดตาข้างเดียวอยู่เสมอ แล้วเราสองแม่ลูกจะสำคัญอะไร"
กล่าวจบเซี่ยเชียนฮวันก็สะบัดแขนของเขา เดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง
เซียวเย่หลันตกตะลึงเล็กน้อย
หรือว่า...
ภายในจวนอ๋องเคยมีคนกล้าลงมือกับพระชายาอ๋องจริง?
ทั้งสองคนแยกย้ายกันกลับจวน
เซี่ยเชียนฮวันกำลังจะจัดเตรียมกระเป๋าและสิ่งของจำเป็น รวมถึงของใช้ชีวิตประจำวันเพื่อเดินทางไปบำเพ็ญตนที่ภูเขาจื่อเสีย
เสี่ยวตงรีบกลับมาจากโรงหมอ เมื่อรู้ข่าวว่าพระชายาอ๋องจะเดินทางออกจากเมืองหลวง นางตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเก็บกระเป๋าโดยไม่มีการพูดจาใดๆ ติดตามรับใช้เซี่ยเชียนฮวันต่อไป
ก่อนเดินทาง เซี่ยเชียนฮวันยังไม่อาจวางใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของหมิงเฟยได้
นางหยิบห่อของออกมาส่งให้เสี่ยวตง กำชับว่า "เจ้านำสิ่งนี้ไปที่เรือนฮวันซา บอกกับหมิงเฟยเหนียงเหนียงว่าการออกกำลังกายสามารถทำให้สภาพจิตใจของเราดีขึ้นได้"
"หากนางไม่สนใจ เจ้าบอกกับนางต่อไปว่า ถ้านางต้องการให้เซียวเย่หลันเข้าแย่งชิงบัลลังก์ จะใช้เพียงความสามารถแข็งแกร่งของเซียวเย่หลันเพียงลำพังไม่ได้ เช่นเดียวกับองค์รัชทายาทและองค์ชายรอง ใครเล่าไม่มีมารดาที่ได้รับความโปรดปรานคอยเป็นเกราะคุ้มกันอยู่เบื้องหลัง”
เสี่ยวตงตอบรับแล้วอุ้มห่อผ้านั้นไปที่เรือนฮวันซาทันที
หมิงเฟยเปิดห่อนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา
พบว่าข้างในคือลูกขนไก่ที่ทำขึ้นมาเองโดยเซี่ยเชียนฮวัน ทั้งยังมีเชื้อกระโดดและอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่นๆ
กล่าวจบเซียวเย่หลันก็เดินทางจากไป
เดิมทีเขาไม่ใช่คนที่เป็นห่วงความรู้สึกของคนอื่นเช่นนี้
เสี่ยวตงรู้สึกแปลกใจแต่ไม่ได้คิดมาก นางทำตามคำแนะนำของท่านอ๋องแล้วเดินทางไปหานางเว่ยที่ห้องครัว
นางเว่ยลากเสี่ยวตงไปยืนอยู่ใต้ร่มไม้ เมื่อสองแม่ลูกสนทนากันจบแล้ว นางก็กำชับอีกว่า "ยามเจ้ารับใช้พระชายาอ๋องควรเฉลียวฉลาดสักหน่อย บัดนี้สถานการณ์ของพระชายาอ๋องดูไม่ดีนัก"
"หมายความว่าอย่างไร?"
เสี่ยวตงมองไปที่นางเว่ยด้วยความสงสัย
นางเว่ยส่ายหน้าแล้วเล่าเรื่องที่เซี่ยเชียนฮวันเดินทางมาห้องครัวในยามเช้าเพื่อตรวจสอบจำนวนคน และให้นางดูแลเรื่องอาหารเป็นการส่วนตัวออกมา
"ข้าเห็นว่าท่าทีของพระชายาอ๋องดูผิดปกติไป จึงคิดว่าการตายของตี๋เออร์คงไม่ง่ายดังคิด จึงตั้งใจจะไปสอบถามที่บ้านของนาง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าพบสิ่งใด ครอบครัวของตี๋เออร์ทั้งห้าคนล้วนถูกสังหารเสียแล้ว!"
อาจเป็นเพราะฉากนั้นสร้างความรุนแรงที่ไม่น่าจดจำให้แก่นาง บัดนี้เมื่อคิดถึงยังคงกลัวเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน
เซียวเย่หลันที่ยืนอยู่ด้านหลังของประตูก็ขมวดคิ้วเขาเล็กน้อยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
มาอัพเพิ่มไวๆๆนะคะ...
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ...
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...