“เจ้าจัดการไม่ได้แม้แต่ซููอวี้เออร์ ยังคิดจัดการนาง ฝันไปเถิด”
เซี่ยเหยียนดูถูกเซี่ยเชียนฮวันเล็กน้อย
ราวกำลังท้าทายกับพระชายาอ๋อง
เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้สนใจพี่ชาย ได้แต่ก้มหน้ากินอาหารของตน
เซี่ยเชียนฮวันเหลือบมองเห็นเซี่ยอี๋หมู่หันหน้าไปคุยกับคนอื่น จากนั้นหันมาชายตามองนาง
ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างเซี่ยอี๋หมู่ก็คือเซี่ยเหล่าไท่จวิน
หรือมารดาของอันติ้งโหวฮูหยินนั่นเอง
จากนั้น เซี่ยเหล่าไท่จวินยิ้มขึ้นว่า “ท่านโหว วันนี้เป็นวันดี คนมารวมตัวที่นี่กันมากมาย เหตุใดจึงไม่ ไข่มุกราตรีที่ฝ่าบาทประทานให้ ออกมาให้ทุกคนได้เห็นเหล่า"
อันติ้งโหวได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง
ไข่มุกราตรี?
ไข่มุกราตรีอะไรกัน
เขาส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า "ท่านแม่เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่ ฝ่าบาทไม่เคยประธานไข่มุกราตรีมาให้ลูก"
"ดูเจ้าเขาสิ ครอบครัวเดียวกันแท้ ๆ จะมัวปกปิดไว้ทำไม เราก็เพียงแค่อยากดู หาได้อยากเอาของของเจ้าไป" เซี่ยเหล่าไท่จวินกล่าว
อันติ้งโหวสับสนยิ่งนัก
แขกที่อยู่ในห้องได้ยินดังนั้นก็พากันพูดต่อ ๆ ว่า “ได้ยินมาว่าไข่มุกราตรีสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ หากนำออกมา ทั้งห้องคงจะสว่างไสว!”
“ท่านโหว หากท่านมีไข่มุกราตรีซีเหลียงที่ให้มา ท่านก็ควรนำออกมาให้กับพวกเราได้เห็นเป็นขวัญตา"
ผู้คนพากันโห่ร้องขึ้นมา
บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น
เซี่ยเชียนฮวันเงยหน้าขึ้น สบตากับเซี่ยอี๋หมู่ที่แววตาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย
"ก่อนหน้านี้ไม่นาน ฝ่าบาทได้ประทานไข่มุกราตรีแก่องค์ชายทุกองค์ที่มีพระชายาแล้วจำนวนสองเม็ด อาทิเช่นองค์รัชทายาท องค์ชายรองและองค์ชาย 6 เหล่านั้นล้วนนำมาให้ตระกูลของภรรยาคนละหนึ่งเม็ด จวนท่านโหวมีพระชายาจ้านอ๋องอยู่ เหตุใดจึงไม่ได้รับไข่มุกราตรีเล่า?"
เซี่ยอี๋หมู่หัวเราะแล้วมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันด้วยความเยือกเย็น
เซี่ยเหล่าไท่จวินเป็นผู้ที่มีความละโลภมาก
เมื่อนางได้ยินดังนั้น จึงกล่าวขึ้นว่า "ท่านโหว ตอนนั้นที่ข้ายกบุตรสาวให้แก่ท่าน ท่านบอกว่าเป็นกำพร้ามารดามาตั้งแต่เด็ก จึงเห็นข้าเปรียบเสมือนกับแม่แท้ ๆ ของท่าน บัดนี้ข้าเพียงแค่อยากได้ไข่มุกราตรีสักเม็ด ไม่ได้เชียวหรือ?"
บัดนี้นางไม่ได้กล่าวว่าจะขอดูอย่างเดียว
นางได้เอ่ยขอตรงไปตรงมา
เซี่ยเชียนฮวันส่งเสียงดังขึ้นขัดจังหวะด้วยความยากเย็น "ท่านยายเจ้าค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของบิดาข้า ทุกคนรวมตัวกันที่นี่เพื่อแสดงความยินดีเฉลิมฉลองต่อเขา หาใช่วันที่ท่านจะมาเบ่งอำนาจให้ใครเห็น"
"เจ้าเด็กคนนี้! ได้เป็นพระชายาอ๋องแล้วจึงไม่เห็นญาติผู้ใหญ่ในสายตางั้นหรือ!"
เซี่ยเหล่าไท่จวินโมโหจ้องมองไปที่นาง
เซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้าเล็กน้อย
ทางด้านราชสำนักนั้น ขุนนางบางคนแต่ละวันไม่มีอะไรทำ พวกเขานั่งเฉย ๆ และคอยสนทนาถึงเรื่องคนอื่นอยู่เป็นประจำ
หากว่าเรื่องราวเผยแพร่ออกไปว่าอันติ้งโหวจงใจอกตัญญู คงจะถูกพวกเขายื่นเรื่องฟ้องร้องเป็นอย่างแน่นอน
"เฮ้อ หลานสาวคนนี้ของข้าถูกท่านพี่ตามใจเสียจนเสียนิสัย ไม่อาจได้รับความรักจากสามีแล้วยังทำให้ท่านอ๋องต้องเสียหน้า ข้าช่างรู้สึกสงสารพวกเขาเหลือเกิน" เซี่ยอี๋หมู่กล่าวออกมาอย่างไม่ปิดบัง
เพราะถึงอย่างไรเซี่ยเชียนฮวันก็เป็นเพียงพระชายาอ๋องที่ไม่ได้รับความโปรดปราน จ้านอ๋องอยากจะหย่าร้างกับนางเหลือเกินแล้ว
ส่วนอันติ้งโหวฮูหยินก็เป็นพี่สาวของนางแท้ ๆ
นางไม่มีสิ่งใดต้องเกรงกลัว
ใบหน้าของเซี่ยเหยียนดูมืดมน เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "ที่นี่มีหนู ข้าไม่อยากกิน"
"เจ้ารีบร้อนไปไหนกันเซี่ยเหยียน ข้าในฐานะน้าเจ้า ตำหนิน้องสาวของเจ้าสองสามประโยคเป็นอย่างไรไป?"
เซี่ยอี๋หมู่ยิ้มขึ้นด้วยความเยือกเย็น
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าหนักอึ้งก็ดังมาตรงบริเวณทางเดิน ตามมาด้วยรังสีอำมหิตเยือกเย็น ค่อย ๆ แผ่ซ่านเข้าไปในห้องโถง
ผู้มีหูล้วนได้ยินเสียงกระทบกันของฝักดาบ
แล้วพากันหุบปากลง
เซี่ยอี๋หมู่ยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา ปากของนางยังคงเราะร้ายกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของบิดาพวกเจ้า จ้านอ๋องไม่เดินทางมายังไม่เท่าไหร่ แต่เจ้ายังกลับใส่ร้ายว่าเขาไม่สบาย ......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
มาอัพเพิ่มไวๆๆนะคะ...
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ...
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...