หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี นิยาย บท 73

“เจ้าจัดการไม่ได้แม้แต่ซููอวี้เออร์ ยังคิดจัดการนาง ฝันไปเถิด”

เซี่ยเหยียนดูถูกเซี่ยเชียนฮวันเล็กน้อย

ราวกำลังท้าทายกับพระชายาอ๋อง

เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้สนใจพี่ชาย ได้แต่ก้มหน้ากินอาหารของตน

เซี่ยเชียนฮวันเหลือบมองเห็นเซี่ยอี๋หมู่หันหน้าไปคุยกับคนอื่น จากนั้นหันมาชายตามองนาง

ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างเซี่ยอี๋หมู่ก็คือเซี่ยเหล่าไท่จวิน

หรือมารดาของอันติ้งโหวฮูหยินนั่นเอง

จากนั้น เซี่ยเหล่าไท่จวินยิ้มขึ้นว่า “ท่านโหว วันนี้เป็นวันดี คนมารวมตัวที่นี่กันมากมาย เหตุใดจึงไม่ ไข่มุกราตรีที่ฝ่าบาทประทานให้ ออกมาให้ทุกคนได้เห็นเหล่า"

อันติ้งโหวได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง

ไข่มุกราตรี?

ไข่มุกราตรีอะไรกัน

เขาส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า "ท่านแม่เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่ ฝ่าบาทไม่เคยประธานไข่มุกราตรีมาให้ลูก"

"ดูเจ้าเขาสิ ครอบครัวเดียวกันแท้ ๆ จะมัวปกปิดไว้ทำไม เราก็เพียงแค่อยากดู หาได้อยากเอาของของเจ้าไป" เซี่ยเหล่าไท่จวินกล่าว

อันติ้งโหวสับสนยิ่งนัก

แขกที่อยู่ในห้องได้ยินดังนั้นก็พากันพูดต่อ ๆ ว่า “ได้ยินมาว่าไข่มุกราตรีสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ หากนำออกมา ทั้งห้องคงจะสว่างไสว!”

“ท่านโหว หากท่านมีไข่มุกราตรีซีเหลียงที่ให้มา ท่านก็ควรนำออกมาให้กับพวกเราได้เห็นเป็นขวัญตา"

ผู้คนพากันโห่ร้องขึ้นมา

บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น

เซี่ยเชียนฮวันเงยหน้าขึ้น สบตากับเซี่ยอี๋หมู่ที่แววตาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย

"ก่อนหน้านี้ไม่นาน ฝ่าบาทได้ประทานไข่มุกราตรีแก่องค์ชายทุกองค์ที่มีพระชายาแล้วจำนวนสองเม็ด อาทิเช่นองค์รัชทายาท องค์ชายรองและองค์ชาย 6 เหล่านั้นล้วนนำมาให้ตระกูลของภรรยาคนละหนึ่งเม็ด จวนท่านโหวมีพระชายาจ้านอ๋องอยู่ เหตุใดจึงไม่ได้รับไข่มุกราตรีเล่า?"

เซี่ยอี๋หมู่หัวเราะแล้วมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันด้วยความเยือกเย็น

เซี่ยเหล่าไท่จวินเป็นผู้ที่มีความละโลภมาก

เมื่อนางได้ยินดังนั้น จึงกล่าวขึ้นว่า "ท่านโหว ตอนนั้นที่ข้ายกบุตรสาวให้แก่ท่าน ท่านบอกว่าเป็นกำพร้ามารดามาตั้งแต่เด็ก จึงเห็นข้าเปรียบเสมือนกับแม่แท้ ๆ ของท่าน บัดนี้ข้าเพียงแค่อยากได้ไข่มุกราตรีสักเม็ด ไม่ได้เชียวหรือ?"

บัดนี้นางไม่ได้กล่าวว่าจะขอดูอย่างเดียว

นางได้เอ่ยขอตรงไปตรงมา

เซี่ยเชียนฮวันส่งเสียงดังขึ้นขัดจังหวะด้วยความยากเย็น "ท่านยายเจ้าค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของบิดาข้า ทุกคนรวมตัวกันที่นี่เพื่อแสดงความยินดีเฉลิมฉลองต่อเขา หาใช่วันที่ท่านจะมาเบ่งอำนาจให้ใครเห็น"

"เจ้าเด็กคนนี้! ได้เป็นพระชายาอ๋องแล้วจึงไม่เห็นญาติผู้ใหญ่ในสายตางั้นหรือ!"

เซี่ยเหล่าไท่จวินโมโหจ้องมองไปที่นาง

เซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้าเล็กน้อย

ทางด้านราชสำนักนั้น ขุนนางบางคนแต่ละวันไม่มีอะไรทำ พวกเขานั่งเฉย ๆ และคอยสนทนาถึงเรื่องคนอื่นอยู่เป็นประจำ

หากว่าเรื่องราวเผยแพร่ออกไปว่าอันติ้งโหวจงใจอกตัญญู คงจะถูกพวกเขายื่นเรื่องฟ้องร้องเป็นอย่างแน่นอน

"เฮ้อ หลานสาวคนนี้ของข้าถูกท่านพี่ตามใจเสียจนเสียนิสัย ไม่อาจได้รับความรักจากสามีแล้วยังทำให้ท่านอ๋องต้องเสียหน้า ข้าช่างรู้สึกสงสารพวกเขาเหลือเกิน" เซี่ยอี๋หมู่กล่าวออกมาอย่างไม่ปิดบัง

เพราะถึงอย่างไรเซี่ยเชียนฮวันก็เป็นเพียงพระชายาอ๋องที่ไม่ได้รับความโปรดปราน จ้านอ๋องอยากจะหย่าร้างกับนางเหลือเกินแล้ว

ส่วนอันติ้งโหวฮูหยินก็เป็นพี่สาวของนางแท้ ๆ

นางไม่มีสิ่งใดต้องเกรงกลัว

ใบหน้าของเซี่ยเหยียนดูมืดมน เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "ที่นี่มีหนู ข้าไม่อยากกิน"

"เจ้ารีบร้อนไปไหนกันเซี่ยเหยียน ข้าในฐานะน้าเจ้า ตำหนิน้องสาวของเจ้าสองสามประโยคเป็นอย่างไรไป?"

เซี่ยอี๋หมู่ยิ้มขึ้นด้วยความเยือกเย็น

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าหนักอึ้งก็ดังมาตรงบริเวณทางเดิน ตามมาด้วยรังสีอำมหิตเยือกเย็น ค่อย ๆ แผ่ซ่านเข้าไปในห้องโถง

ผู้มีหูล้วนได้ยินเสียงกระทบกันของฝักดาบ

แล้วพากันหุบปากลง

เซี่ยอี๋หมู่ยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา ปากของนางยังคงเราะร้ายกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของบิดาพวกเจ้า จ้านอ๋องไม่เดินทางมายังไม่เท่าไหร่ แต่เจ้ายังกลับใส่ร้ายว่าเขาไม่สบาย ......"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี