หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 125

จงกลนึกว่าสาริศาจะตกใจจนสำลัก จึงได้กล่าวยิ้มเยาะ “ทำไม เธอกลัวเหรอ ฉันขอเตือนเธอไว้นะ ถ้าเธอยังจะเข้าใกล้ธนพัตอีก ฉันจะเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวของพวกเธอให้กับภรรยาที่แท้จริงของเขาได้ทราบ จะได้มาจัดการเธอ ถอดเสื้อผ้าของเธอกลางสาธารณะ จากนั้นตบตีเธอจนกระอักออกมาเป็นเลือด ถึงเวลานั้นเธอจะมาโกรธฉันไม่ได้นะ เป็นเธอที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง!”

สาริศาอดไม่ได้ที่จะขำ 

ที่แท้จงกลนั้นอิจฉาตัวเองมาก

เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอก็คือภรรยาของคุณธนพัต

เธอยังบอกว่าอะไรนะ ให้สาริศามาตบตีตัวเอง?

นี่ช่างขำชะมัด สาริศารู้สึกสงสัยว่าทำไมสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้จึงมักถูกจับพลัดจับผลู

สาริศาไม่อยากจะฟังคำแดกดันและคำข่มขู่ของจงกลอีก เธอรู้สึกว่าการเจรจากันครั้งนี้สำหรับเธอแล้ว ไม่มีความหมายอะไรเลย

เธอลุกขึ้นแล้วกล่าว “คุณพูดจบแล้วใช่ไหม ฉันต้องขอตัวก่อน บริษัทมีงานที่ต้องจัดการอีกเยอะแยะ เชิญคุณตามสบาย ออ ค่ากาแฟของฉันนั้นได้จ่ายเงินไปแล้วนะ”

จงกลไม่บรรลุในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ในใจจึงยังคงรู้สึกว่าสาริศาคนนี้คือตัวอุปสรรคปัญหา

“ออ ฉันขอพูดอีกสักหนึ่งประโยคนะ” สาริศามองมาทางสายตาที่เคียดแค้นของจงกล จากนั้นกล่าว “เรื่องของความรู้สึก ไม่มีใครสามารถบังคับกันได้”

จงกลทรุดตัวไปนั่งลงบนโซฟา 

ให้ตายเถอะ สาริศาคนนี้ทำไมถึงพูดยากพูดเย็น ไม้อ่อนไม่ชอบ!

สาริศาวิ่งเหยาะ ๆ จนมาถึงบริษัท กลับไปนั่งที่ตำแหน่งแล้วเขียนรายงานข่าวของเธอต่ออย่างเงียบ ๆ 

จงกลในบทความ เธอก็ไม่มีการไว้หน้า ความจริงก็คือความจริง เธอก็ควรที่จะสั่งสอนจงกลสักหน่อย หากเธอยังจะตอแยธนพัตแบบนี้ไม่เลิก เห็นทีว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อเส้นทางการเป็นดาราของเธอ

สาริศาทำเช่นนี้ก็เพื่อหวังดีกับจงกล เพราะว่าต่างเป็นผู้หญิงด้วยกัน ออกมาทำงานหาเลี้ยงชีพนั้นไม่ง่าย เธอทรมานเธอทุกวิถีทาง สาริศาจะไม่เป็นคนที่ยอมให้โดนกดขี่แน่

หนึ่งวันผ่านไปอย่างราบรื่น ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน คนในห้องสำนักงานวันนี้ต่างคนต่างยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง เมื่อเลิกงานต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับไป

สาริศาคือคนสุดท้ายที่จากห้องสำนักงานไป พบว่าที่ห้องทำงานของธีภพยังคงเปิดไฟสว่างอยู่ เธอจึงได้จากไปอย่างเงียบ ๆ 

ธนพัตส่งข้อความมาบอกว่าคืนนี้เขาจะกลับไปทานข้าวที่บ้าน

สาริศาถามเขาว่าอยากจะกินอะไร เขาจึงตอบกลับอย่างไม่อายว่า อยากกินคุณ

ใบหน้าสาริศาแดงก่ำขึ้น และก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพที่ทั้งสองอาบน้ำด้วยกันเมื่อคืน

อยากรีบกลับบ้านใจจะขาด

ธนพัตเดินผ่านร้านดอกไม้ จึงได้แวะซื้อดอกไม้สดช่อหนึ่งเพื่อมอบให้กับสาริศา เพื่อให้เธอดีใจสักหน่อย

เขารู้ว่าเธอชอบดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์มาก ซึ่งถูกกล่าวถึงในข้อมูลตอนที่สืบค้นประวัติของสาริศาก่อนหน้านี้

แม่บ้านได้เตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว  แต่ละรายการอาหารดูประณีตและมีคุณค่าทางโภชนาการ

สาริศากำลังครุ่นคิดว่าเมื่อไรที่ตัวเองสามารถทำอาหารเก่งเหมือนแม่บ้านได้ก็คงจะดี เช่นนี้แล้วต่อให้ธนพัตจะกินยาก เธอก็สามารถมีวิธีรับมือได้

สาริศาชอบดอกไม้ที่ธนพัตมอบให้มาก ดมกลิ่นหอมของดอกไม้ ช่วยขจัดความเหนื่อยล้าของวันได้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะรู้ว่าเธอชอบดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์นี้ ทำให้สาริศารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ธนพัติช่างเป็นคนที่เอาใจใส่จริง ๆ

ธนพัตทานอาหารในปากเสร็จ เขาก็ได้กล่าวกับสาริศาว่า “วันนี้เป็นไงบ้าง ที่บริษัทยังมีคนรังแกคุณไหม”

เขาไม่พูดถึงก็ยังดี พอพูดถึงเท่านั้นแหละจิตใจของสาริศารู้สึกอึดอัดขึ้นมา

เธอกล่าว “ที่บริษัทวันนี้ไม่มีใครรังแกฉัน ฉันสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงขนาดนี้ จะมีใครทำอะไรฉันได้”

สาริศาได้กล่าวเสริมอีกหนึ่งประโยค “แต่ จงกลที่บ้าคุณได้มาหาฉัน”

ธนพัตไม่พอใจเมื่อได้ยิน จงกลคนนี้นิ ทั้ง ๆ ที่เขาได้กำชับกับเธอแล้วแท้ ๆ ว่าห้ามแตะต้องสาริศา แต่เธอกลับไม่ฟัง พอหันหัวเท่านั้นก็ไปหาเรื่องสาริศาแล้ว!

ธนพัตถาม “เธอพูดอะไรกับคุณบ้าง”

สาริศาคนนี้จิตใจร้ายมากจริง ๆ

ธนพัตดูคอลัมน์ในนิตยสาร ชื่อของสาริศานี้ มุมปากยกขึ้น

คืนนี้ เขาจะต้องให้เธอได้เห็นดี ครั้งนี้จะปล่อยเธอไปง่าย ๆ ภายใต้การอ้อนวอนของเธออีกไม่ได้!

ไม่จัดการเธอสักหน่อย เกรงว่าเธอคงจะไม่รู้สึกกลัว

ขณะที่ธนพัตกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เลขาที่อยู่ด้านนอกประตูได้เข้ามารายงานว่าชรัณกลับมาแล้ว ยังพาเมธาวินมาด้วย เมื่อเอ่ยถึงเมธาวินนั้น ท่าทางของชรัณก็กระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ 

ธนพัตกำชับสั่งให้ชรัณรีบนำพวกเขาเข้ามา

ชรัณพาเมธาวินที่ถูกมัดมือไขว้หลังเข้ามา ท่าทางยังคงตระหนกตกใจ

เขามองมาทางธนพัตแล้วขยี้ตาขึ้นก่อนจะได้สติคืน 

เขาตะโกนขึ้น “ธนพัต นี่นายทำบ้าอะไร! เพื่อนกันที่ไหนทำแบบนี้? รีบให้ชรัณปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”

เช้าตรู่ที่คอนโดฯส่วนตัวของเมธาวิน เขากำลังโอบสาวงามแล้วนอนฝันหวานอยู่ ใครจะไปรู้ว่าจะถูกชายหนุ่มคนหนึ่งกระชากลงมาจากเตียง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเป็นชรัณ ตอนนั้นเขาโมโหมาก!

ยังไม่ทันรอให้เมธาวินได้ดุด่า ชรัณก็เตรียมตัวจะลงมือกับเขา เขารู้ฝีมือของชรัณดี จึงบอกว่าอย่างไรก็ต้องให้

ใส่เสื้อผ้าก่อนสิ แต่แล้วกลับใส่อย่างอุตลุดพัลวัน ชรัณก็ได้มัดตัวของเขาไว้ตลอดทาง

ตลอดทางถามชรัณว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ตอบเขา เขาจึงโมโหจนตัวสั่น

ตอนนี้ เขายังต้องมายืนอยู่ด้านหน้าของธนพัตที่นั่งอยู่ ราวกับนักโทษ ไม่มีน้ำดื่ม แม้แต่รอยยิ้มก็ไม่มี

เมธาวินโมโหมาก เขากล่าว “ธนพัตนายเรียกฉันมาทำไม และเขาเชิญคนกันแบบนี้เหรอ!”

ธนพัตแววตาดุดัน ไม่มีมิตรภาพความเป็นพี่น้องมิตรสหายสักนิด “เมธาวิน ฉันขอถามหน่อย สองปีก่อนนายได้อยู่ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ไหม ได้ทำมิดิมิร้ายกับผู้หญิงที่ถูกวางยาไหม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ