หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 151

ตอนที่สาริศาออกจากบริษัท ทันใดนั้นก็ได้รับสายจากสุวิทย์พ่อของเธอ

สุวิทย์พูดว่า “ริศา ได้ยินว่าแม่ของลูกฟื้นแล้ว ช่วงนี้สุขภาพร่างกายเป็นยังไงบ้าง ต้องเข้าโรงพยาบาลอีกหรือเปล่า”

สาริศาตอบว่า “แม่ฟื้นแล้วค่ะ ร่างกายก็พอไหว ตอนนี้แม่ต้องพักฟื้น”

สุวิทย์หวนนึกถึงอดีต

กันยาในตอนนั้น ผมสีดำขลับยาวประบ่า ริมฝีปากแดงสวยราวกับดอกลิลลี่แมงมุม ความรักของเขาที่มีต่อกันยาเป็นรักแรกพบจริงๆ

แต่ทว่า ธุรกิจของตระกูลธราภักดิ์มักจะต้องติดต่อไปมาหาสู่กับบ้านของโศภิตาอยู่เป็นประจำ ตอนนั้นตระกูลวราภักดิ์ต้องเจอกับวิกฤติที่หนักหน่วงเอาการ ตระกูลธราภักดิ์ของพวกเขาไม่กล้าผิดใจกับทางบ้านของโศภิตาเด็ดขาด

ตอนนั้น เขาทิ้งกันยาไปอย่างไม่มีทางเลือก เขาหวังว่าจะได้รับการให้อภัยจากกันยา

หลายปีมานี้ สาริศาลูกสาวก็โกรธที่ตนเองทรยศความเชื่อใจมาตลอด โศภิตาเองก็ไม่ยอมปล่อยกันยา ไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้พวกเธอเลย

ตอนนี้กันยาฟื้นแล้ว เขาคิดถึงเธอมาก ได้แต่โทรศัพท์หาเธอ ได้ฟังเสียงเธอก็พอ

ตอนที่สุวิทย์ถือโทรศัพท์อยู่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรนั้น โศภิตาก็เข้ามานั่งข้างสุวิทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอแย่งโทรศัพท์มา

“ฮัลโหล สาริศาเหรอ ฉันโศภิตา สุดสัปดาห์นี้มาทานอาหารพร้อมกันที่บ้านสิ เธอต้องมานะ”

พอสาริศาได้ยิน เสียงในโทรศัพท์จู่ๆก็กลายเป็นโศภิตา เธอเกลียดพ่อที่อ่อนแอคนนั้นมากจริงๆ ผู้หญิงที่แข็งกระด้างแบบนี้ เขารักลงไปได้ยังไง

สาริศาไม่อยากไม่ทานข้าว ครั้งก่อนไปทานข้าว คนในครอบครัวทำกับเธอแบบนั้น เธอทนมามากพอแล้ว หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง

ดังนั้นจึงพูดว่า “ขอโทษด้วยนะคะ วันอาทิตย์เกรงว่าฉันจะต้องทำงานล่วงเวลา”

โศภิตาหัวเราะเยาะ พูดว่า “ทำงานล่วงเวลาเหรอ ไม่เป็นไรนี่ เจ้านายเธอก็คือน้องเขยเธอไม่ใช่เหรอ ให้เขายกเลิกการทำงานนอกเวลาก็ได้แล้วนี่ ฉันไม่สน ยังไงวันอาทิตย์นี้เธอก็ต้องมา”

ทำไมต้องให้เธอมาให้ได้ โศภิตาจะใจดี ถึงขนาดมาเชื้อเชิญเธอไปเหรอ

สาริศาไม่สามารถปฏิเสธเธอได้ ได้แต่รับปากไป

โศภิตาวางสายด้วยความพึงพอใจ จากนั้นกลอกตามองบนใส่สุวิทย์ เธอพูดว่า “อย่าไปหากันยาอีก คุณก็คิดเสียว่าเธอไม่ได้ฟื้นขึ้นมาแล้วกัน”

ตอนแรกสุวิทย์ยังอยากจะถามอาการของกันยาอีก เห็นโศภิตาวางสาย เขาก็ก้มหน้าไม่พูดอะไร ในใจคิดว่ารอวันอาทิตย์ตอนที่ลูกสาวกลับมากินข้าว ตนเองค่อยแอบถามเธอก็ได้

ธนพัตเห็นสาริศาหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็รู้ว่าคนที่ปลายสายนั้นต้องไม่เป็นมิตรแน่นอน

ธนพัตถามเธอว่า “เอาอย่างนี้มั้ย ผมไปกับคุณด้วย”

สาริศาลังเลอยู่ชั่วครู่ พูดว่า “ช่างเถอะ ฉันไปเองดีกว่า”

ไม่ใช่ว่าสาริศาไม่อยากให้ธนพัตไปที่บ้านพ่อของเธอ แต่เธอรู้ดีสภาพที่นั่นกับปากคอของคนพวกนั้นดี เธอไม่อยากให้ธนพัตต้องถูกดึงเข้าไปพัวพันกับครอบครัวแบบนี้

ธนพัตต้องปกป้องตนเองแน่นอน ถึงเวลาก็จะเป็นเรื่องตลกที่ อธิบายได้ไม่ชัดเจนอีก สาริศาอยากจะมีเกียรติศักดิ์ศรีอยู่บ้างต่อหน้าธนพัต

วันอาทิตย์ สาริศามาที่บ้านตระกูลธราภักดิ์ตามนัด

ประตูของบ้านตระกูลธราภักดิ์ปิดสนิทอยู่ สาริศาเคาะประตูเบาๆ

แม่บ้านออกมาเปิดประตู เชิญเธอเข้าไป

โศภิตากำลังนั่งดื่มชาอยู่บนโซฟา ไรยานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และก็มีธีภพอยู่ด้วย

โศภิตาเห็นสาริศามาแล้ว ก็ลุกขึ้นยืน ด้วยท่าทางพึงพอใจ เธอพูดว่า “ทำไมเธอเพิ่งมา คนทั้งบ้านกำลังรอเธออยู่”

ธีภพหันหน้ามา เห็นว่าคนมาเป็นสาริศาก็ตกใจ

สาริศาวางตะเกียบลง พูดว่า “ฉันอิ่มแล้วค่ะ พวกคุณค่อยๆทานกันเถอะนะคะ”

โศภิตาเอ่ยว่า “รีบร้อนอะไร ดื่มสักแก้วสองแก้วสิ วันที่มีความสุขขนาดนี้ เธออย่าเพิ่งทำให้เสียบรรยากาศ”

ไรยาอยากจะขัดขวางการกระทำของแม่ แต่เธอไม่ได้สนใจ ไม่ยอมที่จะเข้าใจเลย

ธีภพเห็นสาริศาถูกโศภิตาระราน ในใจก็รู้สึกไม่ดีนัก เขาอยากจะปกป้องเธอ

แต่ส่า เขามีสิทธิ์อะไร เขาจะแต่งงานกับไรยาอยู่แล้ว

โศภิตาพูดต่อไปว่า “เห็นแหวนแต่งงานบนนิ้วมือเธอ ที่ดูเชยไร้ค่า สามีเลี้ยงเธอไหวเหรอ คงไม่ใช่ว่าสองคนพากันกลับมาขอเงินพ่อเธอหรอกนะ เฮ้อ ผู้หญิงเราเนี่ยนะ ไม่มีเสน่ห์ ไม่มีความบริสุทธิ์ ก็ต้องจำยอมแต่งงานกับยาจกคนหนึ่ง ชีวิตนี้ก็คงจบสิ้นแล้ว น่าสงสารจริงๆ ผู้หญิงควรจะต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย มีทุกคนคอยทำให้ทุกอย่าง นี่ถึงจะเป็นชีวิตที่มีความสุข น่าเสียดายนะ สาริศา ฉันรู้สึกว่าทำไมเธอถึงน่าสงสารแบบนั้น เฮ้อ”

“แม่ พูดเรื่องอื่นเถอะนะคะ”

ไรยาอยากให้แม่หุบปาก อย่าพูดต่อไปอีก

แต่โศภิตาไม่ยอมหยุด

วันนี้เธอจะให้สาริศารู้ว่า ตลอดชีวิตนี้เธอไม่มีทางสู้ลูกสาวตนเองได้

โศภิตาพูดอีกว่า “ไรยาของพวกเราเป็นคนจิตใจดี กลัวว่าคนเป็นพี่สาวอย่างเธอจะรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า เธออย่าคิดมากเลยนะ เธอเนี่ย ชีวิตนี้อย่าคิดจะลืมตาอ้าปากเลย คนจนจะหาเงินหาทองไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่รู้เมื่อไหร่ที่พวกเธอกลายเป็นคนรวย นั่นคงต้องอาศัยความสามารถ ภพของพวกเราเป็นถึงคุณชายของตระกูลกีรติเมธานนท์ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ไรยาของพวกเราอยู่กับเขา ฉันก็สบายใจ ภพต้องไม่ให้ไรยาของพวกเราต้องลำบากแน่นอน เหอะๆ”

“แม่! หยุดพูดได้แล้ว” คำพูดของโศภิตา พูดจนไรยายิ่งรู้สึกกระดากอาย ถ้ารู้ว่าสามีของสาริศาดีเลิศขนาดนั้น คำพูดของแม่ในตอนนี้ก็เท่ากับเป็นการตบหน้าตนเอง

โศภิตายังไม่ยอมเลิกโอ้อวด กำลังเตรียมที่จะพูดอีก ทันใดนั้นสุวิทย์ก็รับโทรศัพท์สายหนึ่ง

หลังจากรับสาย สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ