หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 203

ธนพัตกดเสียงของตัวเองต่ำลง อย่างนี้มันฟังไปแล้วยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม ในดวงตาของเขาได้แผ่พลังการโจมตีออกมา

ไรยาได้ถูกทำให้กลัวไปเล็กน้อย แต่บนใบหน้าก็ไม่อาจข้ามผ่านอารมณ์ในตอนนี้ไปได้ ทำได้แค่เพียงหันไปโกรธใส่สาริศาไปอีกครั้ง พูดออกไปว่า “สาริศา เธอนี่มันดีจริง ๆ เลย เธอมันไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นจริง ๆ เลย! เธอคิดว่าเธอตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลธราภักดิ์ไปแล้ว จบกันไปแล้วก็จะไปเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว? ฉันจะบอกเธอเอาไว้นะ ในเลือดของเธอมันมีเลือดของพ่อฉันไหลเวียนอยู่ ชั่วชีวิตนี้เธออย่าคิดจะลบล้างมันออกไปเหมือนกัน!”

เธอหันหน้าไปพูดกับธนพัตต่อ “คุณธนพัต วันนี้ฉันมาเยี่ยมพี่สาวฉันสักหน่อยด้วยความหวังดี ได้ยินมาว่าเธอท้องแล้ว ฉันมาดูเธอสักหน่อยว่าสบายดีหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

เธอนึกว่าเธอคลี่คลายสถานการณ์ให้ตัวเองไปอย่างนี้ ธนพัตจะมีความเกรงใจต่อเธอขึ้นมา

แต่นึกไม่ถึงว่า ธนพัตจะเพียงแค่ยิ้มเยาะออกมา น้ำเสียงเย็นชาเสียจนเหมือนกับประดับไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง “ไรยา ทางที่ดีเธออย่ามาได้คืบจะเอาศอกจะดีกว่า คนที่เธอช่วยคือฉัน ไม่ใช่สาริศา ฉันสามารถทดแทนบุญคุณเธอได้ แต่เธออย่าคิดจะมารังแกสาริศา”

เสียงของธนพัตเยือกเย็นและอึมครึมเสียจนน่ากลัว ไรยาถูกทำเอากลัวไปบ้างเล็กน้อย

แต่ไม่นาน เธอก็ได้เยาะหยันออกมาอีกครั้ง “คุณธนพัต คุณอย่าลืมนะว่าเมื่อตอนนั้นคนที่ช่วยคุณคือใคร ตอนนี้คุณกลับมาถามฉันแทน?”

ไรยากอดอกนั่งอยู่บนโซฟา ภายในใจมั่นใจเต็มร้อยว่าธนพัตได้ยินคำพูดนี้แล้ว จะต้องนึกถึง “บุญคุณ” ของตนขึ้นมาได้อย่างแน่นอน และทนต่อการเสียมารยาทไปของตน ดังนั้นจึงพูดต่อออกไปว่า “คุณไม่ใช่ว่าต้องการจะตอบแทนไม่ใช่หรือไง? คุณไม่ใช่ว่าบอกว่าสามีภรรยาถือเป็นคนเดียวกัน มีเรื่องอะไรก็เผชิญมันไปด้วยกันหรือไง? ทำไม!? ตอนนี้อยากจะกลับคำแล้ว? ฉันมาหาคุณ ฉันเป็นแขก บอกให้ภรรยาของคุณรินชาให้แล้วมันจะทำไม? ท้องแล้ว ล้ำค่าขึ้นมาแล้ว? ไม่ใช่ว่าเป็นแค่ลูกของเมียน้อย——“

“ไรยา”

คำพูดของไรยายังไม่ทันได้พูดจบ จู่ ๆ ธนพัตก็ได้พูดเสียงเย็นออกมา ขัดเธอเสียก่อน

เธอนิ่งอึ้งไป เงยหน้าขึ้นมองไปทางธนพัต ก็ได้พบว่าสายตาของอีกฝ่ายมันเยือกเย็นเสียจนน่ากลัว

“ไสหัวออกไป” ธนพัตเห็นได้ชัดว่าคร้านจะมาพูดกับไรยาอีกแม้แต่คำเดียว เพียงแค่พ่นประโยคนี้ออกไปอย่างเยือกเย็น

ไรยาได้อึ้งไปโดยสมบูรณ์

“ธนพัตคุณหมายความว่าอะไร?” เธอได้เด้งตัวลุกยืนขึ้นมาในทันที “คุณทำอย่างนี้กับผู้มีพระคุณของคุณ——“

“ไม่ว่าเธอจะใช่ผู้มีพระคุณของฉันหรือเปล่า” ธนพัตได้ขัดคำพูดของไรยาออกไปอีกครั้ง “ขอเพียงแค่เธอล่วงเกินสาริศาไป ฉันก็จะไม่มีวันยกโทษให้เธอแล้ว”

ธนพัตเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เบาบาง สายตาที่เยือกเย็นได้จรดไปที่ร่างของไรยา ไรยาได้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับกำลังยืนอยู่ที่ในห้องใต้ดินขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันภายในใจก็รู้สึกว่ามันได้เต็มไปด้วยความรู้สึกช็อกไปหมด

ในภาพจำของเธอนั้นธนพัตเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับน้ำใจและศีลธรรมมาก ก็เพราะว่าแบบนี้ เธอถึงได้หวังว่าจะสามารถยืมมือธนพัตมาตบหน้าสาริศาไปดี ๆ ได้

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า...

ท้ายที่สุดเธอก็ได้ประเมินตำแหน่งความสำคัญของสาริศาในสายตาของธนพัตได้ต่ำไปงั้นเหรอ?

ไม่ได้ ธนพัตยังมีประโยชน์อยู่ เธอไม่อาจตัดทางหนีทีไล่ทั้งหมดไปได้ ไม่อาจปล่อยมือออกไปจากความหวังสุดท้ายไปได้

คิดได้ดังนั้นแล้ว ไรยาก็ได้เปลี่ยนสีหน้าไปทันที ได้เอามือไปจับท้องไปด้วยใบหน้าที่มันจะต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

“โอ้ ขอโทษนะ ท้องมานานแล้ว ยากที่จะหลีกเลี่ยงกับการตอบสนองทางอารมณ์อยู่บ้าง ขี้โมโหขี้งอนไปหน่อย เชื่อว่าคนใจกว้างอย่างพี่สาวจะต้องใจกว้างให้อภัยต่อความผิดพลาดของน้องสาวใช่มั้ย เพราะถึงยังไง พี่สาวเองก็เป็นคนท้องด้วยเหมือนกันนี่”

ไรยาได้เน้นคำว่าคนท้องไปอีกครั้ง กลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเธอกับสาริศาต่างก็เป็นคนท้องด้วยกันทั้งคู่

ทางอีกด้านนึง สาริศาตอนที่ได้ยินธนพัตปกป้องตนนั้น ก็ได้ตะลึงค้างไปด้วยเหมือนกัน

เธอรู้ว่าธนพัตใส่ใจกับผู้มีพระคุณที่ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้เมื่อสิบปีก่อนมากแค่ไหน ดังนั้นแล้วสำหรับการดูถูกเหยียดหยามของไรยานั้น ถึงแม้ว่าในใจจะคับข้องใจขึ้นมา แต่เธอก็ได้เตรียมใจอดทนอดกลั้นกับมันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

แต่นึกไม่ถึงว่า ธนพัตจะช่วยพูดแทนเธอออกมา

ภายในใจของสาริศารู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา สำหรับการยั่วยุประหนึ่งตัวตลกที่ได้กระโดดเต้นเร่าไปทั่วของไรยา ก็ไม่ได้ไปใส่ใจอะไรมากมายหรอก เพียงแค่ชำเลืองมองเธอไปอย่างเยือกเย็นไปทีนึง “ในเมื่อรู้ว่าตัวเองก็ท้อง งั้นก็รีบบอกจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของเธอออกมาสิ รีบ ๆ จัดการธุระให้เสร็จ ๆ จะได้กลับไปพักผ่อนเสียที”

ไรยาใบหน้าบิดเบี้ยวออกมา พลางส่งเสียงฮึดฮัดเสียงเย็นออกมา “ฉันมาหาคุณธนพัต ไม่อยากให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ที่นี่”

สีหน้าของธนพัตได้เผยสีหน้าโกรธเกรี้ยวออกมาอีกครั้ง แต่สาริศาไม่อยากจะโต้เถียงกันขึ้นมาอีก จึงได้เป็นฝ่ายพูดออกไปเองว่า “ได้ งั้นฉันกลับไปพักก่อน”

พูดไปแล้ว เธอก็คร้านจะมองไรยาไปมากกว่านี้แล้วเหมือนกัน จึงพาตัวเองกลับไปที่ห้องไป

“ชรัณ” รอจนไรยาออกไปแล้ว ธนพัตได้พูดเสียงต่ำออกมา

“ครับ”

“โอนไปที่บัญชีของไรยาสี่สิบล้าน”

“คุณชายพัท!” ชรัณได้มองธนพัตไปด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล “คุณจะโอนเงินไปอย่างนี้เลย? ไรยาคนนี้ชักจะเรียกร้องกันมากเกินไปแล้ว!”

“สามารถใช้เงินแลกคืนกับบุญคุณไปได้ มันก็ไม่นับว่าอะไรมากมาย” ธนพัตพูดออกมานิ่ง ๆ

“ไรยาคนนี้หัวแข็งเอาแต่ใจเสียขนาดนี้ จะเป็นเด็กผู้หญิงที่จิตใจดีงามมีเมตตาที่ได้ช่วยชีวิตคุณชายเมื่อตอนนั้นจริง ๆ เหรอครับ?” ชรัณอดไม่ได้ที่จะสอดปากเข้าไปยุ่ง

“บางทีอาจจะเป็นเพราะเวลามันได้ลบล้างความมีเมตตาเมื่อตอนเด็กของเธอไป และบางทีก็อาจจะเป็นเพราะเดิมทีเธอก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อวันนั้นใจอ่อนขึ้นมาพอดี จึงได้ช่วยฉันขึ้นมาล่ะมั้ง” บนสีหน้าของธนพัตได้เผยสีหน้าอ่อนเพลียออกมา “แต่ไม่ว่าจะยังไง ก็มีเพียงแค่เธอที่มีความสอดคล้องที่สุดแล้ว ก็ทำได้แค่เพียงต้องเป็นเธอไปอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว”

“ผม...”

ชรัณยังอยากจะพูดอะไรออกไปเพื่อร้องบ่นต่อความอยุติธรรมให้กับธนพัตไป

แต่ธนพัตกลับได้ไถรถเข็นออกไปเสียแล้ว “เอาล่ะ นายไปเถอะ”

“ครับ” ชรัณไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปมากมายอีก จำต้องเดินออกไป

ทางอีกด้านนึงนั้น ไรยาได้ขึ้นรถแท็กซี่ไปเห็นการแจ้งเตือนการรับเงินจากธนาคารในข้อความบนโทรศัพท์ ได้เผยรอยยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เธอรู้อยู่แล้วว่ากดดันธนพัตไปมันจะต้องไม่เลวอย่างแน่นอน

ไรยาเงยหน้าไปพูดกับคนขับรถแท็กซี่ “พาฉันไปที่โรงพยาบาลพัฒนา”

คนขับได้ขมวดคิ้วออกมา “มันไกลมากเลยนะ คุณผู้หญิงแถว ๆ นี้ก็มีโรงพยาบาลอื่นอยู่นะครับ”

ไรยามีสีหน้าเยือกเย็นออกมา “ไม่ ฉันจะต้องไปที่โรงพยาบาลพัฒนา”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ