ได้ยินสิ่งที่โศภิตาพูด ทั้งงานก็ราวกับมีเสียงระเบิดดังปัง นี่มันเรื่องอะไรกันเหนี่ย? พวกเขาแค่มาร่วมงานศพเฉยๆเท่านั้น ทำไมถึงได้ยินข่าวประเด็นร้อนแบบนี้?
ทันใดนั้น คนที่อยู่ในงานก็ต่างหันไปทางสุวิทย์และพูดถึงเขา ลูกสาวของตัวเองเพิ่งตายไป ตอนนี้ภรรยาของตัวเองก็ออกมายืนพูดว่าลูกสาวอีกคนไม่ใช่ลูกของตัวเอง นี่มันชะตาอะไรของผู้ชายคนนี้กันเหนี่ย?
“เธอพูดไร้สาระอะไรเหนี่ย!” รู้สึกถึงสายตาผู้คนที่มองมาที่ตนอย่างแปลกๆ สุวิทย์เดินขึ้นเข้าไปและตบหน้าโศภิตาอย่างแรง และลากเธอออกไปข้างนอก “เธอกลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำตัวน่าขายหน้าที่นี่”
โศภิตาใช้แรงสะบัดสุวิทย์ ไม่สนใจที่เขาตบเธอ และพูดอย่างเสียงดัง “ฉันไม่ได้พูดมั่วซั่วนะ!”
เมื่อหันมา โศภิตาก็มองสาริศาอีกครั้ง พลางพูดด้วยสีหน้าดุร้าย “สาริศา ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอฉันก็เกลียดเธอ เธอมันแค่ลูกนอกสมรส เธอมีสิทธิ์อะไรเข้ามาในบ้านฉัน!
ฉันพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาล แค่อยากให้ทำหลักฐานปลอม ให้สุวิทย์ไล่เธอออกจากตระกูลธราภักดิ์ คิดไม่ถึงว่าพระเจ้าจะช่วยฉัน นังสารเลวเธอมันไม่ใช่ลูกของสุวิทย์จริงๆ”
คำพูดประโยคนี้ของโศภิตา ก็ทำให้สาริศานึกขึ้นได้ ตอนนั้นที่ยังเด็กๆ โศภิตาเคยพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลครั้งนึงจริงๆ บอกว่าเธอหน้าเหลืองและผอมซูบ อยากจะช่วยเธอตรวจร่างกาย หลังจากนั้นก็จะช่วยดูแลเธอ
ตอนนั้นสาริศายังรู้สึกซาบซึ้ง รู้สึกว่าคุณป้าคนนี้ไม่เลว คิดไม่ถึง ตอนนั้นโศภิตาจะมีเป้าหมายแบบนี้
“นั่นเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากคุณรู้นานแล้วว่าฉันไม่ใช่ลูกของสุวิทย์ คุณจะไม่บอกเขาได้ยังไง!” สาริศาไม่เชื่อเรื่องที่โศภิตาพูดเด็ดขาด
จากที่เธอพูด ในตอนนั้นเป้าหมายของโศภิตาก็คืออยากไล่ตนออกจากตระกูลธราภักดิ์ งั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะไม่บอกกับสุวิทย์ แถมหลายปีที่ผ่านมาก็เก็บความลับของตนไว้
“นี่ก็ต้องถามแม่ของเธอแล้ว” โศภิตามองกันยาที่อยู่ด้านข้าง “ว่าไง กันยา ถึงขั้นนี้แล้วเธอไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ? ”
“แม่ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ? ” สาริศามองไปทางกันยา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
ตอนที่โศภิตาพูดออกมาว่าสาริศาไม่ใช่ลูกของสุวิทย์นั้น หน้าของกันยาก็ซีดยื่นนิ่งอยู่กับที่ทำตัวไม่ถูก ตอนนี้เห็นว่าสาริศาถามตนอย่างกระวนกระวาย ก็ยิ่งกลัวจนตัวสั่นไปทั้งร่าง ความลับนี้ หรือว่าจะปิดไม่มิดแล้วเหรอ?
“ริศา แม่......แม่......” กันยาไม่รู้ว่าจะอธิบายกับสาริศายังไงดี ทำได้แค่น้ำตาไหลไม่หยุด
เมื่อเห็นกันยาร้องไห้ไม่พูดไม่จา ในใจของสาริศาก็มีความรู้สึกไม่ปลอดภัย “แม่ แม่พูดสิ หนูจะไม่ใช่ลูกของพ่อได้ยังไง? แม่รีบพูดกับพวกเขาให้ชัดเจนสิ!” สาริศาร้อนรนจนแทบจะร้องไห้แล้ว
แต่กันยาทำได้แค่ร้องไห้พลางส่ายหน้า และพูดไม่หยุด “ขอโทษ ขอโทษริศา แม่ขอโทษลูก......”
“กันยา ตอนนี้เธอพูดไม่ออก งั้นฉันพูดแทนเธอเอง” โศภิตาจ้องกันยาตาเขม็ง สีหน้าที่ดุร้ายปนด้วยสายตาพออกพอใจ “ตอนแรก ที่ฉันรู้เรื่องนี้ก็ไปหาเธอ ตัวเธออยู่ที่ด้านนอกกับผู้ชายคนอื่นมีลูกด้วยกัน แล้วยังมีหน้าส่งมาให้ตระกูลธราภักดิ์เลี้ยงอีก!”
“ริศา สุวิทย์ ฉัน......” ตั้งแต่เมื่อกี้ น้ำตาของกันยาก็ไหลไม่หยุดเลย ตอนนี้เธอกำลังสะอื้น ไม่รู้ว่าต่อหน้าคนทั้งสองควรจะพูดอะไรดี
“แม่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แม่บอกหนูได้มั้ย? ” สาริศายังคงไม่เชื่อคำที่โศภิตาพูด
“ลูกไม่ต้องถามแล้ว ริศา เป็นแม่เองที่ผิดต่อลูก ทั้งหมดนี้แม่ผิดเอง” กันยาพูดขอโทษกับสาริศา ไม่ยอมตอบคำถามเธอสักที
“งั้นสิ่งที่โศภิตาพูดเป็นความจริงทั้งหมดเหรอ? ” สาริศายิ่งคำถามต่อไปปล่อย กันยาไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก เพียงแค่น้ำตาไหลไม่หยุด ไม่ใช่แค่นั้น เธอสั่นไปทั่วร่าง สีหน้าซีดเผือด ท่าทีน่าสงสารนั้น ทำเอาสาริศาทำใจถามต่อไม่ได้
สาริศารู้สึกว่าแรงในร่างกายของเธอราวกับถูกสูบออกจนหมด พลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
เธอไม่คิดเลยว่า ในงานศพของไรยา กลับมีความลับยิ่งใหญ่แบบนี้โผล่ออกมา
หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยได้รับการดูแลจากสุวิทย์ผู้เป็นพ่อ แต่ตลอดที่ผ่านมา อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าเธอมีพ่อ แม้ว่าพ่อคนนี้จะไม่ทำดีต่อเธอ แต่ตัวเองก็ยังเป็นคนมีพ่อ
แต่อยู่ๆ เธอก็ค้นพบว่าคนที่เธอนึกว่าเป็นพ่อ อาจจะไม่ใช่พ่อของตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้ มันซับซ้อนแบบพูดไม่ออกจริงๆ ทำให้เธอช็อกในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...