และเมื่อครู่ธนพัตก็บอกกับตนว่าพชิราช่วยเธอไว้ แถมยังจะไปขอบคุณเพชรด้วย นี่หมายความว่าธนพัตเชื่อคำพูดของพชิราไปแล้วใช่หรือเปล่า ถ้าบอกเขาว่าพชิราลักพาตัวเอง เขาจะคิดอย่างไรกับเธอ คงจะคิดว่าเธอพยายามใส่ร้ายพชิรา
“เป็นอะไรไป มีอะไรจะพูดกับผมเหรอ” เมื่อเห็นว่าสาริศามองตัวเองเงียบๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด ธนพัตจึงถามเธอเสียงเบา
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว สาริศาจึงตัดสินใจที่จะไม่บอกธนพัตเรื่องที่พชิราลักพาตัวเธอ รอตนสืบรู้แน่ชัด มีหลักฐานเมื่อไรค่อยบอกเขาอีกที
“เปล่า ฉันแค่รู้สึกว่าโชคดีที่ชัชวาลมาทัน ไม่อย่างนั้นฉันคงจะเกิดเรื่องไปแล้ว”
“โชคดี?” ธนพัตไม่เข้าใจว่าทำไมสาริศาจึงใช้คำคำนี้
“ถูกต้อง หรือว่านี่ไม่ใช่ความโชคดี” สาริศารู้สึกงงกับคำถามของธนพัต “โชคดีที่ชัชวาลโผล่มาช่วยฉันได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นคง......”
พูดถึงตรงนี้ สาริศาก็นึกถึงภาพตอนที่อยู่ในโกดัง อดไม่ได้ที่จะน้ำตาเอ่อขึ้นมา ก้มหน้าน้ำตาร่วงลงบนผ้าห่ม สาริศากัดริมฝีปากล่างอย่างแรง สูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “ไม่อย่างนั้น ฉันคงถูกคนพวกนั้นทำชั่วสำเร็จไปแล้ว”
ได้ยินสาริศาพูดแบบนี้ ธนพัตยิ่งงุนงง ความหมายของสาริศาคือเธอไม่ได้ถูกคนพวกนั้นข่มขืนงั้นเหรอ
แต่พชิราบอกกับตัวเองว่าเมื่อเธอไปถึง เห็นชัดเจนว่าสภาพของสาริศาถูกข่มขืน และหมอก็วินิจฉัยแล้วว่าสาริศาถูกข่มขืนจริง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมสาริศาถึงเหมือนจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แม้ธนพัตจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นสาริศาร้องไห้อีกครั้ง เขาก็ไม่อยากถามให้เรื่องพวกนั้นมาทำให้เธอเสียใจอีกครั้ง
พยายามซ่อนความสงสัยของตัวเองไว้ในใจ ธนพัตค่อยๆ ใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของสาริศา “อย่าร้องไห้ เราเลิกคิดถึงเรื่องพวกนั้นกัน คุณควรพักผ่อนให้หายดีก่อนตกลงไหม”
“อืม” สาริศาพยักหน้าเบาๆ หลับตากลั้นน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลออกมา
ธนพัตค่อยๆ ประคองสาริศาให้นอนลง แล้วหยิบกระดาษทิชชูอีกแผ่นมาเช็ดน้ำตาของเธอ “นอนพักผ่อนสักหน่อยนะ เมื่อตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็จะผ่านไป”
หลังจากร้องไห้มานาน สาริศาอาจจะเหนื่อยเช่นกัน จับมือของธนพัตไว้ครู่หนึ่งก็ผล็อยหลับไป
หลังจากที่สาริศาหลับไป ธนพัตก็ค่อยๆ ดึงมือที่ค่อนข้างชาของตัวเองออกมานวดคลึงเบาๆ เมื่อมองใบหน้าที่กำลังหลับของสาริศา ธนพัตก็เอาสองมือเท้าลงขอบเตียง ทิ้งจูบไว้บนแก้มของเธอ แล้วกระซิบข้างหูว่า “ผมรักคุณ ไม่ว่ายังไงก็ตาม”
เงยหน้าขึ้นมามองสาริศาอีกสักพัก แล้วธนพัตก็จัดผ้าห่มให้เธอใหม่ก่อนจะลุกขึ้นออกจากห้องพักผู้ป่วย
เพิ่งออกจากประตูห้องพักผู้ป่วย ธนพัตก็เห็นชรัณยืนอยู่หน้าประตู
ความจริงชรัณมาถึงโรงพยาบาลนานแล้ว เพียงแต่เห็นว่าธนพัตอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของสาริศา จึงไม่อยากรบกวนพวกเขา ดังนั้นจึงรออยู่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วยมาตลอด เมื่อเห็นธนพัตออกมาในเวลานี้ จึงรีบพูดว่า “คุณพัทครับ พวกบอร์ดบริหาร......”
“ฉันไปหาหมอก่อน” ธนพัตไม่รอฟังชรัณพูดให้จบก็หันหลังเดินไปทางห้องทำงานของหมอ ชรัณจึงได้แต่รีบตามไป
แต่เจ้าของปัญหาหรือจะมองปัญหาออก แถมยังวุ่นวายใจจนปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกได้
หลังออกจากห้อง ชรัณพูดกับธนพัตอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย “คุณพัท สถานการณ์นี้เป็นเรื่องปกติของคุณนายน้อยเหรอครับ ต้องการหาหมอหลายๆ คนมาตรวจดูสักหน่อยไหมครับ ถ้ามีอะไรผิดปกติก็จะได้......”
“ไม่ต้อง” ธนพัตขัดจังหวะคำพูดของชรัณ เขาไม่ต้องการให้หมอมาตรวจสาริศาในเรื่องนี้มากเกินไป ด้านหนึ่งเขากลัวว่าจะเป็นการไปกระตุ้นสาริศา อีกด้านเขาก็ไม่อยากได้ยินเรื่องซุบซิบนินทา
“เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงอีก ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ครับ” ในฐานะผู้ชาย ชรัณสามารถเข้าใจความคิดของธนพัตได้ในระดับหนึ่ง
“เมื่อครู่นายบอกว่าบอร์ดบริหารมีอะไร”
“ตอนนี้บอร์ดบริหารทั้งหมดกำลังอยู่ในห้องประชุมของบริษัท ทุกคนกำลังแตกตื่นเอะอะโวยวายต้องการเจอคุณพัทครับ จะให้คุณไปอธิบายกับพวกเขา”
อันที่จริงธนพัตก็เดาเอาไว้อยู่แล้วว่าเมื่อเรื่องใหญ่แบบนี้เกิดขึ้นในบริษัท พวกบอร์ดบริหารจะไม่มีทางปล่อยเขา จึงจำต้องรีบกลับบริษัทไปกับชรัณ
ทันทีที่เข้ามาในบริษัท ธนพัตก็รู้สึกถึงบรรยากาศอันตึงเครียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...