หมายความว่าอะไร บรรดาคณะกรรมการบริษัทต่างก็ไม่เข้าใจในท่าทางและคำพูดที่กะทันหันของธนพัต ข่าวอะไรคือข่าวล่าสุดเหรอ
โทรศัพท์มือถือที่ธนพัตโยนไว้บนโต๊ะไถลมาอยู่ตรงหน้าของคณะกรรมการบริษัทคนหนึ่ง เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้!”
ผู้คนได้ยินคำพูดของเขา บวกกับเห็นความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้า ก็แปลกในมากว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“ตกลงเกิดอะไรขึ้น” บุรินทร์ถามด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าเขาจะได้โอกาสต่อต้านธนพัต ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้จะเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
“คุณบุรินทร์ คุณดูสิ” คณะกรรมการบริษัทคนนั้นลุกขึ้นยืนเดินมาข้างๆบุรินทร์ เอาโทรศัพท์มือถือในมือยื่นไปตรงหน้าเขา
เห็นเนื้อหาในโทรศัพท์มือถือ สีหน้าบุรินทร์เองก็เคร่งเครียดขึ้นมา
ผู้คนเห็นอย่างนั้นต่างก็พากันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเริ่มค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับกีรติเมธานนท์กรุ๊ป จากนั้นสีหน้าแต่ละคนต่างก็เคร่งเครียด
แค่ใส่คำว่ากีรติเมธานนท์กรุ๊ปลงในช่องค้นหา เกือบทั้งหมดที่แสดงให้เห็นคือ "วัตถุเจือปนอาหารของบริษัทภายใต้ชื่อกีรติเมธานนท์กรุ๊ปไม่ได้มาตรฐาน" “ผู้บริโภคจำนวนมากต่างพากันขอคำอธิบายจากกีรติเมธานนท์กรุ๊ป” “อันตรายที่ซ่อนอยู่ในความปลอดภัยของอาหาร กีรติเมธานนท์กรุ๊ปต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด” หัวข้อข่าวอื่นๆอีกมาก
ทุกคนต่างมองด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและกดเข้าไปอ่านอย่างละเอียด ปรากฏว่าบริษัทในเครือด้านการผลิตอาหารหลายแห่งที่บริหารโดยบุรินทร์ตรวจพบว่ามีสารเติมแต่งมากเกินมาตรฐาน
สำนักข่าวที่ทรงอิทธิพลหลายแห่งต่างก็เผยแพร่ข่าวนี้ กีรติเมธานนท์กรุ๊ปก็ถูกดันให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของการแสดงความคิดเห็นของประชาชนไปชั่วขณะ ทำให้เกิดผลกระทบที่เสียหายอย่างร้ายแรงในสังคม
ผู้บริโภครู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ พวกเขาต่างได้วิพากษ์วิจารณ์กีรติเมธานนท์กรุ๊ปอย่างรุนแรงบนโลกอินเทอร์เน็ต
“พวกเขาไม่กลัวว่าคนกินจะตายเหรอ ทำธุรกิจแบบนี้ ใครมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแล ผมว่าควรลงโทษฐานเจตนาฆ่านะครับ”
“ทำธุรกิจแบบนี้ต้องลงโทษให้หนักๆ ปรับให้พวกเขาล้มละลายไปเลย ดูสิว่าพวกเขาจะยังกล้าทำเรื่องที่ชั่วร้ายแบบนี้อีกมั้ย!”
“ไม่รู้ว่าหน่วยงานที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารของประเทศคือหน่วยงานไหน มัวทำอะไรเรื่องอาหารการกินอะไรอยู่ กลไกการลงโทษของประเทศจะมีช่องโหว่หรือไม่ คืนสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในเรื่องอาหารการกินกับพวกเราด้วย!!!”
“หวังใจจริงๆว่ากีรติเมธานนท์กรุ๊ปจะมีการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมถูกต้อง และหวังว่าผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้จะได้รับการชดเชยเยียวยาตามที่เขาควรจะได้รับ และคนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ควรจะได้รับโทษที่เขาควรได้รับเช่นกัน”
……
เห็นการวิพากษ์วิจารณ์ของชาวโซเชียลแล้ว ทุกคนต่างก็ตื่นตระหนก ต้องทราบว่า พอผู้บริโภคเกิดตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะดึงเอาความเชื่อมั่นของพวกเขากลับคืนมา
เรื่องนี้ถ้าไม่สามารถจัดการให้เรียบร้อยได้ ไม่เพียงบริษัทในเครือที่บุรินทร์บริหารอยู่สองสามแห่งนั้นจะต้องพบกับการปิดตัวลงเท่านั้น ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้กีรติเมธานนท์กรุ๊ปเสื่อมเสียชื่อเสียงไปทั้งหมด
“ทุกคนเห็นกันหมดแล้วใช่มั้ยครับ” ธนพัตพูดพลางมองไปรอบๆ ทุกคนได้ยินคำพูดเขาแล้วต่างมองหน้ากันไปมา ไม่มีท่าทีสงสัยในตัวธนพัตอย่างนั้นอีกแล้ว
เห็นทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ธนพัตก็ส่งเสียงฮึ่มอยู่ในใจ เมื่อครู่ยังพากันลิงโลดยินดีอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ทำไมแต่ละคนอ้ำอึ้งกันไปหมดเลย
หันไปมองบุรินทร์ ธนพัตก็ถามว่า “ไม่ทราบว่าพี่ใหญ่จะอธิบายเรื่องนี้กับทุกคนยังไงครับ”
สายตามองไปยังธนพัตอย่างดุร้าย บุรินทร์อ้ำอึ้งพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไรดี เรื่องนี้ถูกเปิดโปงอย่างกะทันหันเกินไป จนทำให้เขาตั้งรับไม่ทัน
เห็นสีหน้าท่าทางทุกคนผิดปกติ ท่านประเสริฐก็ลุกขึ้นยืนยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของคณะกรรมการบริษัทที่อยู่ข้างมาดู หลังจากอ่านเนื้อหาในข่าวอย่างละเอียดแล้ว ก็โมโหมาก
“บุรินทร์ ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น!” ท่านประเสริฐตบโต๊ะพลางถามบุรินทร์ “ปกติแล้วฉันกำชับอย่างหนักแน่น ว่าต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของอาหาร จะเพิกเฉยไม่ได้เด็ดขาด คำพูดของฉันแกไม่ได้ใส่ใจเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเหรอ”
“คุณปู่ ผมจะลืมคำพูดของคุณปู่ได้ยังไงครับ เรื่องนี้ผมเองก็เพิ่งจะทราบเมื่อกี้นี้เหมือนกัน” บุรินทร์รีบลุกขึ้นยืนอธิบายกับคุณปู่ “ต้อ
งเป็นคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาผมพวกนั้นแอบทำแน่นอน ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
ได้ยินท่านประธานถาม คุณวิศก็อ้ำๆอึ้งๆ “ท่านประธาน คนของสำนักคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารมาแล้ว บอกให้โรงงานอินเตอร์เทค ฟู้ดส์หยุดการผลิตชั่วคราว ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลย……”
ได้ยินคำพูดของคุณวิศ สีหน้าของบุรินทร์ก็ยิ่งย่ำแย่ขึ้น ถลึงตามองแรงใส่เขา
ความสามารถที่จะทำงานให้สำเร็จไม่มี แต่ความสามารถที่จะสร้างความล้มเหลวมีเหลือเฟือจริงๆ จะมาตอนไหนก็ไม่มา ดันมาตอนช่วงที่สำคัญด้วย นี่ไม่ใช่เป็นการเติมเชื้อไฟหรอกหรือ
เห็นสายตาบุรินทร์ก็ตกใจ ขาของคุณวิศสั่นไปหมดเลย แย่แล้ว อนาคตอันสดใสของเขาคงใกล้จะหมดแล้ว
“ไม่มีใครช่วยให้สบายใจได้เลยสักคนจริงๆ!” คาดว่านานแล้วที่ท่านประเสริฐไม่เคยโกรธมากขนาดนี้“แกยังไม่รีบไปจัดการอีกเหรอ!”
“ครับ คุณปู่” พูดพลางบุรินทร์ก็เตรียมจะเดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“เดี๋ยวก่อน” เห็นบุรินทร์กำลังจะไป ธนพัตก็พูดว่า “พี่ใหญ่ เมื่อครู่พี่ไม่ได้บอกเหรอครับว่าถ้าทำผิดก็จะไม่มีสิทธิ์บริหารจัดการหุ้นของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปอีกไม่ใช่เหรอครับ อย่างนั้นตอนนี้บริษัทที่พี่บริหารเกิดเรื่องแบบนี้ ก็แสดงว่าพี่เองก็ต้องเอาหุ้นกีรติเมธานนท์กรุ๊ปออกมาด้วยใช่มั้ยครับ
“ธนพัตแก!……” บุรินทร์ชี้ไปที่ธนพัตอย่างโมโห แต่กลับพูดโต้แย้งอะไรไม่ออก ถ้าตอนนี้เขายังกัดธนพัตไม่ปล่อยเรื่องที่ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลออกมา เกรงว่าสุดท้ายแล้วตนเองก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
นึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของตนเอง บุรินทร์ก็รู้สึกว่าใบหน้าตนเองแสบร้อน ในขณะเดียวกับภายในใจก็ยิ่งโกรธแค้นธนพัต
เขาไม่คิดว่าเรื่องมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ ตอนแรกที่เขาเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัทก็เพื่อที่จะเล่นงานธนพัต ต่อมาภายหลังก็กลายเป็นการเปิดโปงเรื่องที่เป็นผลเสียกับตัวเองแทน เขามั่นใจมาก ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับธนพัตแน่!
แต่ต่อให้ไม่เต็มใจอย่างไร ตอนนี้เขาก็ต้องจำยอมปล่อยธนพัตไปก่อน
“เอาละ!” ท่านประเสริฐตะคอกเสียงดัง “นี่มันเวลาอะไรแล้ว พวกแกยังคิดจะมาโต้เถียงเรื่องพวกนี้กันอีกเหรอ ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือคิดหาวิธีที่กลบข่าวพวกนั้นในโลกโซเชียลให้เงียบลง” “รับทราบครับคุณปู่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ถลึงตาใส่ธนพัตแล้ว บุรินทร์ก็ออกจากห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...