กริ๊งๆ
เวลานี้เองเสียงโทรศัพท์มือถือที่ธนพัตวางไว้ข้างๆก็ส่งเสียงดังขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์มา ธนพัตมองเห็นหน้าจอโทรศัพท์แสดงว่าท่านประเสริฐโทรมา
“ฮัลโหล คุณปู่ มีเรื่องอะไรครับ” ธนพัตรีบรับสาย ถ้าไม่มีเรื่องอะไรคุณปู่ไม่มีทางโทรมาหาตนเองในตอนเช้า
“เรื่องที่ข้อมูลลูกค้าของTNP Groupหลุดออกมาตกลงมันยังไงกันแน่” ท่านประเสริฐที่อยู่ในสายอีกด้านมีน้ำเสียงร้อนใจ
“คุณปู่ ผม……” ธนพัตเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับคุณปู่อย่างไรในตอนนั้น
“ช่างเถอะ อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย ตอนนี้แกรีบมาที่กีรติเมธานนท์กรุ๊ปเถอะ ทางนี้จะมีประชุมบอร์ดบริหารอย่างเร่งด่วน รายละเอียดรอให้แกมาถึงก่อนค่อยว่ากัน”
“ได้ครับ เข้าใจแล้วครับคุณปู่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ได้ยินน้ำเสียงร้อนใจของประเสริฐ ธนพัตก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นแน่
ไม่ต้องให้ท่านประเสริฐพูดอะไรมาก เขาก็เดาได้ว่าบุรินทร์ต้องทำเรื่องอะไรอยู่ลับหลังแน่
หลังจากวางสาย ธนพัตก็พูดกับสาริศาว่า “คุณปู่ให้ผมไปประชุมที่กีรติเมธานนท์กรุ๊ปตอนนี้เลย ผมคงจะกินข้าวเช้าเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว คุณทานเองไปก่อนนะ ผมไปก่อน”
“อ้อ” ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา และก็ไม่ได้ถามอะไรมาก สาริศาได้แต่ตอบรับอย่างง่ายๆ
เห็นสาริศามีอารมณ์น้อยใจอย่างชัดเจน ธนพัตเองก็รู้ดีว่าเธอโกรธเรื่องเมื่อคืน แต่เขาก็ไม่รู้จะอธิบายกับเธออย่างไรดี คงไม่ต้องเอาสาเหตุที่แท้จริงบอกกับเธอโดยตรงหรอกนะ เขาเองก็ไม่อยากให้สาริศานึกถึงเรื่องวันนั้นอีก
ภายใต้ความอับจนหนทาง ธนพัตได้แต่กำชับสาริศาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “งั้นวันนี้คุณก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ”
เห็นสาริศาพยักหน้าไม่พูดอะไร ธนพัตได้แต่ถอนหายใจเบาๆในใจ จากนั้นก็หมุนตัวออกจากบ้าน รีบขับรถมุ่งหน้าไปที่กีรติเมธานนท์กรุ๊ป
มองแผ่นหลังของธนพัตที่จากไปกับอาหารบนโต๊ะ สาริศาเงยหน้ามองเพดานกลอกตาสองครั้ง จากนั้นก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ อย่างจืดชืดไร้รสชาติ
หลังจากมาถึงกีรติเมธานนท์กรุ๊ปแล้ว ธนพัตก็เห็นว่าบุรินทร์ได้รวมตัวบอร์ดบริหารของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปทุกคนรอตนเองอยู่ห้องประชุม
มองเห็นธนพัตมาถึง บุรินทร์ก็หัวเราะเยาะ แอบพูดในใจว่า ธนพัต ครั้งนี้ฉันจะต้องทำให้แกคายหุ้นของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปออกมาให้ฉันให้ได้!
ท่านประเสริฐกลับมองธนพัตด้วยสีหน้ากังวล อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด ธนพัตส่งสายตาปลอบใจให้เขา แสดงความหมายว่าไม่ต้องเป็นห่วงตนเอง
เดินมานั่งที่ตำแหน่งของตนเอง ธนพัตก็ไม่ได้พูดอะไร รอให้พวกเขาเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อน
เมื่อครู่ระหว่างทางธนพัตก็คิดเอาไว้อยู่แล้ว บุรินทร์ต้องไม่ปล่อยโอกาสที่ดีขนาดนี้ไปแน่ เขาสนใจหุ้นกีรติเมธานนท์กรุ๊ปในมือของตนเอง
พูดให้ชัดขึ้นอีกนิดก็คือ บุรินทร์จับตัวสาริศาไปเพื่อข่มขู่ตนเอง สุดท้ายวัตถุประสงค์ก็เพื่อหุ้นกีรติเมธานนท์กรุ๊ปไม่ใช่เหรอ คิดมาถึงตรงนี้ มุมปากของธนพัตก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ ถ้าบุรินทร์คิดว่าจะเอาชนะตนเองได้ง่ายดายขนาดนั้น เช่นนั้นเขาก็ผิดมหันต์แล้ว
เห็นธนพัตนั่งลง ในที่สุดบุรินทร์ก็เอ่ยว่า “เอาละ ทุกคนก็มาครบแล้ว ตอนนี้พวกเราก็มาพูดคุยประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้กัน”
พูดจบก็มองไปยังธนพัต ใบหน้าเต็มไปด้วยความท้าทายและสะใจ “ธนพัต ฉันคิดว่านายน่าจะเดาเหตุผลที่พวกเราเรียกประชุมบอร์ดบริหารในวันนี้ได้แล้วสินะ”
มองตามสายตาของบุรินทร์ไป สองมือธนพัตประสานกันวางอยู่บนโต๊ะ สีหน้าใจเย็น “ขอฟังรายละเอียดก่อน”
หึ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ ในแววตาฉายความดุร้าย บุรินทร์พูดต่อว่า “เกี่ยวกับเรื่องที่ข้อมูลลูกค้าของTNP Groupรั่วไหลออกมาก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าทุกคนคงจะทราบแล้ว”
เห็นทุกคนต่างก็ขอให้ตนเองปล่อยหุ้นของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปออกมา แววตาธนพัตฉายความเกรี้ยวกราด เขาจะเดาไม่ได้อย่างไรว่าทั้งหมดนี้มีบุรินทร์คอยบงการอยู่เบื้องหลัง ถ้าเขายอมปล่อยหุ้นของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปออกมา ใครจะได้รับประโยชน์มากที่สุดนอกจากบุรินทร์
ถึงขั้นสามารถบอกให้คณะกรรมการบริษัทมาคัดค้านตนเองได้ ดูท่าทางปกติแล้วบุรินทร์คงจะสร้าคลื่นใต้น้ำไม่น้อยเลย ธนพัตคิดในใจ แต่ว่า ครั้งนี้เกรงว่าจะทำให้บุรินทร์ต้องผิดหวังแล้ว
รอจนผู้คนต่างพูดกันพอสมควรแล้ว ธนพัตก็มองพวกเขาพลางหัวเราะเยาะว่า “ความหมายของบรรดาคณะกรรมการก็คือ แค่เพียงทำความผิด ก็ไม่สมควรที่จะถือครองหุ้นของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปใช่มั้ยครับ”
“นั่นก็แน่นอน” เห็นธนพัตพูดแบบนั้น บุรินทร์ก็รีบตอบทันที “ถ้าบริหารกีรติเมธานนท์กรุ๊ปจนเกิดปัญหา ความเสียหายต่อผลประโยชน์ส่วนรวมของทุกคน นายทำผิดพลาดมากขนาดนั้น ทุกคนจะวางใจให้นายมาบริหารกีรติเมธานนท์กรุ๊ปต่อได้ยังไง”
“ใช่ พวกเราไม่ตกลงแน่นอน”
“ที่กีรติเมธานนท์กรุ๊ปพวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะพูด พวกเราไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้คนอย่างธนพัตนี้มาถือครองหุ้นของบริษัทมากมายขนาดนี้!”
“ประธานบุรินทร์พูดถูก การบริหารจัดการที่ไม่ดีเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง จะให้ธนพัตเข้ามาบริหารกีรติเมธานนท์กรุ๊ปไม่ได้แล้ว”
……
ผู้คนใต้บังคับบัญชาต่างพากันเห็นด้วยในความเห็นองบุรินทร์
ได้ยินคำพูดของทุกคน มุมปากของธนพัตก็กระดกเป็นรอยยิ้มเยาะ มองไปทางบุรินทร์ด้วยท่าทางติดตลก เห็นธนพัตมองตนเองด้วยสีหน้าท่าทางแบบนี้ ในใจบุรินทร์ก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้” หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างๆขึ้นมาโยนไปบนโต๊ะ ธนพัตพูดว่า “งั้นก็ขอให้ทุกท่านได้อ่านข่าวล่าสุดที่ออกมาให้ดีๆก่อนเถอะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...