“เรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องอะไรกับพชิรา” ธนพัตไม่เข้าใจว่าทำไมจู่สาริศาจึงเอ่ยถึงพชิราขึ้นมา
สาริศามองธนพัตพลางเอ่ยว่า “เรื่องที่ฉันถูกข่มขืน ตอนแรกพชิราเป็นคนบอกคุณใช่มั้ยคะ”
“เพชรไม่ได้มีเจตนาร้าย” เขาคิดว่าสาริศาเข้าใจผิดว่าพชิราจงใจบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคน ธนพัตอธิบายแทนพชิราว่า “เธอสงสารที่คุณต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ดังนั้นจึงเล่าเหตุการณ์ตอนที่ไปช่วยคุณให้ผมฟัง เธอไม่ได้ตังใจจะจะพูดเรื่องพวกนั้น ตอนที่เธอเอ่ยถึงเรื่องพวกนี้เธอยังร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างมาก”
“เธอหลอกคุณ เธออยากให้คุณเข้าใจฉันผิด จะได้ทำลายความสัมพันธ์ของเราได้ง่ายขึ้น” เมื่อได้ยินธนพัตอออกตัวแทนพชิรา ในใจสาริศาก็ยิ่งร้อนรน ทำไมธนพัตถึงเชื่อในคำพูดของพชิรา
“ริศา!” ไม่ได้เป็นเสียงอ่อนโยนดังเช่นเมื่อก่อน แต่เสียงธนพัตเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมา “คุณต้องรู้ว่า ตอนแรกพชิรากับชัชวาลไปช่วยคุณพร้อมกัน ตอนนี้ทำไมคุณถึงเข้าใจเธอผิดแบบนี้ได้”
แม้ธนพัตจะเข้าใจสภาพจิตใจของสาริศาในตอนนี้ดี แต่เธอจะใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะกับคนนี้ที่ยังเป็นคนที่มีพระคุณช่วยชีวิตเธอเอาไว้ด้วย
“เธอไม่ได้ช่วยฉัน!” สาริศาเสียงสูง รีบร้อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ธนพัตฟังอย่าง “คุณรู้มั้ย วันนั้นพชิราเป็นคนหาคนมาจับตัวฉันไป ขอทานสี่คนนั้นก็เป็นคนที่เธอจัดหามา ตอนแรกเธอยังบอกว่าให้ถ่ายคลิปตอนที่ฉันถูกข่มขืนเอาไว้ไปโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต เธอต้องการ……”
“พอได้แล้ว!” ธนพัตทนฟังต่อไปไม่ไหว ตัดบทสาริศาด้วยเสียงแข็งกร้าว “สาริศา เรื่องที่คุณถูกข่มขืนไม่ใช่แค่พชิราคนเดียวที่พูด ตอนแรกผลการตรวจของคุณหมอก็เป็นแบบนี้ ทำไมคุณถึงเอาเรื่องทั้งหมดมาโยนความผิดให้เธอ”
“พชิราเธอต้องซื้อตัวหมอคนนั้นมาโกหกคุณแน่นอน” สาริศารีบพูดอย่างร้อนใจ “ธนพัต คุณเชื่อฉันได้มั้ย พชิราเป็นคนจับตัวฉันไปจริงๆ เธอไม่ใช่คนดีอะไร คุณจะเชื่อเธอไม่ได้นะคะ”
ได้ยินคำพูดของสาริศา ดวงตาธนพัตเต็มไปด้วยความผิดหวัง เขารู้สึกว่าสาริศาในตอนนี้ไม่สนใจเหตุผล ให้ความรู้สึกน่ารำคาญไร้เหตุผล นี่ยังเป็นสาริศาที่อ่อนโยนจิตใจดีคนนั้นที่เขารู้จักในตอนแรกหรือเปล่า ทำมเขารู้สึกเหมือนว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
พอคิดถึงเรื่องราวที่สาริศาต้องเจอในช่วงนี้ ธนพัตก็พยายามสะกดกลั้นความขุ่นเคืองและรำคาญภายในใจตนเองให้สงบลงพร่ำบอกตัวเองไม่หยุดว่า เพราะว่าสาริศาถูกทำร้ายมามากเกินไป จึงทำให้อารมณ์แปรปรวน ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการก็คือคำปลอบโยนจากตนเอง เวลานี้ตนเองจะโกรธเธอไม่ได้
สูดลมหายใจลึกๆ ธนพัตพยายามพูดกับสาริศาอย่างใจเย็นที่สุด “ริศา เรื่องของผมกับพชิราเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนธรรมดาเท่านั้น คุณวางใจเถอะ ผมไม่มีทางไปจากคุณเพราะว่าเธอแน่นอน คุณก็อย่าไประรานเธออีกเลยได้มั้ย”
“คุณคิดว่าฉันระรานเธอเหรอ” สาริศาคิดไม่ถึงว่าธนพัตไม่เพียงไม่เชื่อคำพูดของตนเอง แต่ยังสงสัยว่าตนเองให้ร้ายพชิราอีกด้วย
“เพชรไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นอย่างที่คุณบอก” น้ำเสียงธนพัตรำคาญเล็กน้อย “ผมเติบโตมากับเธอ ผู้รู้จักเธอดี และก็เชื่อในตัวเธอ เธอไม่ใช่คนแบบนั้น”
“งั้นคุณคิดว่าฉันโกหกคุณเหรอ” พอได้ยินคำพูดธนพัต สาริศาร้องไห้อย่างเสียใจพูดว่า “คุณปกป้องพชิราขนาดนี้ ยอมที่จะเชื่อเธอแต่ไม่ยอมเชื่อฉัน!”
“ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อคุณ ผมแค่คิดว่าตอนนี้คุณถูกความหึงหวงบดบังดวงตาทั้งสองข้าง ริศา ผมขอร้องคุณล่ะตั้งสติหน่อยได้มั้ย” ธนพัตพูดอย่างโกรธๆเล็กน้อย เขาหมดความอดทนเล็กน้อยกับสาริศาในตอนนี้
ในเวลาเดียวกันสาริศาเองก็กำลังสงสัยในใจ เพราะธนพัตเพียงแค่สงสัยว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกเขาจริงๆ ดังนั้นจึงยืนกรานให้ตนเอาเด็กคนนี้ออกเหรอ
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นทำไมเขาไม่ยอมเชื่อที่ตนเองอธิบายเลยสักนิดเดียว หรือว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตนอาจจะตั้งท้องลูกของเขาก็ได้
ไม่ว่าอย่างไร ธนพัตก็ยังเชื่อในตัวพชิราอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่เคยสงสัยในตัวเธอเลย เมื่อครู่เขายังบอกกับตนเองว่าเขารู้จักพชิราดี ดูท่าธนพัตยังชอบเธออยู่……
คิดมาถึงตรงนี้ สาริศาก็เกิดความรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีก
“ช่างมันเถอะ” สาริศาสะบัดศีรษะแรงๆ ไม่ยอมให้ตนเองคิดฟุ้งซ่านอีก
มือสองข้างกุมที่ท้องตัวเอง สาริศาสาบานกับตนเองในใจ เธอจะปกป้องลูกตนเองให้ได้ ต่อให้ธนพัตไม่ต้องการเขา เธอก็จะคลอดลูกคนนี้ให้ได้ เธอจะเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้เติบโตด้วยตัวเอง จะรักเขาให้มากๆ
“สู้ๆ!” สาริศาแอบให้กำลังใจตัวเองในใจ ถ้าจะต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ตนเองก็ต้องเข้มแข็งมากๆถึงจะได้ จะร้องห่มร้องไห้เหมือนตอนนี้ไม่ได้ ตนเองต้องขยันทำงาน ใช้ชีวิตด้วยความเพียรพยายาม ไม่เช่นนั้นจะเลี้ยงดูลูกตัวเองให้ดีได้อย่างไร
หลังจากคิดได้แล้ว สาริศาก็เช็ดน้ำตาตัวเอง คิดจะไปเยี่ยมกันยาที่โรงพยายาลสักหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...