สาริศาไม่ชอบเป็นหนี้ใคร หลังจากไปทำงานวันรุ่งขึ้นเธอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตนเอง
ในช่วงพักเที่ยง หลังจากยืนยันว่าเงินเดือนเข้าบัญชีแล้ว รีบกดเบอร์โทรศัพท์ผู้ชายคนนั้นบนสมุดโน้ต จากนั้นก็มีเสียง “ตู๊ด” ยาวครู่หนึ่ง——
“ฮัลโหล”
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดดังอยู่ข้างหูเธอ สาริศารู้สึกประหม่าเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล
“ฉันเองค่ะ” สาริศาพูดขึ้น “คนที่คุณขอยืมเงินคุณที่ร้านอาหารเมื่อวานนี้ ฉันเตรียมเงินไว้แล้ว ไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกให้เลขที่บัญชีฉันไหมคะ?”
“ผมไม่รับโอน คุณเอาเงินสดมาคืนผมแล้วกัน”
สาริศาตกตะลึง
นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังมีคนที่รับแต่เงินสดอยู่งั้นเหรอ?
“ความหมายของคุณคือ...” แต่ท้ายที่ก็เป็นตนเองที่ติดเงินคนอื่น สาริศาจึงได้แต่ทำตามที่เขาพูด
“พรุ่งนี้คุณว่างไหม?”
“ตอนบ่ายฉันต้องไปทำข่าว ช่วงเช้ายังว่าง”
“งั้นรบกวนคุณพรุ่งนี้เช้ามาที่สำนักงานกิจการพลเรือน พรุ่งนี้เช้าผมต้องไปทำธุระที่นั่น”
สาริศาตกตะลึงอีกครั้ง
ไปคืนเงินที่สำนักงานกิจการพลเรือน? ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก
แต่สาริศาก็ไม่คิดมากแล้วรับปากไป
-วันรุ่งขึ้น-
“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปทำเรื่องกัน”
“ทำเรื่อง?” สาริศาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หยุดการเคลื่อนไหวในมือ มองไปยังชายที่อยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้างงงวย “เรื่องอะไรคะ?”
ชายคนนั้นมองไปที่ดวงตาที่สับสนของสาริศา การแสดงออกของเขายังคงไม่แยแส แต่สิ่งที่เขาพูดกลับทำให้ต้องตกตะลึง
“เรื่องแต่งงาน”
“ฮะ?” สาริศาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ตอนนี้แทบไม่เชื่อหูของเธอ “จดทะเบียน?”
คิ้วสวยของชายคนนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “คุณสาริศา คุณคงจะกำลังมีความต้องการเร่งด่วนเรื่องแต่งงานสินะ?”
ชายคนนั้นกล่าวด้วยความมั่นใจ สาริศาจึงรู้ว่าเขาจะต้องได้ยินสิ่งที่ตนกับกรภัคคุยกันเมื่อวาน และใบหน้าของเธอก็รู้สึกร้อนเล็กน้อย
“ที่บังเอิญก็คือ ผมก็เป็นเหมือนคุณ” ไม่รอให้สาริศาได้ตอบ ชายคนนั้นก็พูดต่อ น้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนไม่ได้กำลังพูดถึงเรื่องใหญ่ในชีวิตแต่พูดถึงธุรกิจ “ดังนั้นพวกเราต่างได้สิ่งที่ต้องการ แล้วทำไมจะไม่ได้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...