หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 336

“ธีร์ ลูกชอบแต่คุณลุง ไม่ชอบแม่ใช่ไหม?” สาริศาแสร้งทำหน้าเศร้า

 ที่จริงแล้วการได้เห็นธีร์กับชัชวาลสนิทสนมกัน สาริศาก็มีความสุขมาก ตั้งแต่เล็กจนโตธีร์ไม่ได้รับความรักของพ่อ ชัชวาลรับบทบาทของพ่อได้ในระดับหนึ่ง และคอยสอนสั่งธีร์ ถึงหลักการชีวิตต่างๆ

 แต่พอเธอว่างๆ ก็มักจะแกล้งหยอกล้อลูกชาย ก็เป็นเรื่องที่ทำให้หายเหนื่อยได้มากเลยทีเดียว

“ไม่ใช่นะครับ ผมก็ชอบคุณแม่มากเหมือนกันธีรวีร์พูดแล้วอ้าแขนไปทางสาริศา ให้เธอกอดเขา หลังจากปล่อยแขนออกจากชัชวาลไปกอดสาริศาแล้ว เด็กน้อยก็ไม่ลืมที่จะกอดคอของสาริศา แล้วจูบแก้มแม่ของเขาเบาๆ

ที่จริงแล้ว ในใจของเด็กชายกลับคิดว่า “คุณแม่นิสัยเด็กจริงๆ โตขนาดนี้แล้วยังอิจฉาคุณลุงอีก เฮ้อ สงสารก็แต่ตนเองที่อายุยังน้อย ก็ต้องเรื่องที่ว่ากว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้”

ถ้าสาริศารู้ความคิดนี้ของเขา เธอจะถามธีร์น้อยอย่างแน่นอนว่า “สุภาษิตพวกนี้ใครเป็นคนสอนให้ลูก”

ใช้ได้ตรงกับความหมายมากเลย นี่คือเด็กที่เติบโตขึ้นมาในสหรัฐอเมริกาจริงๆ เหรอ ถึงขั้นสามารถใช้สำนวนสุภาษิตได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ เธอที่เป็นแม่ก็อดที่จะภาคภูมิใจไม่ได้!

พอเห็นความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างสองแม่ลูก ชัชวาลก็ยกยิ้มขึ้นมา ภาพตรงหน้าเป็นที่มาของความอบอุ่นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่เขาสาบานกับตัวเองว่าเขาจะต้องปกป้องมันด้วยอย่างสุดกำลัง

“ริศา พี่ยังมีเรื่องต้องจัดการ พี่ไปที่ห้องทำงานก่อน น้องเล่นกับธีร์ไปก่อนนะ” หลังจากบอกสาริศาแล้ว ชัชวาลก็เดินขึ้นไปชั้นบนแล้วไปที่ห้องทำงาน เหลือไว้เพียงสาริศากับธีรวีร์อยู่ในห้องนั่งเล่นแค่สองคน

 “ธีร์ วันนี้ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า บอกแม่ได้ไหมว่าวันนี้ลูกทำอะไรบ้าง?” สาริศาอดที่จะหยิกแก้มของลูกชายไม่ได้ เธอให้กำเนิดลูกชายที่น่ารักแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน

ธีรวีร์แอบเบะปากลับๆ แต่ยังไงธีรวีร์ก็ยังบอกเล่าทุกอย่างที่เขาทำในวันนี้ให้สาริศาได้ฟังอย่างละเอียด เพราะเขารู้ว่าคุณแม่เธอเป็นห่วงเขา เขาจึงปล่อยให้เธอกังวลไม่ได้

หลังจากฟังการบอกเล่าของธีรวีร์ก็มองไปทางสาริศา แล้วเธอก็ลูบหัวเด็กน้อยอย่างภูมิใจ “ธีร์เก่งมาก”

 “คุณแม่ครับ ผม... ผมขอถามอะไรสักเรื่องได้ไหมครับ?” ธีรวีร์ดูไม่ขี้เล่นแตกต่างจากปกติ ธีรวีร์มองสาริศาอย่างระมัดระวังแล้วถาม

 “มีอะไรจ๊ะ ทำไมดูลึกลับจัง” เธอเห็นท่าทางของลูกชายแล้วอยากหัวเราะ สาริศาช่วยจัดเสื้อให้ลูกชาย “ถามมาได้เลยจ้ะ ถ้าแม่รู้ แม่จะตอบลูกแน่นอน”

 “จริงเหรอครับ” เด็กน้อยทำท่าทางตื่นเต้นขึ้นมา “คุณแม่บอกผมได้ไหมครับ ว่าพ่อของผมอยู่ที่ไหน”

พอได้ยินคำถามของธีรวีร์ สาริศาก็ชะงักไป ก่อนจะนึกถึงเรื่องในวันนี้ที่ได้เจอกับธนพัตขึ้นมา

 “คุณแม่ครับ คุณแม่?” พอเห็นสาริศานิ่งเงียบไปไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ธีรวีร์ก็โบกมือไปมาตรงหน้าเธอพร้อมกับเอ่ยเรียก

 “ทำไมจู่ๆ ลูกถึงถามคำถามนี้กับแม่ล่ะ” สาริศากลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง และมือยังคงจัดเสื้อของธีรวีร์ต่อในขณะที่ถามไปด้วย เพียงแต่สีหน้าของเธอไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

 “คุณแม่ครับ บอกผมมาเถอะ เมื่อตะกี้คุณแม่เป็นคนบอกเอง ขอแค่เป็นเรื่องที่คุณแม่รู้ คุณแม่จะบอกผมทุกอย่าง” ธีรวีร์พูดออดอ้อน

 “เมื่อก่อนแม่บอกลูกไปแล้ว ว่าคุณพ่อของลูกเสียชีวิตก่อนที่ลูกจะเกิดมาแล้ว ดังนั้นจากนี้ไปอย่าถามคำถามแบบนี้อีก” สาริศาสั่งสอนธีรวีร์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมอย่างหาได้ยาก

พอเห็นสีหน้าของสาริศา ธีรวีร์ก็รู้เลยว่าถ้าเขายังจะถามต่อไป มันมีแต่จะทำให้แม่ของเขาเสียใจเท่านั้น “ฉันเข้าใจแล้วครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่ถามอีก คุณแม่อย่าโกรธผมเลยนะครับ”

“ธีร์เด็กดี” สาริศากอดลูกชายไว้อย่างอ่อนโยน เริ่มรู้สึกเสียใจที่ทำท่าทางโมโหต่อหน้าธีร์ไป เป็นความผิดของเธอเอง เป็นเธอเองที่ไม่สามารถมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้กับลูก แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะโกรธลูกชายแบบนี้?

ในเวลานี้ธนพัตกำลังนั่งจัดการเอกสารอยู่ในห้องทำงาน มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก

 “เข้ามาได้” เขาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้อารมณ์ แต่ก็ยังสามารถทำให้เลขาสาวคนใหม่ที่อยู่นอกประตูหน้าแดงขึ้นมาได้

เลขาสาวพยายามควบคุมอารมณ์ให้สงบลง ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ท่านประธานคะ ฝั่งกีรติเมธานนท์กรุ๊ปเพิ่งโทรมาค่ะ ทางนั้นแจ้งให้ท่านประธานไปเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

 “อืม ผมรู้แล้ว ให้ชรัณเตรียมรถไว้ด้วย”

 “ค่ะ”

หลังจากออกจากห้องทำงาน เลขาสาวก็รีบตบหน้าตัวเองเบาๆ บ้าจริงๆ เลย ถึงแม้เธอจะเข้ามาทำงานที่นี่ได้สองสัปดาห์แล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของประธานหนุ่มรูปหล่อคนนี้ได้เลย แต่ผู้ชายคนนี้จะสมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว! ถ้าตนเองสามารถ...

ไม่ไม่ไม่! เลขาสาวรีบยับยั้งความคิดของตัวเอง ได้ข่าวมาว่าเลขาสองคนก่อนต่างก็ถูกแฟนสาวท่านประธานไล่ออก เพราะคิดในสิ่งไม่ควรคิด เธอควรจะรักษางานไว้จะดีกว่า

พอคิดได้แบบนี้ เลขาสาวก็รีบแจ้งให้ชรัณเตรียมรถ

ทันทีที่เดินลงไปที่หน้าประตูบริษัท ธนพัตก็ถูกใครบางคนเข้ามาขวางทางไว้

“ขอโทษนะครับ คุณคือคุณธนพัตหรือเปล่า” พอเห็นเด็กน้อยที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูยืนขวางหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงน่ารัก ธนพัตรู้สึกว่าใจของเขาก็อ่อนขึ้นมากะทันหัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ