ธีภพที่อยู่ภายใต้ความตกตะลึงรีบกลับไปที่บ้านได้ยินตำรวจคนนั้นกำลังพูดกับแม่บ้านพอดีว่าจะพ่อของตนเองไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ
ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ธีภพไม่รู้จะทำยังไงดีไปชั่วขณะ ได้แต่รีบขึ้นมาเรียกบุรินทร์
หลังจากได้ยินที่ธีภพบอก บุรินทร์ตกใจจนหน้าถอดสี ตำรวจมาหาตนเองเวลานี้ ยังจะมีเรื่องอะไรได้อีก!
ต้องเป็นนังสาริศาที่ไม่รักษาสัญญาคนนี้แน่นอน ถึงขั้นกล้าเอาเอกสารพวกนั้นไปให้ตำรวจจริงๆ!
เห็นว่าบุรินทร์ไม่พูดอะไร ธีภพก็ยิ่งร้อนใจ “พ่อครับ ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรครับ พ่อรีบบอกมาสิครับ! ทำไมตำรวจถึงได้มาหาพ่อ”
“ไม่ใช่เพราะผู้หญิงที่ไม่รักษาสัญญาอย่างสาริศาคนนั้นหรอกเหรอ แม่งเอ้ย เธอกล้า……” ยังไม่ทันสิ้นเสียงโกรธเกรี้ยวของบุรินทร์ ก็ถูกตำรวจขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“คุณก็คือคุณบุรินทร์สินะ มีคุณผู้ชายคนหนึ่งชื่อธนพัตฟ้องร้องว่าคุณติดสินบนเจ้าพนักงานครับ กรุณาไปให้ปากคำกับพวกเราที่สถานีตำรวจด้วยนะครับ”
ธนพัตเหรอ
บุรินทร์แปลกประหลาดใจเล็กน้อย
หรือว่าไม่ใช่นังแพศยาคนนั้นเป็นคนทำเหรอ
ธนพัตรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แล้วฟ้องร้องเขาได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน!ถ้าเขาเกิดเรื่อง กิจการของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
แต่เขาไม่มีโอกาสได้คิดอะไรมาก ตำรวจที่อยู่ตรงหน้าแสดงสัญลักษณ์ ก็มีคนเข้ามาควบคุมตัวบุรินทร์ ลากเขาไปยังรถตำรวจที่อยู่ข้างล่าง
ธีภพมองตำรวจเอาตัวบุรินทร์ไปตาปริบๆ ไม่มีหนทางที่จะขัดขวางได้เลยสักนิดเดียว นึกถึงคำพูดที่ตำรวจเพิ่งพูดเมื่อครู่ เขายังตั้งตัวไม่ได้เลย
ติดสินบนเจ้าพนักงานเหรอ พ่อของตนเองทำไมถึงติดสินบนเจ้าพนักงานทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้นะ
ทางด้านนี้สาริศากำลังทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์ จู่ๆเมย์ก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานของเธอ “พี่ริศา พี่ได้ข่าวหรือยัง คุณบุรินทร์ถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว!”
“อะไรนะ!” สาริศาตกใจเล็กน้อย เป็นไปได้อย่างไร เธอไม่ได้เอาข้อมูลพวกนั้นส่งให้ตำรวจนี่ บุรินทร์จะถูกจับได้ยังไงกัน
เห็นท่าทีของสาริศา เมย์ก็รู้ว่าเธอยังไม่รู้ข่าวนี้“พี่ริศารีบเข้าไปอ่านในอินเทอร์เน็ตเร็ว ตอนนี้มีข่าวเต็มโลกโซเชียลแล้ว ทุกคนต่างพูดถึงเรื่องนี้กันหมด”
มองสีหน้าตื่นเต้นของเมย์ สาริศาก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์ พิมพ์ชื่อบุรินทร์ลงในช่องค้นหา หลังจากผลการค้นหาออกมา สาริศามองเห็นข่าวที่บุรินทร์ถูกจับเต็มหน้าจอ
กวาดสายตามองหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง สาริศาพบว่าเป็นข่าวที่บุรินทร์ถูกเปิดโปงนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องติดสินบนเจ้าพนักงานเรื่องนี้เรื่องเดียว ยังมีข่าวฉาวอื่นอีกเช่น การฝังกลบขยะพิษในย่านที่อยู่อาศัย และโรงงานภายใต้การบริหารของเขาได้เพิ่มสารอันตรายจำนวนมากเกินไปในการผลิตยาและนมผง......
ชาวเนตต่างพากันโกรธแค้นเรื่องพวกนี้ ต่างพากันด่าทอบุรินทร์ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านท้ายข่าว
“ไอ้เวรนี่ ขยะจริงๆ ปลอมแม้กระทั่งยาและนมผงสำหรับทารก มันไม่กลัวกรรมตามสนองในอนาคตหรือไง”
“แม้แต่เด็กยังไม่เว้น ฉันขอให้มันไร้ลูกหลานสืบทอดวงศ์ตระกูล!”
“เฮ้ยๆเดี๋ยวก่อน เราไม่พาดพิงถึงผู้บริสุทธิ์ ฉันไม่ได้ด่าคนในครอบครัวเขา ฉันด่าแค่บุรินทร์ คนคนนี้แม้แต่หายใจยังเป็นมีภาวะทางอากาศ ทางที่ดีที่สุดขอใช้ครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่ในคุก อย่าปล่อยเขาออกมา คนแบบนี้ออกมาก็จะเป็นอันตรายต่อผู้คน”
“การสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจ สุดท้ายสินบนเหล่านี้จะไม่มาจากผู้บริโภคอย่างพวกเรา ผมขอสนับสนุนให้ทุกคนคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยกีรติเมธานนท์กรุ๊ป กิจการแบบนี้ยังจะเก็บเอาไว้ทำบ้าอะไร!”
ช่างวุ่นวายจริงๆ สาริศารู้สึกตลกมาก “เอาละเมย์ พี่ยังมีงานต้องทำ เธอออกไปทำงานก่อนเถอะ”
“ค่ะ” เมย์ตอบรับอย่างดีใจ “งั้นฉันไม่รบกวนพี่แล้วนะ พี่ริศา” พูดจบเมย์ก็ออกจากห้องทำงานด้วยความลิงโลดยินดี
ถูกอารมณ์ดีใจของเมย์เข้ามาพัวพัน บนใบหน้าสาริศาก็มีรอยยิ้ม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องดีที่หาได้ยาก แต่ตกลงว่าเป็นออสตินทำหรือเปล่านะ
คิดมาถึงตรงนี้ สาริศาโทรหาออสติน ไม่นานก็มีคนรับสาย
“ออสติน เรื่องของบุรินทร์นายเป็นคนฟ้องเหรอ” สาริศาถามตรงๆ
ออสตินที่อยู่ปลายสายอีกด้านฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ เขาก็เห็นข่าวเรื่องที่บุรินทร์ถูกจับตัวในโลกโซเชียล “ไม่ใช่ ถ้าเป็นผม จะไม่ปรึกษาคุณก่อนได้ยังไง”
“งั้นคือใคร” สาริศาค่อยๆขมวดคิ้ว “ไม่ใช่คุณ แล้วก็ไม่ใช่ฉัน แล้วยังมีใครรู้เรื่องนี้อีก”
นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ออสตินก็พูดว่า “ริศา ผมคิดว่าผมน่าจะรู้ว่าเป็นใคร”
“ใคร” สาริศาถาม
“น่าจะเป็นธนพัต ก่อนหน้านี้มีเพื่อนในแวดวงทนายคนหนึ่งบอกกับผมว่า มีคนขอร้องให้เขาช่วยสืบเรื่องเกี่ยวกับบุรินทร์ ผมอยากรู้ก็เลยถามไปอีก เขาบอกว่าธนพัตขอให้เขาสืบ ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะเป็นธนพัตเป็นคนฟ้องร้องแต่ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...