ทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ผู้ช่วยซึ่งเข้ามาทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงได้แต่มองสาริศาแบบนี้เท่านั้น
“อยู่ที่ไหน” สาริศาเห็นผู้ช่วยไม่พูด จึงถามอีกรอบ
“อ้อๆๆ ท่านประธานอยู่ข้างในค่ะ”
เมื่อผู้ช่วยได้สติ ก็เห็นสาริศาเปิดประตูเข้าไปแล้ว
ก่อนที่สาริศาจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน เดิมทีคิดว่าตัวเองจะได้เห็นสถานการณ์อะไรบางอย่าง เช่น คนสองคนกำลังนัวเนียกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไร
สาริศามองไปรอบ ๆ อย่างจับผิด และพบว่าไม่มีร่องรอยของผู้หญิง
สาริศามองธนพัตแล้วพูดว่า “ยุ่งมากเหรอ”
“ฮะ? อะไรกัน!ที่รักคุณมาได้ยังไง”
ธนพัตมองสาริศาด้วยหน้าตาไร้เดียงสาราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ฉันมาได้ยังไงงั้นเหรอ ถ้าฉันไม่มาคุณจะทำลูกกับจันจิราใช่ไหม”
สาริศามองธนพัตอย่างโกรธจัด นี่มันเรียกว่าอะไร กล้าที่จะออกนอกลู่นอกทางแต่ไม่กล้ายอมรับงั้นเหรอ
เมื่อมองธนพัตสาริศาก็ยิ่งโกรธ แต่ก็ยังตะโกนดังเกินไปไม่ได้ หากคนนอกได้ยินมันไม่ดี
“จันจิรา? อ๋อเธอน่ะ เธอหกล้ม ผมเลยเข้าไปช่วยประคองนิดหน่อยเท่านั้น”
ธนพัตมองดูท่าทางตื่นเต้นของสาริศาในตอนนี้ ในใจรู้สึกว่าตลกดี แต่ยังรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมาะที่จะหัวเราะ
ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่อดทนไว้แล้วง้อสาริศา
“อ๋อเหรอ หกล้มเหรอ เธอมารยาคุณดูไม่ออกหรีอไง ฉันไม่ต้องคิดให้มากความก็ยังรู้เลย หรือว่าคุณไม่เข้าใจ”
สาริศาโกรธมากจนไฟลุกโชนขึ้นฟ้ากับคำอธิบายของธนพัต
มีคำกล่าวที่ว่า ผู้หญิงโกรธเมื่อไรเมื่อนั้นจะไร้ซึ่งเหตุผล
“ริศา คุณฟังผมนะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ธนพัตทำให้สาริศาโกรธมากขนาดนี้ ดังนั้นตอนนี้จึงไม่รู้ว่าควรง้ออย่างไรดี
ชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าวิธีการนั้นมันน่าขำ แต่ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว เสียใจภายหลังไปก็ไม่มีประโยชน์
“พูดสิ ฉันฟังอยู่”
จู่ๆ สาริศาก็ยิ้มอย่างโกรธจัด หน้าตาเย็นชามองธนพัต สาริศาอยากฟังว่าธนพัตจะอธิบายกับตัวเองอย่างไร
“ที่จริงจันจิราจงใจทำ แต่ในตอนนั้นผมต้องทำแบบนี้ เพราะเวลานั้นพ่อของเธอก็อยู่ด้วย ถ้าผมไม่ช่วยประคองจะดูไม่ค่อยดี”
หลังจากธนพัตพูดจบก็มองสีหน้าของสาริศา หวังว่าสิ่งนี้จะทำให้สาริศาอารมณ์เย็นลง
ธนพัตไม่สามารถทนรับอารมณ์โกรธจัดของสาริศาได้จริงๆ เพราะยากที่จะง้อ
เมื่อเห็นท่าทีของสาริศาในตอนนี้ ธนพัตก็กลัวสาริศาจะเกิดแรงกระตุ้นจนมาตบตัวเอง
“ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นคุณจะมีครั้งต่อไปไหม”
ความโกรธของสาริศามาและไปเร็ว หลังจากฟังคำอธิบายของธนพัตแล้ว สาริศารู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่
เดิมทีสาริศาตั้งใจจะถามธนพัตว่าในเมื่อเป็นแบบนี้แต่ทำไมข่าวในหนังสือพิมพ์ถึงเป็นอย่างนั้น
แต่แม้สาริศาจะโกรธ ทว่าก็ยังมีเหตุผลอยู่ พอคิดดูแล้วจึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เพราะสุดท้ายแล้วตนก็ทำงานด้านข่าวเช่นกัน
ทันทีที่สาริศาพูดประโยคนี้ออกมา ธนพัตก็รู้ว่าสาริศาให้อภัยตัวเองแล้ว
จึงรีบพยักหน้าและพูดว่า “ไม่กล้าแล้วๆ”
ธนพัตในตอนนี้ไหนเลยยังจะกล้าพูดอะไร ทำได้แค่บอกว่าไม่กล้าอย่างเดียว แค่หวังว่าสาริศาจะอารมณ์เย็นลงโดยเร็ว
“อืม”
สาริศาส่งเสียงอืมโดยไม่มองธนพัต
ธนพัตรู้ปฏิกิริยาในตอนนี้ของสาริศาแล้ว
สาริศาเดินออกจากบริษัทแล้วขับรถกลับบริษัทตัวเอง
เมื่อวานสาริศาเพิ่งไปหาธนพัต วันรุ่งขึ้นกลับมีอีกข่าวที่รุนแรงมากกว่าเกิดขึ้นอีก
สาริศาอ่านเนื้อหาข่าวหนังสือพิมพ์ในมือพร้อมกับตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอคิดจะไปหาธนพัต แต่ก็กลัวว่าจะไปเจออย่างเมื่อวาน
“ธนพัต”
ปากสาริศาเรียกชื่อธนพัตอย่างดุดัน ส่งผลให้ธนพัตที่กำลังทำงานอยู่เกิดอาการจาม
ทันทีที่คิดดูให้ละเอียดก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้สาริศาอยากไปหาธนพัตมาก แต่หลังจากคิดทบทวนแล้ว ตนไปหาเขาไม่สู้รอให้เขามาอธิบายให้ฟังดีว่า
ดังนั้นสาริศาจึงทำงานไปด้วยความโกรธตลอดทั้งวัน กระทั่งตอนเย็นเลิกงาน ถึงได้เห็นข้อความที่ส่งมาจากธนพัต
“เลิกงานแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมไปรับคุณนะ”
“ได้”
สาริศาพิมพ์ข้อความแล้วส่งกลับไป สาริศาอยากดูว่าธนพัตจะอธิบายเรื่องนี้กับตนอย่างไร
“ที่รัก”
ธนพัตเห็นสาริศาเดินออกมาจึงเรียกไว้ทันที
สาริศาเข้าไปนั่งในรถแล้วมองธนพัต
เสียงลมดังอื้ออึง พัดเข้าใบหน้าของสาริศา น้ำตาที่เพิ่งไหลพลันเหือดแห้ง
สาริศาลงจากรถของธนพัตแล้ว แต่เธอไม่ได้รับคำอธิบายจากธนพัต
“พูดมาสิ ทำไมคุณถึงไปโรงแรมกับจันจิรา”
สาริศามองธนพัตพลางกอดอก อยากฟังว่าธนพัตจะอธิบายอย่างไร
“คุณอยากฟังคำอธิบาย ผมไม่มีอะไรอธิบาย ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...