พี่ชายของเธอไม่อยู่ติดบ้าน แต่มิลินเป็นคนติดบ้าน พี่ชายของเธอใช้เงินฟุ่มเฟือย แต่มิลินไม่เป็นอย่างนั้น มีหลายที่ที่ทั้งสองคนเกื้อหนุนกัน และมีหลายที่ที่ทั้งสองคนคล้ายคลึงกัน
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
สาริศาคิดในใจ แล้วตัดสินใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของทั้งสองหลังจากมิลินกับชัชวาลแต่งงานกัน
แค่คิดก็รู้สึกอบอุ่นและโรแมนติกมาก
“มิลิน ฉันถามเธอจริงๆ นะ เธอชอบพี่วาลไหม”
ถ้ามิลินชอบจริงๆ เช่นนั้นสาริศาก็จะไปถามชัชวาลดูว่าเขาคิดอย่างไร
หากทั้งสองรักกัน สาริศาก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นแม่สื่อ แค่ขอร้องว่าเมื่อทั้งสองแต่งงานกันไปแล้วอย่าลืมเธอก็พอ
เป็นครั้งแรกที่มิลินเห็นสาริศาถามคำถามตัวเองอย่างจริงจัง และเธอก็เริ่มจริงจังโดยไม่รู้ตัว
“ชอบ”
คำเดียวพร้อมกับสายตาแน่วแน่ มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่ามิลินไม่ได้โกหก และมิลินเป็นเด็กดี สาริศาไม่อยากให้ชัชวาลพลาดไป
“ฮ่าฮ่า แบบนี้ก็ดี ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยเธอเอง”
สาริศาคิดไม่ถึงว่าพี่ชายตัวเองจะหลอกล่อผู้หญิงดีๆ คนนี้ได้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าพี่ชายยังคงมีความเป็นไปได้ในเรื่องความรัก
“ริศา เธอจะช่วยฉันยังไงเหรอ” ทันทีที่ได้ยินคำพูดของสาริศา มิลินก็สับสนเล็กน้อย
สาริศาจะทำอย่างไร จะช่วยตนอย่างไร
คำถามนี้เป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ในใจของมิลิน หากไม่ถามออกมาจะรู้สึกไม่สบายใจไปตลอด
“แน่นอนว่าเป็นการจับคู่พวกเธอ” สาริศาเหลือบมองมิลินแล้วเริ่มทำงานในมือ
แม้ว่าวันนี้จะมาเร็วแต่ก็คุยกันสักพักใหญ่ ดังนั้นเวลาเริ่มงานจึงเลยเวลาทำงานไปแล้วสิบห้านาที
แม้จะบอกว่าสาริศาเป็นภรรยาของประธานจึงไม่มีใครกล้าพูดถึงเธอ แต่ก็ยังเป็นการดีกว่าที่ไม่ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน
เมื่อเห็นว่าสาริศาไม่มีแผนที่จะพูดกับตัวเองต่อ มิลินจึงส่ายหน้าและทำงานต่อไป
ชั่วโมงทำงานในตอนเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว สาริศาส่งข้อความถึงชัชวาล นัดเขาทานอาหารกลางวันด้วยกัน
แม้ว่าสาริศาอยากพามิลินไปด้วยกัน แต่เพราะยังไม่รู้ว่าใจชัชวาลคิดอะไรอยู่ จึงต้องถามให้ชัดเจนแล้วค่อยพูดเรื่องอื่นๆ
“พี่วาล ไปทานข้าวกัน ห้ามปฏิเสธ ส่งที่อยู่ไปให้พี่แล้ว”
หลังจากส่งข้อความนี้ไป ชัชวาลก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ตกลง”
จากนั้นสาริศาก็เก็บของแล้วไปยังร้านอาหารที่ตกลงกันไว้
ก่อนจะไปยังบอกมิลินด้วยว่าแล้วเจอกันนะ นี่ทำให้มิลินเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ความรู้สึก มิลินจึงไม่ได้พูดอะไรมาก และโบกมือให้สาริศาด้วยรอยยิ้ม
ร้านอาหารที่สาริศาจองนั้นอยู่ชั้นล่างของบริษัทตัวเอง แบบนี้จึงสะดวก และสาริศาก็ไม่ต้องขับรถรีบร้อนด้วย
ชัชวาลรู้สึกอ่อนใจ แต่เพราะเป็นน้องสาวของตัวเอง ชัชวาลจึงต้องตามใจ
เมื่อสาริศาลงไป ชัชวาลก็มาถึงแล้ว สาริศารู้ว่าตัวเองต้องได้ฟังชัชวาลบ่นสักพัก จึงกลอกตาก่อนจะเดินไปทางชัชวาล
เป็นจริงตามที่สาริศาคาดไว้ ชัชวาลเริ่มดุสาริศาทันทีที่เข้าไป และพูดอยู่นานมาก
แม้ว่าอยู่ในบริษัทชัชวาลจะเป็นประธานที่มีความเย็นชาสูง แต่เมื่อเจอคนใกล้ชิด ก็จะกลายเป็นแม่ขี้บ่นในไม่กี่วินาที จุดนี้สาริศามีประสบการณ์อย่างลึกซึ้ง
“เธอดูสิ มันอยู่ข้างล่างบริษัทเธอแท้ๆ ยังต้องให้ฉันรอเธออีก”
“เห็นไหมว่าเวลาจองร้านอาหาร ยังต้องเลือกร้านที่อยู่ใต้บริษัทพวกเธอ เธอยังจะเอาให้ใกล้กว่านี้อีกหน่อยไหมล่ะ”
“ทำไม เพิ่งแต่งงานไปเมื่อวาน วันนี้ทะเลาะกันจนร้องไห้มาฟ้องฉันแล้วเหรอ”
“……….”
ได้ยินคำตอบนี้ สาริศาจึงมีความสุขมากตลอดมื้อเที่ยง
สามารถจับคู่ให้พี่ชายด้วยมือตัวเองได้มันก็ดีมากๆ
“มีอะไร ทำไมถามคำถามนี้” หลังทานอาหารเสร็จ ชัชวาลถึงได้ถามคำถามนี้
ไม่พูดขณะทาน จุดนี้สามารถเห็นได้จากทั้งตัวสาริศาและชัชวาล
การไม่พูดคุยเวลาทานอาหารเป็นมารยาทขั้นพื้นฐาน
“เพราะมิลินชอบพี่ ฉันเลยจะจับคู่ให้” สาริศาบอกตามตรง เพราะเธอรู้ดีว่าถึงแม้เธอจะไม่พูด แต่ด้วยสติปัญญาของพี่ชายก็คงสามารถเดาได้
“แบบนี้นี่เอง ที่เธอเรียกฉันมาวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้เหรอ”
ทันทีที่ชัชวาลได้ยินคำพูดของสาริศา ก็รู้จุดประสงค์หลักที่สาริศามาวันนี้
“ฮี่ฮี่ อปป้าฉันไปก่อนนะคะ” สาริศามองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาเข้าทำงานแล้ว
ดังนั้นสาริศาจึงต้องรีบไปที่บริษัท
“ช้าๆ หน่อย”
เมื่อเห็นสาริศาวิ่งเร็วมาก ชัชวาลทำได้เพียงเอ่ยเตือนอยู่ข้างหลังให้ระวัง ถ้าวิ่งเร็วเกินไปจนหกล้มมันจะแย่
“รู้แล้วค่ะ” สาริศาตอบประโยคเดียวแล้วก็มองไม่เห็นเงาของสาริศาอีกเลย
ขณะที่ชัชวาลตั้งใจจะไป ถึงได้พบว่ายังไม่ได้จ่ายค่าอาหาร
และแล้วชัชวาลถึงได้รู้ว่า วันนี้ที่สาริศานัดตัวเองออกมามีสองเหตุผล
อย่างแรกคือการถามคำถามนั้นกับตัวเอง และอย่างที่สองคือต้องการให้ตัวเองเลี้ยงข้าว สาริศาเป็นเจ้าแผนการ ชัชวาลรู้ดี
หลังจากจ่ายเงิน เขาก็ออกจากร้านอาหารไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...