ใช่ รูปภาพบนหน้าจอนั้นเป็นฝีมือของเธอเอง
หลังได้ยินว่าธีภพจะเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของสาริศาในงานเลี้ยงนี้ ไรยาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็ยังไม่รู้สึกสะใจ
ในเมื่อต้องการจะทำลายสาริศา อย่างนั้นก็ทำลายให้ถึงที่สุด ให้เธอชื่อเสียงฉาวโฉ่ป่นปี้ ไม่สามารถชูคออยู่บนแวดวงสังคมชั้นสูงได้อีกตลอดไป
ดังนั้นเธอจึงแอบติดสินบนคนรับใช้ตระกูลกีรติเมธานนท์ ปล่อยภาพเหล่านั้นที่อยู่ในมือของเธอออกมา
ทำให้สาริศาถูกคนอื่นมองด้วยท่าทางสุดจะเหลือทน เมื่อเป็นแบบนี้ ต่อใหัสาริศาจะหย่ากับธนพัต คนที่รักหน้าตามากมายอย่างธีภพ จะต้องไม่มีทางกลับไปสานความสัมพันธ์กับสาริศาอย่างแน่นอน!
ไรยากำลังครุ่นคิดอย่างสะใจ รอดูสาริศาถูกตระกูลกีรติเมธานนท์เขี่ยออกอย่างใจร้ายนั้น ธนพัตกลับเปล่งเสียงพูดออกมา ทำให้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของไรยานั้น ชะงักค้างฉับพลัน!
“คุณปู่พูดไม่มีผิด บางทีริศาอาจไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลกีรติเมธานนท์” เมื่อธนพัตพูดเพียงครึ่งประโยคออกมานั้น ใบหน้าของสาริศาก็ยิ่งขาวซีด แต่เขากลับรีบกล่าวต่อ “เพียงแต่ว่าภรรยาของผม ไม่จำเป็นต้องรับการยอมรับจากตระกูลกีรติเมธานนท์”
สาริศาหันหน้าไปมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และก็สบสายตาเข้ากับธนพัตพอดี
ดวงตาดำขลับดั่งออบซิเดียน ในความสงบนิ่งแฝงด้วยความแน่วแน่ ความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขาถูกส่งผ่านมาทางผิวหนัง ราวกับกำลังละลายความเย็นชาของหัวใจเธอ
สาริศาจมูกเริ่มคัดฟืดฟัดขึ้น
ท่านประเสริฐเองก็ตกใจ บุรินทร์ที่อยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ได้ จึงกระซิบเบา ๆ :“ธนพัต ทำไมแกพูดกับคุณปู่แบบนั้น! แต่งงานกับผู้หญิงที่วางตัวไม่ดีแบบนี้ จะทำให้ตระกูลกีรติเมธานนท์อับอายขายขี้หน้า แกยังไม่สำนึกผิดอีก!”
ธนพัตจึงค่อย ๆ ละสายตาจากตัวของสาริศา แล้วจ้องไปยังร่างของบุรินทร์อย่างเย็นชา
เพียงแต่ว่าการมองนั้น กลับทำให้บุรินทร์รู้สึกฉับพลันเหมือนตกลงไปอยู่ในโรงน้ำแข็ง
“บุรินทร์” ธนพัตเรียกบุรินทร์ด้วยชื่อเต็ม น้ำเสียงเย็นยะเยือกจนแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง “ผู้หญิงของผม พี่อย่ามาชี้นิ้วสั่งการให้มาก”
บุรินทร์หน้าขาวซีดขึ้น อยากจะพูดอะไร แต่ท่านประเสริฐที่อยู่ข้าง ๆ กลับกระแอมขึ้นเบา ๆ
ฉับพลัน บุรินทร์ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก ทำเพียงแค่มองไปทางท่านประเสริฐ
“เรื่องนี้ยังต้องทำการหาเรือกัน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นผู้หญิงที่ธนพัตแต่งเข้ามาอย่างถูกต้อง” ท่านประเสริฐกล่าวเนือย ๆ ด้วยน้ำเสียงไม่อาจจะคาดเดาได้ “อย่าต้องมาทะเลาะกันเองเพราะเรื่องข่าวลือของคนต่ำ ๆ เลย”
ครั้งนี้สาริศาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
เธอไม่รู้ท่านประเสริฐว่าเป็นคนอย่างไร แต่ว่าโลกภายนอกต่างลือกันว่า เขาเป็นที่โหดเหี้ยม ไร้ความปรานี ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถที่จะบุกเบิกความรุ่งโรจน์ให้กับตระกูลกีรติเมธานนท์ด้วยลำพังตัวเองได้
แต่คิดไม่ถึงว่า เขากลับพูดแบบนั้น ตัวเองทำให้ตระกูลกีรติเมธานนท์อับอายขายขี้หน้าต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้น เขากลับไม่เอาเรื่อง?
บุรินทร์กับธนพัตต่างก็ประหลาดใจกับปฏิกิริยาของท่านประเสริฐ แต่เพราะรู้ว่าคุณปู่ของตัวเองนั้น แต่ไหนแต่ไรมาพูดคำไหนคำนั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก
คนในงานที่ไม่พอใจที่สุดก็คือไรยา
ดวงตากลมโตของเธอจ้อง แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง!
เธอเดิมทีคิดว่าครั้งนี้ตัวเองจะต้องทำลายสาริศาได้อย่างแน่นอน ทำให้เธอชื่อเสียงป่นปี้ ถูกเขี่ยออก แต่คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างกลับไม่เกิดขึ้น!
ธนพัตที่ดูไม่มีอาการรังเกียจท่าทางของสาริศาแต่อย่างใด หนำซ้ำท่านประเสริฐยังไม่เอาเรื่องอีก!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
ในความไม่พอใจ ไรยาแทบจะไม่ครุ่นคิดได้กล่าวขึ้น:“คุณปู่คะ นี่มันเป็นข่าวลือที่ไหนกันคะ เรื่องจริงทั้ง——”
แต่ไรยายังไม่ทันได้พูดจบ ท่านประเสริฐหันหน้ามามองด้วยแววตาคมกริบ ทำให้ไรยาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก!
“ผู้หญิงที่ไม่มีมารยาทคนนี้มาจากไหน” ท่านประเสริฐกล่าวอย่างเย็นชา “คุณปู่คำนี้เธอสามารถเรียกได้เหรอ ทำความเข้าใจใหม่ นะ เธอยังไม่ได้แต่งเข้าบ้านตระกูลกีรติเมธานนท์ของพวกเรา ดังนั้นหยุดพูดเรื่องครอบครัวของพวกเราให้นอย ๆ หน่อย!”
ครั้งนี้ไรยาหน้าชาขึ้น เสียใจจนเหงื่อซึม
เธอคิดไม่ถึงว่าแผนการที่ตัวเองอุตส่าห์วางไว้อย่างดี จะไม่สามารถทำลายสาริศา แต่ตรงกันข้ามตัวเองกลับทำให้ท่านประเสริฐมีความทรงจำที่ไม่ดีกับตัวเอง
เธอไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ก้มศีรษะลง กัดริมฝีปากสีแดงของเธอจนแทบจะทะลุแล้ว
ทำไม!
ธนพัตอยู่บนรถเข็น จะต้องเต้นไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ว่าในงานนอกจากธนพัตแล้ว เธอก็ไม่รู้จักใครอีกเลย
เห็นท่าทางตกตะลึงของสาริศา ธนพัตก็อดยิ้มไม่ได้
“กับผม” เขากล่าวสองคำสั้น ๆ ฉับพลันก็คว้ามือของสาริศามา
กับธนพัต?
สาริศาก็ยิ่งตกใจ ยังไม่ทันตั้งตัว ธนพัตฉับพลันก็ควบคุมรถเข็นของตัวเองเลื่อนไปยังห้องโถง
แต่แล้ว สาริศาที่ถูกเขาจูงอยู่นั้น ก็ถูกเขาพาไปยังตรงกลางของห้องโถง
“ธนพัต?” สาริศาตกตะลึงไปหมด “นี่คุณจะทำอะไรเหรอ”
“เต้นรำ” ธนพัตยามปกติที่หว่างคิ้วจะเย็นชาเสมอ แต่เวลานี้กลับมีรอยยิ้มจาง ๆ แฝงอยู่ในนั้น “คุณบอกว่าเมื่อก่อนได้ทำการฝึกเต้นมาโดยเฉพาะไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ยังเต้นเป็นอยู่ไหม”
สาริศาถึงได้รู้สึกตัว นี่ธนพัตจะเต้นรำกับตัวเองจริงหรือ
ใบหน้าของเธอจึงแดงก่ำในฉับพลัน
“ฉัน…ฉันก็พูดไปอย่างนั้นเอง ฉัน…เต้นยังไม่ตรงจังหวะด้วยซ้ำ”
มุมปากธนพัตก็ยิ่งยกเป็นเส้นโค้งขึ้น “เหรอ อย่างนั้นก็ยิ่งดีเลย”
สาริศาชะงัก ยังไม่ทันได้ถามว่า “อะไรคือยิ่งดี” ก็ถูกธนพัตจูงมือของเธอ แล้วออกแรงทันที
ทันใดนั้น สาริศาที่ยืนไม่มั่นคง ก็เซล้มลงไปในอ้อมกอดของธนพัต
“ธนพัต นี่คุณ…” เธอลนลาน อยากจะลุกยืนขึ้น แต่ธนพัตได้ใช้มือล็อกเอวของเธอไว้ และไม่เธอขยับเขยื้อนได้
“อย่าขยับ” ธนพัตก้มหน้ามองเธอ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พวกเรากำลังจะเต้นรำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...