หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 67

ใช่ รูปภาพบนหน้าจอนั้นเป็นฝีมือของเธอเอง

หลังได้ยินว่าธีภพจะเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของสาริศาในงานเลี้ยงนี้ ไรยาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็ยังไม่รู้สึกสะใจ

ในเมื่อต้องการจะทำลายสาริศา อย่างนั้นก็ทำลายให้ถึงที่สุด ให้เธอชื่อเสียงฉาวโฉ่ป่นปี้ ไม่สามารถชูคออยู่บนแวดวงสังคมชั้นสูงได้อีกตลอดไป

ดังนั้นเธอจึงแอบติดสินบนคนรับใช้ตระกูลกีรติเมธานนท์ ปล่อยภาพเหล่านั้นที่อยู่ในมือของเธอออกมา

ทำให้สาริศาถูกคนอื่นมองด้วยท่าทางสุดจะเหลือทน เมื่อเป็นแบบนี้ ต่อใหัสาริศาจะหย่ากับธนพัต คนที่รักหน้าตามากมายอย่างธีภพ จะต้องไม่มีทางกลับไปสานความสัมพันธ์กับสาริศาอย่างแน่นอน!

ไรยากำลังครุ่นคิดอย่างสะใจ รอดูสาริศาถูกตระกูลกีรติเมธานนท์เขี่ยออกอย่างใจร้ายนั้น ธนพัตกลับเปล่งเสียงพูดออกมา ทำให้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของไรยานั้น ชะงักค้างฉับพลัน!

“คุณปู่พูดไม่มีผิด บางทีริศาอาจไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลกีรติเมธานนท์” เมื่อธนพัตพูดเพียงครึ่งประโยคออกมานั้น ใบหน้าของสาริศาก็ยิ่งขาวซีด แต่เขากลับรีบกล่าวต่อ “เพียงแต่ว่าภรรยาของผม ไม่จำเป็นต้องรับการยอมรับจากตระกูลกีรติเมธานนท์”

สาริศาหันหน้าไปมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และก็สบสายตาเข้ากับธนพัตพอดี 

ดวงตาดำขลับดั่งออบซิเดียน ในความสงบนิ่งแฝงด้วยความแน่วแน่ ความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขาถูกส่งผ่านมาทางผิวหนัง ราวกับกำลังละลายความเย็นชาของหัวใจเธอ

สาริศาจมูกเริ่มคัดฟืดฟัดขึ้น

ท่านประเสริฐเองก็ตกใจ บุรินทร์ที่อยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ได้ จึงกระซิบเบา ๆ :“ธนพัต ทำไมแกพูดกับคุณปู่แบบนั้น! แต่งงานกับผู้หญิงที่วางตัวไม่ดีแบบนี้ จะทำให้ตระกูลกีรติเมธานนท์อับอายขายขี้หน้า แกยังไม่สำนึกผิดอีก!”

ธนพัตจึงค่อย ๆ ละสายตาจากตัวของสาริศา แล้วจ้องไปยังร่างของบุรินทร์อย่างเย็นชา

เพียงแต่ว่าการมองนั้น กลับทำให้บุรินทร์รู้สึกฉับพลันเหมือนตกลงไปอยู่ในโรงน้ำแข็ง

“บุรินทร์” ธนพัตเรียกบุรินทร์ด้วยชื่อเต็ม น้ำเสียงเย็นยะเยือกจนแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง “ผู้หญิงของผม พี่อย่ามาชี้นิ้วสั่งการให้มาก”

บุรินทร์หน้าขาวซีดขึ้น อยากจะพูดอะไร แต่ท่านประเสริฐที่อยู่ข้าง ๆ กลับกระแอมขึ้นเบา ๆ

ฉับพลัน บุรินทร์ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก ทำเพียงแค่มองไปทางท่านประเสริฐ

“เรื่องนี้ยังต้องทำการหาเรือกัน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นผู้หญิงที่ธนพัตแต่งเข้ามาอย่างถูกต้อง” ท่านประเสริฐกล่าวเนือย ๆ ด้วยน้ำเสียงไม่อาจจะคาดเดาได้ “อย่าต้องมาทะเลาะกันเองเพราะเรื่องข่าวลือของคนต่ำ ๆ เลย”

ครั้งนี้สาริศาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

เธอไม่รู้ท่านประเสริฐว่าเป็นคนอย่างไร  แต่ว่าโลกภายนอกต่างลือกันว่า เขาเป็นที่โหดเหี้ยม ไร้ความปรานี ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถที่จะบุกเบิกความรุ่งโรจน์ให้กับตระกูลกีรติเมธานนท์ด้วยลำพังตัวเองได้

แต่คิดไม่ถึงว่า เขากลับพูดแบบนั้น ตัวเองทำให้ตระกูลกีรติเมธานนท์อับอายขายขี้หน้าต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้น เขากลับไม่เอาเรื่อง?

บุรินทร์กับธนพัตต่างก็ประหลาดใจกับปฏิกิริยาของท่านประเสริฐ แต่เพราะรู้ว่าคุณปู่ของตัวเองนั้น แต่ไหนแต่ไรมาพูดคำไหนคำนั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก

คนในงานที่ไม่พอใจที่สุดก็คือไรยา

ดวงตากลมโตของเธอจ้อง แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง!

เธอเดิมทีคิดว่าครั้งนี้ตัวเองจะต้องทำลายสาริศาได้อย่างแน่นอน ทำให้เธอชื่อเสียงป่นปี้ ถูกเขี่ยออก แต่คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างกลับไม่เกิดขึ้น!

ธนพัตที่ดูไม่มีอาการรังเกียจท่าทางของสาริศาแต่อย่างใด หนำซ้ำท่านประเสริฐยังไม่เอาเรื่องอีก!

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

ในความไม่พอใจ ไรยาแทบจะไม่ครุ่นคิดได้กล่าวขึ้น:“คุณปู่คะ นี่มันเป็นข่าวลือที่ไหนกันคะ เรื่องจริงทั้ง——”

แต่ไรยายังไม่ทันได้พูดจบ ท่านประเสริฐหันหน้ามามองด้วยแววตาคมกริบ ทำให้ไรยาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก!

“ผู้หญิงที่ไม่มีมารยาทคนนี้มาจากไหน” ท่านประเสริฐกล่าวอย่างเย็นชา “คุณปู่คำนี้เธอสามารถเรียกได้เหรอ ทำความเข้าใจใหม่ นะ เธอยังไม่ได้แต่งเข้าบ้านตระกูลกีรติเมธานนท์ของพวกเรา ดังนั้นหยุดพูดเรื่องครอบครัวของพวกเราให้นอย ๆ หน่อย!”

ครั้งนี้ไรยาหน้าชาขึ้น เสียใจจนเหงื่อซึม

เธอคิดไม่ถึงว่าแผนการที่ตัวเองอุตส่าห์วางไว้อย่างดี จะไม่สามารถทำลายสาริศา แต่ตรงกันข้ามตัวเองกลับทำให้ท่านประเสริฐมีความทรงจำที่ไม่ดีกับตัวเอง

เธอไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ก้มศีรษะลง กัดริมฝีปากสีแดงของเธอจนแทบจะทะลุแล้ว

ทำไม! 

ธนพัตอยู่บนรถเข็น จะต้องเต้นไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ว่าในงานนอกจากธนพัตแล้ว เธอก็ไม่รู้จักใครอีกเลย

เห็นท่าทางตกตะลึงของสาริศา  ธนพัตก็อดยิ้มไม่ได้

“กับผม” เขากล่าวสองคำสั้น ๆ ฉับพลันก็คว้ามือของสาริศามา

กับธนพัต?

สาริศาก็ยิ่งตกใจ ยังไม่ทันตั้งตัว ธนพัตฉับพลันก็ควบคุมรถเข็นของตัวเองเลื่อนไปยังห้องโถง

แต่แล้ว สาริศาที่ถูกเขาจูงอยู่นั้น ก็ถูกเขาพาไปยังตรงกลางของห้องโถง

“ธนพัต?” สาริศาตกตะลึงไปหมด “นี่คุณจะทำอะไรเหรอ”

“เต้นรำ” ธนพัตยามปกติที่หว่างคิ้วจะเย็นชาเสมอ แต่เวลานี้กลับมีรอยยิ้มจาง ๆ แฝงอยู่ในนั้น “คุณบอกว่าเมื่อก่อนได้ทำการฝึกเต้นมาโดยเฉพาะไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ยังเต้นเป็นอยู่ไหม”

สาริศาถึงได้รู้สึกตัว นี่ธนพัตจะเต้นรำกับตัวเองจริงหรือ

ใบหน้าของเธอจึงแดงก่ำในฉับพลัน

“ฉัน…ฉันก็พูดไปอย่างนั้นเอง ฉัน…เต้นยังไม่ตรงจังหวะด้วยซ้ำ”

มุมปากธนพัตก็ยิ่งยกเป็นเส้นโค้งขึ้น “เหรอ อย่างนั้นก็ยิ่งดีเลย”

สาริศาชะงัก ยังไม่ทันได้ถามว่า “อะไรคือยิ่งดี” ก็ถูกธนพัตจูงมือของเธอ แล้วออกแรงทันที

ทันใดนั้น สาริศาที่ยืนไม่มั่นคง ก็เซล้มลงไปในอ้อมกอดของธนพัต

“ธนพัต นี่คุณ…” เธอลนลาน อยากจะลุกยืนขึ้น แต่ธนพัตได้ใช้มือล็อกเอวของเธอไว้ และไม่เธอขยับเขยื้อนได้

“อย่าขยับ” ธนพัตก้มหน้ามองเธอ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พวกเรากำลังจะเต้นรำ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ