หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 82

ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาล สาริศาก็อาบน้ำ จนในที่สุดก็รู้สึกว่ากลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลได้หายไปแล้ว

เมื่อนอนบนเตียง เธอรู้สึกง่วงมากขึ้นมาทันที

เธอไม่ชอบโรงพยาบาล ดังนั้นสองสามคืนที่อยู่โรงพยาบาล จึงนอนไม่ค่อยหลับ ตอนนี้ในที่สุดก็ได้กลับมาแล้ว

เธอพลิกตัวไปเรื่อยเปื่อย ตัวเองก็ไม่ทันได้สังเกต ว่าเธอกำลังนอนครึ่งเตียงด้านขวาฝั่งของธนพัตแล้ว

ศีรษะจมลงในหมอนนุ่ม ทันใดนั้นสาริศาก็ได้กลิ่นที่เป็นของธนพัต

เป็นกลิ่นแชมพูของเขา ผสมกับกลิ่นซิการ์ สาริศาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี

จู่ๆ เธอก็เกิดความโลภเล็กน้อย ไม่อยากกลับไปยังตำแหน่งเดิมอีก อิงแอบซบหมอนของธนพัต ผล็อยหลับลึกไป

ในตอนเย็น ธนพัตกลับมาถึงห้อง เห็นสาริศาเหมือนลูกแมวน้อย นอนบนเตียงตรงกลางที่นอนฝั่งของตัวเอง

ตอนแรกเขาก็ชะงักไป วินาทีต่อมา ถึงได้ขดยิ้มมุมปากเล็กน้อย

เขาปิดประตู แล้วลุกขึ้นจากรถเข็นเงียบๆ และเดินไปที่เตียง

สาริศาหลับสบายมาก ไม่ได้รับรู้ถึงการเข้าใกล้ของเขาเลย

เดิมทีธนพัตอยากช่วยห่มผ้าห่มให้เธอดีๆ แต่ตอนที่ดึงผ้าห่มขึ้น สายตาตกไปยังบาดแผลบนแขนของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ที่สาริศาอาบน้ำเมื่อครู่ แม้จะหลีกเลี่ยงบาดแผลบนแขนแล้ว แต่ก็ยังถูกกระเซ็นใส่ ตอนนี้ผ้าพันแผลจึงเปียกเล็กน้อย และเพราะนอนหลับมาตลอด เธอก็เลยลืมเปลี่ยน

ธนพัตขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่พอใจ

โตขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเองเลย

เดิมทีธนพัตอยากเรียกสาริศาให้ลุกขึ้น ให้เธอเปลี่ยนยา แต่เห็นสาริศาหลับสนิทขนาดนั้น ถึงขั้นอ้าปากหวอจนน้ำลายไหลใส่หมอนของเขา ทันใดนั้นเขาก็ค่อนข้างทนไม่ไหว

เขาถอนหายใจ แล้วหยิบยาของสาริศาที่เอากลับมาจากโรงพยาบาลซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างๆ มาวางบนเตียง จากนั้นจึงแกะผ้าพันแผลให้สาริศาอย่างระมัดระวัง

สาริศาซึ่งเดิมทีกำลังนอนหลับ รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่ามีใครบางคนเหมือนจะขยับผ้าพันแผลที่ตัวเองพันอยู่ ตอนแรกเธอไม่ได้สนใจ แต่บนแผล จู่ๆ เกิดความเจ็บปวด เธอถึงได้รู้สึกตัวตื่น “โอ๊ย!”

ทันทีที่เธอลืมตา ก็เห็นธนพัตนั่งอยู่ข้างเตียงตัวเอง ในมือถือสำลีก้าน และผ้าพันแผลบนแขนของเธอถูกแกะออกแล้ว เผยให้เห็นบาดแผล

“ธนพัต” เธอชะงักไปทันที “คุณกลับมาแล้วเหรอ”

“อืม” ธนพัตไม่ได้มองสาริศา เพียงแต่เอาสำลีก้านมาเช็ดบาดแผลของเธอ

และทันใดนั้น สาริศาก็ยิงฟันอย่างเจ็บปวด ตัวขดตัวงอโดยอัตโนมัติ “คุณ......คุณเบาหน่อย”

ธนพัตเลิกคิ้วและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมมือหนัก เป็นตัวคุณที่ลืมเปลี่ยนยาให้สม่ำเสมอ แผลเป็นหนองนิดหน่อย ผมต้องทำความสะอาดก่อน ถึงจะทายาได้”

สาริศาเพิ่งนึกขึ้นได้ ตอนที่ออกจากโรงพยาบาล หมอสั่งให้เธอเปลี่ยนยาวันละสองครั้ง แต่เพราะว่าเธอหลับไป ดังนั้นเมื่อกลางวันจึงไม่ได้เปลี่ยน

“ฉันลืม......” เธอพูดเสียงแผ่ว

ธนพัตเหลือบมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ แล้วเพิ่มกำลังที่มือเหมือนเป็นการลงโทษ “เรื่องสำคัญขนาดนี้ยังลืมได้ ควรให้คุณอยู่โรงพยาบาลถึงจะปลอดภัยกว่าใช่ไหม”

“ดูแผลน่ะเหรอ” สาริศาอึ้งไปทันที บาดแผลนี้อยู่ในตำแหน่งที่อ่อนไหวมาก เธอจะดูได้ยังไง จึงรีบละล่ำละลัก “ไม่ ไม่——อ๊า!”

เธอกำลังพูดปฏิเสธ แต่แล้วจู่ๆ ความเจ็บปวดหนักบนบาดแผลก็ส่งผ่านมากะทันหัน คำพูดของเธอจึงกลายเป็นเสียงกรีดร้องไปทันใด

“ส่วนที่สกปรก ในที่สุดก็ทำความสะอาดแล้ว” เมื่อเทียบกับสาริศาที่หน้าซีดด้วยความเจ็บปวด ธนพัตยังคงสีหน้าบางเบา โยนสำลีก้านลงในกระดาษทิชชู

สาริศานิ่งไปครู่หนึ่ง เห็นสำลีก้านมีสะเก็ดเลือดเป็นหนองก้อนใหญ่ ถึงได้เพิ่งเข้าใจ

เมื่อครู่ที่ธนพัตพูดเรื่องบาดแผลของตัวเอง เพียงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ เพราะเขาต้องการทำความสะอาดเลือดก้อนใหญ่ให้เธอ

“ทายาอีกหน่อย ก็เสร็จแล้ว” มองสีหน้าซีดเซียวของสาริศา น้ำเสียงของธนพัตอดไม่ได้ที่จะอ่อนลง เอาสำลีก้านอันใหม่มาเช็ดให้เธอ “ทนอีกหน่อยนะ”

“อืม ฉันรู้แล้ว แต่......คุณเบาหน่อย อ๊ะ......อ๊ะ......ไม่ใช่ตรงนี้ เบาหน่อย......”

ในห้อง สาริศากำลังอดทนให้ธนพัตที่ทายาให้ตัวเอง ไม่รู้เลยว่าป้าแหวนอยู่หน้าประตู และฟังมาตั้งนานแล้ว

ป้าแหวนขึ้นมกะว่าาเรียกสาริศากับธนพัตลงไปทานอาหาร แต่คิดไม่ถึงว่า ทันทีที่มาถึงหน้าประตู จะได้ยินเสียงสาริศากรีดร้อง ยังมีคำอะไรอย่างเช่น “ไม่” “เบาหน่อย”

ป้าแหวนผู้น่าเห็นใจ เธอคิดอกุศลไปแล้วจริงๆ

แต่เธอดีใจมากกว่า ทันใดนั้นก็ไม่สนที่จะเรียกพวกสาริศาลงไปทานอาหารแล้ว เพียงแต่ลงไปชั้นล่างด้วยความตื่นเต้น

“ยายแก่ คุณชายกับคุณนายน้อยล่ะ” ลุงชัยที่อยู่ชั้นล่าง เห็นป้าแหวนลงมาข้างล่างคนเดียว จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “รีบมาทานข้าว อาหารจะเย็นหมดแล้ว”

“ทานข้าวอะไรล่ะ” ป้าแหวนเดินเข้ามา หน้าตาเปล่งปลั่ง “พวกเขากำลังยุ่งอยู่ในห้อง แกอย่าไปรบกวนพวกเขาเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ