ธีภพจับมือสาริศาอย่างแข็งทื่อ “คุณหมายถึงอะไร”
“ตอนนั้น ทุนการศึกษาพวกนั้น และโอกาสในการได้งาน ล้วนเป็นคุณที่คอยแอบช่วยเหลือฉันสินะ” เธอพูดเสียงเบา เห็นธีภพแววตาสั่นไหว ยิ่งรู้ว่าการคาดเดาของตนนั้นไม่ผิด “ฉันรู้สึกขอบคุณคุณจริงๆ แม้ตอนนั้นคุณไม่เชื่อใจฉัน แถมยังหลอกฉัน แต่ถ้าไม่มีคุณ ฉันเกรงว่าแม้แต่การจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยก็ยังเป็นเรื่องยากลำบาก”
ถ้าไม่จบมหาวิทยาลัย เธอก็ไม่แม้แต่จะได้โอกาสในงานที่มั่นคงอย่างสำนักพิมพ์แมกกาซีนในตอนนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรักษาแม่เลย
ดังนั้น เธอจึงรู้สึกขอบคุณธีภพจริงๆ
“นี่คุณหมายความว่ายังไง” สีหน้าของธีภพซีดลงเล็กน้อย “คุณจะบอกว่า วันนั้นที่คุณช่วยผม เพียงเพราะผมเคยช่วยคุณเหรอ”
การแสดงออกของธีภพ ทำให้สาริศาเจ็บแปลกเล็กน้อย
อันที่จริง เธอรู้ว่าที่เธอช่วยเขา แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เหตุผลนี้
ระหว่างช่วงเวลาฉุกละหุก เธอไปช่วยเขา ทั้งหมดแค่เพราะสัญชาตญาณ ถึงขั้นไม่ทันได้คิดอะไร
เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนที่เธอเคยรักที่สุด เป็นไปได้อย่างไรที่บอกว่าลืมก็ลืมได้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะนิ่งดูดายเมื่อเขาตกอยู่ในอันตราย
แต่สิ่งเหล่านี้ ธีภพไม่จำเป็นต้องรู้
การคิดคำนึงเช่นนี้ เธอไม่ได้เปิดเผยปฏิกิริยาในใจใดๆ ออกมา ภายนอกมีเพียงความสงบ “ใช่”
ธีภพหน้าซีดโดยสมบูรณ์ในที่สุด แต่แววตาลึกๆ แล้วก็ยังมีร่องรอยของการไม่เต็มใจยอมรับ ออกแรงจับสาริศาหนักหน่วงขึ้น “สาริศา ผมไม่เชื่อ! ผมไม่เชื่อว่าคุณจะไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้ว!”
สาริศาเจ็บที่ถูกเขาจับ ในที่สุดก็ตวาดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “ธีภพ! คุณมีสิทธิ์อะไรมาตั้งคำถามฉันแบบนี้!”
ธีภพถูกเธอตวาดใส่จนอึ้งไป ในที่สุดก็ปล่อยมือ
ใช่ เขามีสิทธิ์อะไร
เมื่อก่อนเขาก็ดูถูกสาริศาแบบนี้ ตอนนี้มีสิทธิ์อะไรมาขอให้เธอยกโทษให้เขาและยอมรับว่าชอบเขากันล่ะ
สาริศาลูบข้อมือที่ถูกบีบจนเจ็บ และพูดเสียงเย็นชา “ธีภพ คุณควรจำได้ ฉันเคยบอกคุณ ต่อให้มีวันหนึ่ง คุณพบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นคุณที่เข้าใจผิดไปเอง แล้วมาขอโทษฉัน ฉันก็จะไม่ยกโทษให้คุณ”
ธีภพตัวสั่น นึกขึ้นได้ทันที ก่อนหน้านี้มีครั้งหนึ่งเขาดูถูกสาริศาอย่างโหดร้าย เธอเคยพูดประโยคนี้เอาไว้จริงๆ
“ขอโทษ ริศา ผม——” เขาอยากขอโทษอย่างจริงใจ แต่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกสาริศาขัดจังหวะอย่างเย็นชาเสียก่อน
“ไม่ต้องขอโทษฉัน เพราะฉัน จะไม่ยกโทษให้คุณ” เธอเลื่อนสายตาขึ้นมองตรงไปยังธีภพ “ไม่ว่าตอนคบกันคุณจะหลอกฉันเรื่องตัวตนของคุณ หรือที่คุณจากฉันไปเมื่อสองปีก่อนเพราะไม่ไว้ใจฉัน หรือที่ปัจจุบันนี้คุณดูถูกฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันก็จะไม่มีทางยกโทษให้คุณ”
เธอพูดคำนี้ เป็นการพูดอย่างจริงจัง
เธอทนดูธีภพเจ็บปวดไม่ได้ ที่จริงเธอก็รู้สึกว่าตัวเองเคยติดหนี้เขา แต่ทั้งหมดนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ กับความจริงที่ว่าธีภพทำให้เธอเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำร้ายเธอขนาดนี้ เธอไม่สามารถอภัยให้ได้ ยิ่งไม่อยากมีการติดต่อกับเขาอีกเลย
เธอแค่หวังว่า จากนี้เขาจะอยู่ห่างจากตัวเองยิ่งไกลยิ่งดี
ทันทีที่ธีภพได้ยินคำพูดของสาริศา สีหน้าก็ซีดเผือดไปในทันใด ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
สาริศาไม่มองเขาอีก ออกไปจากห้องทำงานด้วยความรวดเร็ว
……
ใจกลางเมือง ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด
ชญาภาก้าวเดินอย่างรวดเร็วผ่านร้านค้าแบรนด์ดังราคาแพง มือกำกระเป๋า ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ไรยาไม่ค่อยเข้าใจแรงจูงใจของชญาภา แต่ก็ยังพยักหน้าให้
“บางทีอาจรีบร้อนไปหน่อยที่จู่ๆ มาพูดคุยกับคุณแบบนี้ แต่สาเหตุหลัก......เป็นเพราะมีเรื่องน่ะค่ะ ฉันมองไม่เห็นทางแล้วจริงๆ ดังนั้นถึงได้คิดมาบอกคุณ” ชญาภาพูดอย่างมีลับลมคมนัย
ไรยาขมวดคิ้ว “เรื่องอะไรคะ”
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สาริศากับหัวหน้ากองบก.ธีภพค่ะ”
สีหน้าของไรยาเปลี่ยนไปทันใด
เธอกวาดตามองชญาภาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดกับพวกผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ทันที “พวกคุณไปรอฉันที่ร้านกาแฟก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาพวกคุณทีหลัง”
ผู้หญิงพวกนั้นเป็นลูกสมุนของไรยา ไม่มีทางกล้าต่อต้าน จึงพยักหน้าและจากไป
ทันทีที่พวกเธอเดินไป ไรยาถึงได้มีสีหน้าเย็นชามองชญาภา “พูดมา คุณอยากพูดอะไรกันแน่”
……
สาริศามึนเบลออดทนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน เดินไปสถานีรถไฟใต้ดิน แทบจะทำไปโดยเป็นสัญชาตญาณ เธอขึ้นรถไฟใต้ดินกลับคฤหาสน์ตระกูลกีรติเมธานนท์ แต่นั่งไปได้ครึ่งทาง เธอถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองจะกลับบ้านแม่ จึงรีบลงไปเปลี่ยนขบวนใหม่ นั่งไปยังโรงพยาบาล
กระทั่งพาแม่กลับถึงบ้าน เธอทำความสะอาดบ้านด้วยมือที่งุ่มง่ามของตัวเอง ลงไปชั้นล่างซื้ออาหารเบาๆ ไม่กี่อย่าง เมื่อทุกอย่างจบลง ก็สามทุ่มกว่าแล้ว ทันใดนั้นเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ เหมือนว่าตัวเองยังไม่ได้บอกธนพัตว่าตนกลับบ้านแม่
แม้ไม่แน่ใจว่าธนพัตจะใส่ใจเรื่องที่อยู่ของตัวเองหรือไม่ แต่ตามมารยาท เธอยังส่งข้อความไปให้เขา
หลังจากส่งไปบอกแล้ว สาริศาถึงได้รีบขึ้นไปช่วยแม่ให้ทานอาหาร
เธอไม่รู้เลย ว่าข้อความที่ตัวเองส่งไป ชายหนุ่มที่อยู่อีกฝั่งของมือถือกำลังประชุมอยู่ แล้วสีหน้าก็บึ้งตึงอย่างถึงที่สุดในฉับพลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...