หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 93

สาริศานึกไม่ถึงเลยว่า ธีภพจะถามออกมาตรง ๆ อย่างนี้ จึงตกตะลึงไปก่อนแป๊บนึง จากนั้นก็ขมวดคิ้วออกมา “ขอโทษนะคะ บ.ก. ฉันไม่อยากตอบคำถามที่ไม่เกี่ยวกับงาน”

พูดไปแล้วเธอก็ได้ผันร่างเตรียมจะเดินออกไป แต่ธีภพรีบเดินเข้ามาหาเธอ มือข้างหนึ่งได้จับข้อมือเธอเอาไว้

“ผมไม่ได้ถามคำถามนี้กับคุณฐานะที่เป็นบ.ก.” เสียงของธีภพรีบร้อนออกมา “ผมกำลังถามคุณในฐานะที่เป็นคนรักเก่าของคุณ ไม่ก็...ในฐานะเพื่อนคนปัจจุบันของคุณ”

เมื่อวานทั้งคืน เขาไม่ได้กลับบ้านเลย เอาแต่คิดเรื่องสาริศาอยู่ตลอด

เขาค้นพบว่าสิ่งที่ตนแคร์ที่สุด อันที่จริงแล้วก็คือการแต่งงานของสาริศากับธนพัตต่างหาก

เมื่อก่อนเขามักจะคิดว่าสาริศาแต่งงานกับธนพัต ก็เพื่อเงินของธนพัตเท่านั้น แต่ตอนนี้ เขากลับต้องพิจารณาดูใหม่อีกครั้ง

ถ้าไม่ได้เพื่อเงินแล้ว งั้นสาริศาแต่งงานกับธนพัต ก็จะมีเพียงสองเหตุผลเท่านั้น

เหตุผลแรกเป็นเพราะความรัก สองเป็นเพราะว่าถูกบีบจนไม่มีทางเลือก

ธีภพนั้นไม่ว่าจะยังไงก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างแรกเลย ถึงแม้ว่าเป็นเวลาสองปีเต็ม ๆ เข้าไปแล้ว แต่ก็เหมือนกับที่เขาไม่เคยปล่อยวางจากสาริศาไปเลย เขาไม่เชื่อว่าสาริศาจะปล่อยวางตนไปง่าย ๆ อย่างนั้น

ดังนั้นแล้ว เขาเลือกที่จะเชื่ออย่างหลังไปเสียมากกว่า

เขาก็เลยตั้งใจให้คนไปสืบเรื่องการแต่งงานของสาริศากับธนพัตอีกครั้ง พอสืบดูแล้ว เขาจึงได้รู้ว่าหนึ่งเดือนก่อนหน้าที่สาริศาจะแต่งงานกับธนพัต ได้มีการนัดบอดกับผู้ชายไปนับไม่ถ้วน

ผู้ชายพวกนั้น สถานะแย่เสียจนเขาไม่กล้าที่จะเชื่อเลยด้วยซ้ำ จุดที่เหมือนกันเพียงอย่างเดียว ก็คือต่างก็มีทะเบียนบ้านของเมืองSทั้งนั้น แล้วนึกโยงไปถึงเรื่องแม่ที่กำลังป่วยหนักของสาริศาไปอีก เขาก็เหมือนกับว่าจะเข้าใจอะไรขึ้นมา

ดังนั้นแล้ว วันนี้เขาถึงได้ถามสาริศาออกไป เขาต้องการคำตอบนึง ต้องการหาคำตอบที่เขายินดียอมรับเพื่อความรักที่ได้ขาดสะบั้นไปอย่างไม่อาจจะอธิบายออกมาได้เมื่อสองปีก่อนของพวกเขา

สาริศาที่อยู่ภายใต้การถามซักไซ้ของธีภพ สีหน้าก็ขาวซีดออกมาเล็กน้อย แต่ยังคงเอ่ยเสียงเย็นออกไป “ธีภพ คุณอย่าลืม ธนพัตเป็นอาเล็กของคุณ คุณมาถามความสัมพันธ์ของญาติผู้ใหญ่อย่างนี้ ไม่คิดว่าตัวเองยุ่งมากไปเหรอ?”

ธีภพนึกไม่ถึงว่าสาริศาจะใช้สถานะญาติผู้ใหญ่มากดดันตน จึงกัดฟันกรอดออกมา “สาริศา คุณไม่กล้าตอบคำถามนี้ของผมงั้นเหรอ? เป็นเพราะว่าคุณไม่ได้รักธนพัตเลยถูกมั้ย? คุณแต่งงานกับเขา ก็เพียงแค่เพื่อทะเบียนบ้านเมืองSเท่านั้นล่ะมั้งใช่มั้ย?”

สาริศานึกไม่ถึงว่าธีภพสืบได้ถึงขั้นนี้แล้ว สีหน้าจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

จับการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าที่อ่อนลงของสาริศามาได้ ธีภพจึงรู้ว่าตนไม่ได้คาดเดาผิดไป ภายในใจจึงมีอะไรบางอย่างเต้นรัวขึ้นมาทันที

เขาใช้แรงจับไหล่ของสาริศาเอาไว้แน่นกว่าเดิม ไล่ถามต่อออกไป “สาริศา ผมพูดถูกใช่มั้ย? คุณไม่ได้รักธนพัตเลยถูกมั้ย? คิด ๆ ไปแล้วมันก็ใช่ ผู้ชายเย็นชาอย่างเขา แล้วยังพิการอีก คุณจะไปชอบเขาได้ยังไง!”

ตัวธีภพไม่รู้เลยว่าทำไมถึงได้แคร์เรื่องความสัมพันธ์ของสาริศากับธนพัตขนาดนั้น

เพียงแต่พอนึกถึงว่าทุก ๆ คืนสาริศาต้องนอนอยู่ข้างกายธนพัต นึกไปถึงว่าบางทีธนพัตอาจจะได้รู้จักสาริศาในอีกแบบหนึ่งที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว เขาก็รู้สึกว่าภายในอกของเขาเหมือนกับมีกองเพลิงกำลังแผดเผาอยู่!

เขาก็เลยอยากจะดูถูกธนพัตไปอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ถึงยังไงผู้ชายคนนั้นก็เย็นชาถึงขนาดที่หยิ่งผยองเลย เหมือนกับมีเพียงแค่ขาทั้งสองข้างที่พิการไปคู่หนึ่งเท่านั้น แล้วก็นิสัยที่เฉยเมยมากจนเกินไปนั้นอีก ที่สามารถกลายเป็นเค้าความที่เขาสามารถสบประมาทไปได้

เดิมทีสาริศาไม่คิดจะตอบคำถามธีภพไป แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินธีภพสบประมาทธนพัตออกมา ไฟโกรธของเธอก็ได้ปะทุขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“ธีภพ คุณพูดพอแล้วหรือยัง!” เธอใช้แรงสุดแรงเกิดเพื่อสลัดธีภพออกไป สีหน้าเยือกเย็นออกมา “คุณมีสิทธิ์อะไรไปรังเกียจธนพัต? คุณมีตรงไหนที่เทียบเขาได้บ้าง? คุณสุดยอดกว่าเขา หรือว่าไว้วางใจฉันมากกว่าเขา? ฉันขอบอกคุณเอาไว้เลยว่า ไม่ว่าทำไมฉันถึงแต่งงานกับธนพัต ฉันก็ไม่เคยรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเลย!”

ธีภพนึกไม่ถึงเลยว่าสาริศาที่มีนิสัยเฉยชามาโดยตลอดจะพูดคำพูดที่รุนแรงอย่างนี้ออกมาได้

เขาตกตะลึงออกมาก่อน แต่เพียงไม่นานเขาก็มองสาริศาที่แสดงใบหน้าโกรธเกรี้ยวอยู่ที่ตรงหน้า สีหน้าซีดลงไปเรื่อย ๆ

สาริศาโกรธขนาดนี้ เป็นเพราะธนพัตงั้นเหรอ?

สาริศารู้สึกเพียงแค่ว่าจำนวนข้อมูลในคำพูดนี้ของธีภพมันมากเกินไป จึงพูดไม่ออกไปชั่วขณะนึง

เห็นเธอเป็นอย่างนี้แล้ว ธีภพเองก็ได้สงบลงไปบ้าง ปล่อยเธอไป บนใบหน้าได้เผยสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย

คดีลักพาตัวเมื่อสิบปีก่อนนั้นของธนพัต เป็นเรื่องต้องห้ามของตระกูลกีรติเมธานนท์ ข่าวเมื่อตอนนั้นแทบจะปิดกั้นเอาไว้ทั้งหมด คนตระกูลกีรติเมธานนท์ของพวกเขาเองก็จะไม่พูดถึงกันขึ้นมา

แต่ว่าตอนนี้นึกไม่ถึงว่าเพราะความอิจฉา เขาจึงพูดมันออกไป

แต่ไม่ว่ายังไง มันก็สามารถทำให้สาริศามองออกได้ชัดเจนว่าธนพัตเป็นผู้ชายแบบไหน มันก็ถือว่าไม่เลวเลย

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เขามองสาริศา สงบลงไปบ้างแล้ว “ริศา ไม่ว่าพวกเราทั้งสองคนสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณถูกธนพัตหลอกเอา”

สาริศาไม่ได้ยินเลยว่าธีภพได้พูดอะไรออกมาอีก ประจวบเข้ากับที่ตอนนี้ทุก ๆ คนจากสำนักพิมพ์ก็ได้ทยอยกันเข้ามาเตรียมการประชุมกันแล้ว

ทุกคนเห็นว่าภายในห้องประชุมมีเพียงแค่ธนพัตกับสาริศา ก็ได้ตกตะลึงกันขึ้นมา แต่เพียงไม่นานก็ได้เปลี่ยนมาเป็นสายตาอยากรู้อยากเห็นออกมา จากนั้นก็ต่างคนต่างนั่งลงไปตรงที่นั่งของตัวเอง

สาริศาได้ลุกขึ้นไปนั่งบนที่นั่งของตัวเองทันทีเช่นกัน เพียงแต่ว่าตลอดทั้งการประชุม เธอก็เอาแต่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปตลอด เอาแต่นึกถึงคำพูดเมื่อกี้นี้ของธีภพอยู่ตลอด

เธอนึกไม่ถึงเลยสักนิดเดียวว่าหลายวันนี้ตนได้อึดอัดใจมาตั้งนาน เป็นอยู่นานมาก นึกไม่ถึงว่าเพียงแค่เพื่อผู้หญิงที่ไปตายไปแล้ว?

อีกทั้ง...หญิงสาวคนสวยที่ชื่อว่าพชิราคนนั้น ได้ถูกธนพัตทำร้ายจนตายไปจริง ๆ เหรอ?

สาริศาไม่กล้าคิดต่อไปเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ