หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 94

ไม่ง่ายเลยกว่าจะฝืนทนมาจนจบการประชุมได้ กลับมาที่ห้องทำงาน สาริศาลังเลอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เลือกที่จะถือโอกาสตอนพักกลางวัน มาที่โต๊ะทำงานของพี่จ๊าจ๋าที่อยู่ข้าง ๆ

“พี่จ๊าจ๋า” เธอเอ่ยพูดออกไป “ฉันถามพี่เรื่องนึงได้หรือเปล่า?”

พี่จ๊าจ๋าเป็นนักข่าวอาวุโสที่อยู่มาเป็นสิบปีแล้ว เมื่อก่อนก็ได้ทำงานอยู่ที่บริษัทผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์มาตลอด ต่อมาได้คิดว่าข่าวมันเหนื่อยไป จึงได้มาเป็นบรรณาธิการสัมภาษณ์พิเศษที่สำนักพิมพ์นิตยสารของพวกเขา

“เรื่องอะไร?” ความสัมพันธ์ของพี่จ๊าจ๋ากับสาริศาไม่เลวเลย จึงได้เอ่ยถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา

สาริศากัดริมฝีปากออกมาเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ยพูดออกไป “ฉันอยากถามพี่เรื่องเคสที่คุณชายรองตระกูลกีรติเมธานนท์ถูกลักพาตัวเมื่อสิบปีก่อน”

พี่จ๊าจ๋าเห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าสาริศาจะถามเรื่องนี้ จึงตกตะลึงออกมาก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เผยสีหน้าตื่นตระหนกออกมาเล็กน้อย “สาริศา เธอถามเรื่องนี้ไปทำไม?”

อันที่จริงสาริศาเองก็ทำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ ถึงได้มาถามพี่จ๊าจ๋า

เพราะถึงยังไงเรื่องเมื่อสิบปีก่อน เธอรู้ว่านอกจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ของตระกูลกีรติเมธานนท์แล้ว คนที่จะรู้เรื่องคดีลักพาตัวเรื่องนั้น ก็มีเพียงแค่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้กับนักข่าวที่ได้เคยลองขุดคุ้ยความจริงเมื่อตอนนั้นเท่านั้น

เธอก็เลยอยากจะลองเสี่ยงดวงดู จึงมาถามพี่จ๊าจ๋าที่มีวัยวุฒิมากที่สุดดูสักหน่อย

“ฉัน...” สาริศากัดฟันเอ่ยออกไป “ฉันก็แค่อยากรู้”

“ถ้าอยากรู้ล่ะก็ เธออย่าถามเลยดีกว่า” พี่จ๊าจ๋าเผยสีหน้าจริงจังออกมา “เรื่องของตระกูลกีรติเมธานนท์ ไม่ใช่เรื่องที่ประชาชนตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเราจะมาสอดรู้สอดเห็นได้”

พูดไปแล้วพี่จ๊าจ๋าก็จะทำงานต่อ แต่ท่าทีอย่างนี้ของเธอได้ทำให้สาริศายิ่งอยากรู้เข้าไปอีก

พี่จ๊าจ๋าจะต้องรู้อะไรแน่ ๆ

“พี่จ๊าจ๋า” เธอรีบดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วนั่งลงไป “ฉันจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้จริง ๆ ค่ะ สาเหตุที่แน่นอนฉันพูดออกไปไม่ได้ แต่ฉันอยากรู้จริง ๆ ค่ะ”

ในเวลานี้ คนในสำนักพิมพ์ต่างก็ไปกินมื้อเที่ยงกันทั้งนั้น ที่ออฟฟิศเหลือเพียงแค่พี่จ๊าจ๋ากับสาริศา

พี่จ๊าจ๋าเงยหน้าขึ้นมา มองสาริศาไปแวบนึงด้วยความหมายลึกซึ้ง ได้เอ่ยพูดออกมาทันที “ริศา เธออยากให้พี่บอกเธอมันก็ได้ แต่เธอต้องพูดความจริงกับพี่ เธอถามเรื่องพวกนี้ เป็นเพราะสามีของเธอใช่มั้ย?”

สาริศานึกไม่ถึงเลยสักนิดว่าพี่จ๊าจ๋าจะย้อนถามตนมาอย่างนั้น จึงได้ตะลึงไปทันที “พี่จ๊าจ๋า หรือว่าพี่...”

“ใช่ พี่รู้มาก่อนแล้ว” ทันใดนั้นพี่จ๊าจ๋าก็ถอนหายใจออกมา “สามีของเธอ ก็คือธนพัตใช่มั้ย? ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเป็นคุณชายรองของตระกูลกีรติเมธานนท์อีกด้วย เป็นตัวละครหลักในคดีการลักพาตัวเมื่อตอนนั้น”

สาริศาได้ตกใจขึ้นมาทันที

เพราะว่าเธอได้ทำตัวไม่เป็นจุดสนใจมาโดยตลอด แต่นึกไม่ถึงว่าพี่จ๊าจ๋าจะยังรู้ตัวตนที่แท้จริงของสามีเธอได้ ไม่เพียงแค่นั้น พี่จ๊าจ๋ายังรู้ถึงความสัมพันธ์ของธนพัตกับตระกูลกีรติเมธานนท์อีกด้วย?

สาริศาถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดออกไป แต่สีหน้าที่แสดงออกไปได้เป็นการยอมรับที่ดีที่สุดแล้ว

สีหน้าบนใบหน้าของพี่จ๊าจ๋ามันยิ่งหน่ายใจมากขึ้น “เธอตกใจมากว่าทำไมพี่ถึงรู้? อันที่จริงครั้งแรกหลังจากที่สัมภาษณ์ธนพัตไป พี่ก็รู้ว่าเขาเป็นคุณชายรองของตระกูลกีรติเมธานนท์ ส่วนเรื่องเธอกับธนพัต พี่เห็นแหวนไปก็สงสัยขึ้นมา จึงได้ลองถามหยั่งเชิงไป”

ตอนนี้สาริศาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถือพี่จ๊าจ๋าขึ้นมา

“ธนพัตในตอนนั้นคงจะกำลังเพิ่งจะเรียนมหา’ลัยอยู่ล่ะมั้ง แต่เดิมตระกูลกีรติเมธานนท์อยากส่งเขาไปต่างประเทศ แต่เขาเหมือนกับว่าจะตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อเด็กผู้หญิงคนนึง เด็กผู้หญิงคนนั้น ก็คือแฟนสาวเมื่อตอนนั้นของเขา ถ้าพี่จำไม่ผิดล่ะก็ เหมือนกับว่าจะชื่อ พริม หรือว่า พิช อะไรสักอย่าง...”

“พชิรา” สาริศาพูดแทรกออกไป

ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นพี่จ๊าจ๋าที่เป็นฝ่ายอึ้งไป “เธอรู้? ใช่ คงจะเป็นพชิรานี่แหละมั้ง เมื่อตอนนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก คาดว่าคงจะเป็นรักแรกกันทั้งคู่ล่ะมั้ง ถึงยังไงธนพัตก็อยู่เรียนมหาวิทยาลัยที่ในประเทศเพื่อเธอเลยนี่นา”

สาริศานึกถึงภาพพวกนั้นที่เห็นอยู่ในลิ้นชักเมื่อก่อนหน้านี้

เป็นช่วงวัยรุ่นกันจริง ๆ ทั้งสองคนยิ้มกันเสียมีความสุขขนาดนั้น คงจะรักกันมากจริง ๆ ล่ะมั้ง

บางทีอาจจะเหมือนกับเธอกับธีภพตอนนั้นเลยก็ได้

“ตอนปีหนึ่ง ธนพัตกับพชิรา จงใจสลัดการ์ดของตระกูลกีรติเมธานนท์ออกไป เพื่อไปเที่ยวกันที่เมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะถูกลักพาตัวไป”

“พวกเขา?” สาริศาตกตะลึงไป อดไม่ได้ที่จะขัดพี่จ๊าจ๋าออกไป “พี่จะบอกว่าคดีลักพาตัวเมื่อตอนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ธนพัตถูกจับไป เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ถูกจับไปด้วย?”

“ใช่” สีหน้าพี่จ๊าจ๋าจริงจังออกมา “เกี่ยวกับตรงจุดนี้ ตระกูลกีรติเมธานนท์ได้ปิดเอาไว้ทั้งหมด คนภายนอกก็เลยนึกว่ามีเพียงแค่ธนพัตถูกจับไปคนเดียว ไม่มีใครตระหนักถึงเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้นเลย”

“จากนั้นล่ะ?”

“เมื่อตอนนั้นค่าไถ่ที่คนลักพาตัวเรียกมามันสูงเสียดฟ้า แต่เพราะถึงยังไงธนพัตก็เป็นหลานชายแท้ ๆ ของท่านประเสริฐด้วยเหมือนกัน ท่านประเสริฐก็ได้ตอบรับไป แล้วจ่ายเงินค่าไถ่ไป แต่พวกโจรลักพาตัวพวกนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้าตาของตัวเองถูกพวกธนพัตเขามองเห็นเข้าหรือว่าอะไร หลังจากที่เอาเงินไป นึกไม่ถึงว่าหมายจะฆ่าตัวประกันไปด้วย จึงตรงเข้าไปขังธนพัตกับพชิราไว้ในโกดัง แล้วจุดไฟเผาไปทันที”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ