ทั้งสี่คนหามหมูป่ากลับมาที่บ้าน หยางเทานั่งลงด้วยความเหนื่อยหอบ นอกเหนือจากอาการเหนื่อยนั้นคือความตื่นเต้น ลู่จื้อถึงกับตาแดงก่ำ ขอบตารื้นเมื่อมีหมูป่าสองตัว
พวกเขาตัดสินใจว่าจะไม่เอาไปขาย ต่างเก็บเอาไว้เป็นเสบียงทั้งหมด ข่าวว่าพี่น้องบ้านหยางกับสองพี่น้องบ้านลู่หามหมูป่ากลับมาคนละตัว สร้างคลื่นลมให้หมู่บ้านเล็ก ๆ ขึ้นมาทันที
นอกจากลุงติงชุนแล้วยังมีชาวบ้านอีกหลายคนเห็นตอนที่พวกเขาหามหมูป่ากลับมา ตอนนี้แต่ละครอบครัวต่างมีความคิดไปต่าง ๆ นานา
ตอนนี้หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีงานทำเพียงแค่อาศัยหาของป่าในการเลี้ยงชีพเท่านั้น ภูเขาซิ่วสือตอนนี้ไม่ค่อยมีผักป่าให้เก็บแล้ว
อีกทั้งสัตว์ป่าก็เหลือน้อยเต็มที มันยากมากที่จะล่าไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่าให้ได้สักตัว หรือว่าพวกเขาควรจะลองดู ลองเสี่ยงดูสักตั้ง อย่างน้อย ๆ ถ้าโชคดีก็ยังสามารถเพิ่มอาหารให้กับครอบครัวได้
“ท่านพี่ พวกท่านเป็นอันใด ได้รับบาดเจ็บมาหรือไม่ แล้วพวกลูก ๆ เล่าเจ้าคะ” เสิ่นซื่อที่ได้ยินเสียงหยางเทียนกลับมาแล้วแต่ไม่เห็นเขาเดินเข้าไปในบ้าน จนนางอดสงสัยไม่ได้ถึงได้ออกมาดู ก็เห็นสามีและพี่ชายพร้อมทั้งสหายนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น ข้าง ๆ ยังมีหมูป่าตัวใหญ่อีกสองตัว
“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านพ่อกลับมาแล้วหรือขอรับ อ๊ะ หมูป่า หมูป่าล่ะ เสี่ยวไป๋เห็นหรือไม่ วันนี้เราจะได้มีเนื้อหมูป่ากินแล้ว ท่านพ่อดีที่สุด” หยางเสียนวิ่งออกมาจากหลังบ้านพร้อมกับสหายตัวน้อยเสี่ยวไป๋กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“เจ้าหลานคนนี้นี่ มีแค่พ่อของเจ้าเท่านั้นหรือที่ดีที่สุด ไม่เห็นหัวลุงอย่างข้าเลยนะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว น้องสะใภ้ขอน้ำกินสักถ้วยเถอะ” หยางเทา
“ดูสิข้ามัวแต่ตกใจ พวกท่านรอสักครู่นะเจ้าคะ” เสิ่นซื่อหมุนตัวเข้าบ้านไป
“เสียนเอ๋อร์ ไปเรียกปู่ของเจ้ามา อย่าเอะอะไปล่ะ บอกปู่ของเจ้าว่าลุงให้มาช่วยทำความสะอาดหมู”
“ขอรับท่านลุง”
“พวกเจ้าล่ะลู่คง จะทำความสะอาดเสียที่บ้านข้าหรือเอากลับไปทำที่บ้านเจ้า” หยางเทียนเอ่ยถามสหาย
“ทำที่บ้านของพวกเจ้านี่แหละ เสร็จแล้วค่อยขนไป บ้านเจ้าใกล้ลำธารด้วย จะได้สะดวกในการชะล้าง” ลู่จื้อ
“ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่พวกเราไม่ต้องแบ่งหมูกับใครน่ะ ฮ่า ฮ่า ข้าจะกินให้อิ่มหนำไปเลยวันนี้ ท่านแม่ของข้าคงดีใจมาก ไหนจะภรรยากับลูกของข้าอีก ขอบใจพวกเจ้ามากนะอาเทียน หากไม่ได้พวกเจ้าสองพี่น้องช่วยเหลือ ข้ากับพี่ใหญ่คงไม่รู้ว่าจะพาครอบครัวผ่านความยากลำบากไปได้ยังไง ที่นาของเรามีเพียงน้อยนิด ผลผลิตที่ได้ก็ยิ่งน้อยเข้าไปอีก หลังจากเสียภาษีแล้ว คงกินได้อีกแค่ไม่ถึงเดือนแล้ว” ลู่คงเอ่ยออกมาพร้อมกับน้ำตา
“เจ้าจะร้องไห้ทำไม เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ พอ ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว ไปก่อไฟ ย้ายหมูไปหลังบ้าน ตอนนี้อย่าลืมว่าเรามีมันเทศ 500 ชั่ง ไม่ทำให้เจ้าหิวตายแน่ ๆ พรุ่งนี้เราจะช่วยกันตัดไม้ซ่อมบ้านของพวกเจ้าพี่น้องก่อน ตัดไม้รอบเช้าแล้วค่อยขึ้นไปดูกับดัก อย่าห่วงเลยอาคง ต่อไปชีวิตของพวกเราจะดีขึ้น” หยางเทียน
หลังจากช่วยกันย้ายหมูไปที่ลานหลังบ้านแล้ว พวกเขาก่อไฟขึ้นสองกอง ลู่จื้อวิ่งกลับไปที่บ้านเอาหม้อขนาดใหญ่มาต้มน้ำร้อนเตรียมเอาไว้ ส่วนคนที่เหลือเริ่มเผาขนหมู
หยางไห่อุ้มหยางเสียนเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน เขาทั้งตกใจทั้งดีใจเมื่อหลานชายมาบอกว่าให้ไปช่วยทำความสะอาดหมูป่า เพราะหลานขาสั้นเดินไม่ทันปู่หยางเขา
หยางไห่จึงได้อุ้มหลานชายเดินกลับมา โดยที่หยางเสียนอุ้มเจ้าเสี่ยวไป๋อยู่ในอ้อมแขนอีกที เป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นน่ารักไม่หยอก เมื่อมาถึงก็พบว่ามีหมูป่าตัวใหญ่ถึงสองตัว
“พวกเจ้าช่างโชคดีนัก แล้วพวกเด็ก ๆ เล่าไม่ได้กลับมาพร้อมพวกเจ้ารึ อาเทา”
“พวกอาเสี้ยวไปหาของป่าอีกด้าน พวกข้าไปดูหลุมกับดัก แต่พวกข้ากับเด็ก ๆ ตกลงกันแล้วว่าพวกเราจะแยกกันขอรับ อีกไม่นานเด็ก ๆ คงลงจากเขามาแล้วท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง”
“อ่อ เช่นนั้นก็เริ่มกันเถอะเดี๋ยวจะมืดค่ำ เจ้าเด็กบ้านลู่จะได้รีบกลับบ้านด้วย วันนี้พวกเรากินให้อิ่มสักมื้อ ที่เหลือค่อยนำไปขาย”
“ท่านพ่อ พวกเราตกลงกันว่าจะไม่ขายขอรับ พวกเราจะเก็บเอาไว้เป็นเสบียง บ้านเราสองบ้านแบ่งคนละครึ่งตัว ส่วนตัวนั้นเป็นของบ้านลู่ขอรับ”
“ตกลง พ่อเห็นด้วยกับพวกเจ้า”
ในระหว่างที่พวกผู้ใหญ่วุ่นวายอยู่กับการทำความสะอาดหมู หยางเสี้ยวก็กำลังเตรียมตัวจะลงจากเขา วันนี้เขาโชคดีจริง ๆ ที่เก็บพริกฮวาเจียวได้
ชาติที่แล้วต้องสั่งซื้อทางออนไลน์ถึงจะได้กิน นอกจากพริกฮวาเจียวแล้วยังมีพริกขี้หนู พริกแดงอีกสามสี่ต้น ยังมีพริกที่แห้งคาต้นอยู่อีกมาก
หยางเสี้ยวเก็บเอาทั้งหมดลงใส่ตะกร้าด้วยความเบิกบาน หยางชิงกับหยางเชวียนเห็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองตั้งหน้าตั้งตาเก็บเจ้าลูกแดง ๆ ก็ไม่ได้ซักถามพวกเขาเพียงช่วยกันเก็บเท่านั้น
“ของพวกนี้ข้าจะนำไปทำเป็นเครื่องปรุงเอาไว้ทำอาหาร รับรองพวกเจ้าจะต้องติดใจ”หยางเสี้ยว
“ข้าจะรอกินนะ” หยางชิง
“ตะกร้าไม่พอใส่ ข้าเอาถุงผ้ามาด้วย เอาเจ้าพวกนี้ใส่ถุงผ้าเถอะ” หยางเชวียน
“ตกลง เก็บตรงนี้หมดแล้ว วันหลังพวกเราค่อยมาเก็บใหม่ ตอนนี้พวกเรารีบไปดูกับดักกันเถอะ” หยางเสี้ยว
“ตกลง ไปตรวจดูกับดักแล้วค่อยเอากลับบ้านไปให้ท่านพ่อนำไปขายในเมืองได้ราคาดีกว่าลุงฟู่กุ้ย” หยางเชวียน
“แต่ว่าไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้พวกท่านพ่อจะตัดไม้ช่วยพวกลุงลู่ซ่อมบ้านแล้วหรือ เราแค่เอาไปขายให้ลุงฟู่กุ้ยก็พอแล้ว” หยางชิง
“พรุ่งนี้ข้าอยากลองเข้าเมืองไปสักครั้ง เห็ดเยื่อไผ่ที่พวกเราตากเอาไว้แห้งดีแล้วข้าว่าจะนำส่วนบนเห็ดลองไปขายที่ร้านรับซื้อสมุนไพร คงต้องให้ท่านปู่พาไปแล้วล่ะ พวกท่านพ่อคงไปช่วยกันตัดไม้” หยางเสี้ยว
“ได้ เจ้าไปกับท่านปู่ ข้ากับอาชิงจะขึ้นไปช่วยพวกท่านพ่อตัดไม้ไผ่” หยางเชวียน
“พวกท่านอย่าลืมดูเห็ดเยื่อไผ่ล่ะ ถ้าจะให้ดีขุดหน่อไม้กลับมาให้มากหน่อย”
“ตกลง ไปเถอะรีบตรวจดูกับดักจะได้รีบกลับบ้าน”
เด็กทั้งสามคนต่างแยกย้ายไปดูกับดักของตัวเอง วันนี้หยางเสี้ยวได้ไก่ฟ้ามาเพียงสามตัวเท่านั้น ส่วนหยางเชวียนได้กระต่ายป่าสองตัว หยางชิงได้ไก่ฟ้าสองตัว
เด็กทั้งสามคนมุ่งหน้ากลับบ้าน ในระหว่างที่เดินลงจากเขาก็พบเข้ากับชาวบ้านที่กลับมาจากภูเขาซิ่วสือ แต่ละคนสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะจากที่ดูในตะกร้าของพวกเขามีผักป่าอยู่ไม่มาก
“เด็กบ้านหยาง พวกเจ้าไปเก็บผักป่าที่ไหนมาหรือ” ฮุ้ยซื่อหญิงชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยปากถามขึ้น
“พวกข้าไปที่ป่ารอบนอกเขาอู๋หลงมาขอรับท่านป้า” หยางเชวียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง