“นั่งสิ” เลอศิลป์จับมือรษิกาไว้และทำท่าให้เธอนั่งลงบนโซฟา
หลังจากเธอนั่งแล้ว เลอศิลป์ก็ก้าวเข้าไปในห้องนักบิน
รษิกาเงยหน้าขึ้นมามองดูเขาสั่งการอากาศยาน เวลาต่อมา เฮลิคอปเตอร์ก็ค่อยๆ ขึ้นไปบนฟ้า
“คุณขับเฮลิคอปเตอร์เป็นด้วยเหรอ?” เธอถามด้วยความมึนงง
เลอศิลป์หัวเราะ “บอกตามตรงนะ บนโลกนี้มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกที่ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”
รษิกาอึ้งไปพักหนึ่ง เขาพูดไม่ผิดหรอก ดูจากที่เขาเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยมาก เขามีตั้งแรงทั้งเงินในการไปทำตามความสนใจและงานอดิเรกที่เขาชอบ แย่หน่อยที่เขาไม่เคยแสดงให้เห็นเลยตอนที่เรายังแต่งงานกันอยู่
เลอศิลป์พอเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไร เขาเหลือบกลับไปมองและพูดว่า “ผมเพิ่งจะได้เรียนขับเฮลิคอปเตอร์เมื่อสองปีก่อนนี้เอง ส่วนทักษะที่เหลือของผม เอาไว้ต่อไปผมจะแสดงให้ดูนะ”
รษิกาส่งยิ้มให้เขาน้อยๆ
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นฟ้าไป เลอศิลป์ก็แนะนำว่า “ดูนอกหน้าต่างสิ”
รษิกามองออกไปเห็นพระจันทร์และดวงดาวที่ส่องแสงสว่างอยู่ต่อหน้าต่อตาเธอ ทำให้เธอรู้สึกราวกับสามารถสัมผัสมันได้แค่เอื้อมมือออกไปเท่านั้น
ขณะที่เธอมองดูดวงดาวต่างๆ บนฟ้าที่ค่อยๆ ผ่านสายตาเธอไป เธอก็ค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายและพึงพอใจ
เธอละสายตาแล้วบอกว่า “สวยจังเลยนะคะ”
เลอศิลป์ดีใจที่เธอชอบการเดินทางครั้งนี้ “คุณอยากไปดูทะเลไหม?”
รษิกาพยักหน้าไปก่อน แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ถามอย่างลังเล “ได้เหรอคะ? นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ”
แต่รษิกาก็ยังอดประหม่าไม่ได้ขณะที่ร่างกายเธอตึงเครียดขึ้น
เมื่อได้เห็นว่าเธอเริ่มตึงๆ เลอศิลป์ก็จูบที่หลังหูเธอและหัวเราะ “ตราบใดที่ผมได้อยู่ข้างคุณ ต่อให้เครื่องตกผมก็ไม่กลัวหรอก”
เธอรีบปิดปากเขาในทันใด “อย่ามาพูดไร้สาระแบบนั้นนะ! เราจะไม่ตก ลูกเรายังเด็กอยู่เลย!”
เลอศิลป์ก้มลงซุกหน้าเขาไว้ที่ซอกคอของเธอด้วยความเสียใจ “งั้นคุณจะตายไปกับผมไหมถ้าพวกเขาโตขึ้นแล้ว?”
เขาพูดทีเล่นทีจริง
รษิกาคลายมือเธอออกแล้วจ้องมองเขาด้วยความสงสัย “คุณเป็นอะไรไป? ทำไมจู่ๆ ก็ถามอะไรแบบนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...