หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 807

ทันทีที่เธอมาถึงสถาบันวิจัย เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเจตนิน

เธอควบคุมอารมณ์และรับโทรศัพท์ “คุณเจตนิน มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?”

เสียงของรษิกาทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ "ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากจะขอความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง คือมโหสถกรุ๊ปหวังว่าคุณจะสามารถรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคให้พวกเขาได้ ผมคิดว่าคุณพร้อมจะรับหน้าที่นี้ แต่คุณคิดว่ายังไงครับ?”

รษิกาตะลึงกับข้อเสนอนี้ เธอใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการตกลงด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเป็นสิ่งที่คุณและมโหสถกรุ๊ปต้องการ ฉันจึงไม่ปฏิเสธแน่นอนค่ะ”

เจตนินหัวเราะเบาๆ "ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะครับ"

หลังจากพูดคุยรายละเอียดบางอย่างแล้วทั้งคู่ก็วางสาย

หลังจากวางสาย อารมณ์ความรู้สึกก็ท่วมท้นมาที่เธออีกครั้ง

ตามที่เจตนินพูดไว้ ความช่วยเหลือของฉันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างดำรงกุลกรุ๊ปและมโหสถกรุ๊ป ตอนนี้ฉันตกลงที่จะรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคแล้ว เลอศิลป์คงจะโกรธฉันอีกครั้งเมื่อเขารู้เรื่องนี้

เมื่อตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น รษิกาจึงยุติความคิดเช่นนั้นและหัวเราะเยาะตัวเอง

เรื่องนี้ตัดสินใจกันไปหมดแล้ว และการแข่งขันระหว่างเลอศิลป์กับเจตนินก็เป็นอันยุติลง ทำไมเขาถึงจะยังมายุ่งกับฉันอีกล่ะ?

ในขณะเดียวกัน เลอศิลป์ไม่ได้กลับไปที่ฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ป แต่เขาขับรถตรงไปที่คชาเรศกรุ๊ปเพื่อพบกับจักรภพ โดยตั้งใจจะหารือเกี่ยวกับเรื่องของมโหสถกรุ๊ปนั่นเอง

จักรภพยืนขึ้นพยักหน้าทักทายเลอศิลป์เมื่อเห็นเพื่อนของเขาเดินเข้ามา “ฉันได้ยินมาว่ามโหสถกรุ๊ปเซ็นสัญญากับดำรงกุลกรุ๊ปไปเมื่อคืนนี้ แผนการของเราในการเข้าครอบครองกิจการของมโหสถกรุ๊ปก็เป็นอันล้มเหลวสินะ”

เลอศิลป์นั่งลงตรงข้ามเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม “นอกเหนือจากมโหสถกรุ๊ปแล้ว นายสนใจบริษัทยาอื่นบ้างไหม?”

พวกเขาใช้เวลามากมายในการเจรจาข้อสัญญากับมโหสถกรุ๊ป ก่อนที่จะได้รับข้อตกลงในภายหลัง

แต่จู่ๆ ดำรงกุลกรุ๊ปก็เข้ามาทำให้มโหสถกรุ๊ปผิดสัญญา

ตอนนี้มโหสถกรุ๊ปและดำรงกุลกรุ๊ปได้ตกลงร่วมมือกันอย่างเป็นทางการแล้ว โอกาสในการได้กิจการของมโหสถกรุ๊ปนั้นก็เท่ากับศูนย์

ทันใดนั้น จักรภพก็แนะนำว่า "อืม... ให้ฉันหาบริษัทอื่นมาเจรจาความร่วมมือกับดำรงกุลกรุ๊ปดีไหม? เราจะได้รู้ราคาที่มโหสถกรุ๊ปขอไป จากนั้น ถ้าเราลดราคาที่เราเสนอไปลง เราอาจสามารถทำให้ดำรงกุลกรุ๊ปผิดสัญญากับมโหสถกรุ๊ป ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เราเจรจาการเข้าซื้อกิจการต่อไปได้ ในความเป็นจริงเราอาจสามารถทำได้ในราคาที่ต่ำกว่านะ”

ในกรณีที่มโหสถกรุ๊ปถูกดำรงกุลกรุ๊ปทอดทิ้ง พวกเขาก็จะสามารถใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นพูดคุยได้ ยิ่งไปกว่านั้น มโหสถกรุ๊ปเป็นคนผิดสัญญาก่อน พวกเขาย่อมต้องรู้สึกติดค้างอยู่ในใจ ดังนั้นหากมีการเจรจาซื้อกิจการกันอีกครั้ง มโหสถกรุ๊ปคงจะรู้สึกกดดันจนต้องยอมแพ้อย่างแน่นอน

จักรภพยิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจในความคิดของเขาที่หากทำสำเร็จก็เท่ากับเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว