คุณปู่หวังเดินไปหาหลี่โม่อย่างตัวสั่น หวังจินชานและคนอื่น ๆ ก็เดินตามไป
“ในเมื่อเทียนเย่ คุณหลงและคุณเหวินต่างก็นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ คนแก่อย่างผมคงจะต้องนั่งเป็นคนสุดท้าย”
คุณปู่หวังรู้ดีแก่ใจ ในเมื่อชูจงเทียนและคนอื่น ๆ มาที่นี่เพื่อหลี่โม่และคิดว่าที่ที่หลี่โม่นั่งอยู่คือโต๊ะหลัก
ถ้าอย่างนั้นคุณปู่หวังจึงไม่กล้าขอนั่งที่โต๊ะหลักตามสัญชาตญาณและยอมเป็นผู้น้อยที่นั่งสุดท้าย
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นได้พบกับชูจงเทียนและอีกสองคนในโอกาสอื่น คุณปู่หวังจะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะนั่งในที่นั่งสุดท้ายด้วยซ้ำ
คุณปู่หวังดึงเก้าอี้ออกมาและนั่งลงแต่โดยดี เขามองไปที่ชูจงเทียนและอีกทั้งสองด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาต้องแสดงสีหน้าที่ดีต่อหน้าหลี่โม่ แต่คุณปู่หวังยังคงไม่สามารถระงับใบหน้านั้นไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง
ชูจงเทียนทั้งสามคนไม่ได้สนใจคุณปู่หวังเลยเพราะความสนใจพุ่งไปที่หลี่โม่หมดแล้ว
หลี่โม่รู้สึกทำตัวไม่ถูกมากที่ถูกชูจงเทียนทั้งสามคนเฝ้ามอง บวกกับความจริงที่ว่าทุกคนในตระกูลหวังต่างจ้องมองเขาโดยยืนอยู่ข้างหลังคุณปู่หวัง ซึ่งให้หลี่โม่ไม่มีอารมณ์ที่จะทานอีกแล้ว
“ผมรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย หยุนหลานและผมขอตัวกลับก่อนครับ”
หลังจากพูดจบ หลี่โม่ก็จับมือกู้หยุนหลานและยืนขึ้น จากนั้นส่งสายตาให้ทั้งสามคนแล้วเดินออกไปพร้อมกับกู้หยุนหลาน
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินออกจากห้องโถง ทุกคนในตระกูลหวังต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลี่โม่ไม่ได้สร้างความลำบากให้ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยรักษาศักดิ์ศรีให้กับตระกูลหวัง
ชูจงเทียนทั้งสามมองหน้ากัน พวกเขาได้สติทันที ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ความหมายที่หลี่โม่ส่งสายตาให้โดยสัญชาตญาณ
“คุณปู่หวังจัดการตระกูลเก่งจริง ๆ ฉันได้ยินมาว่าตระกูลหวังของคุณเป็นทายาทแห่งบทกวีและวรรณกรรม วันนี้ได้เจอสมคำร่ำลือจริง ๆ”
“ตระกูลหวังถือเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในกรุงโซลเหมือนกัน ต้องรักษารูปแบบที่ดีและไม่ทำสิ่งที่ทำลายชื่อเสียงตัวเอง”
“ลูก ๆ หลาน ๆ ยังคงต้องได้รับการสั่งสอนที่ดี ไม่อย่างนั้นถ้าออกนอกลู่นอกทางล่ะก็ คงจะไม่ดีสำหรับทั้งตระกูลหวังแน่”
“แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีตระกูลหลี่อยู่ท่ามกลางตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ เป็นไปได้ไหมว่าหลี่โม่คนนี้คือลูกนอกสมรสของคนใหญ่คนโต แต่เมื่อได้เห็นออร่าท่าทางเล่ห์เหลี่ยมของเขาแล้ว เขาต้องเป็นคนที่มีวิธีการเหนือคนทั่วไปในอนาคตอย่างแน่นอน”
แขกทุกคนต่างคาดเดาตัวตนของหลี่โม่ ถ้าหลี่โม่ไม่ออกไปเร็วกว่านี้ หลายคนคงอยากมีโอกาสดื่มอวยพรและเข้าใกล้หลี่โม่ นอกจากนี้ถ้าได้เกาะบารมีของหลี่โม่คงจะดีไม่น้อย
น่าเสียดายที่ไม่เพียงแต่หลี่โม่เท่านั้นที่จากไป แม้แต่คนใหญ่คนโตทั้งสามคนก็จากไปแล้วด้วย
เพียงแค่เห็นว่าทั้งสามคนตามจากไป ทุกคนก็เข้าใจว่าคนใหญ่คนโตทั้งสามคนนี้มาเพื่อหลี่โม่และจากไปเพราะหลี่โม่ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลหวังเลย
หากจะบอกว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน นั่นเป็นเพราะตระกูลหวังได้รับประโยชน์จากหลี่โม่
ในขณะที่ตระกูลหวังกำลังอึ้งเป็นหิน หลี่โม่และกู้หยุนหลานได้เดินออกจากลานคฤหาสน์ตระกูลหวังไปแล้ว
ไม่ไกลจากลานคฤหาสน์หวัง กู้หยุนหลานไม่สามารถระงับความสงสัยในใจของเธอได้อีกต่อไป เธอหยุดเดินแล้วมองไปที่หลี่โม่อย่างจริงจังพร้อมถามว่า “หลี่โม่ คุณบอกความจริงกับฉันมา คุณเป็นใครกันแน่คะ? ตกลงว่าเรื่องเมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...