หลี่โม่ตกตะลึง เขาพบว่ากู้หยุนหลานกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา เธอทำหน้าแก้มป่อง และทำหน้าตาเหมือนว่าต้องการจะจับผิดเขา
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเปิดบันทึกข้อความ หลี่โม่ก็รีบเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์คืนมา และพูดว่า "ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องในร้าน"
"ไม่มีอะไรเหรอ?"
กู้หยุนหลานยกมือขึ้น จ้องไปที่หลี่โม่ และถามว่า "ถ้าไม่มีอะไร แล้วทำไมคุณดูกังวลนักล่ะ?"
หลี่โม่จะไม่กังวลได้อย่างไร ถ้ากู้หยุนหลานเห็นข้อความระหว่างเขากับหรงปินและเหล่าเฉียน มันก็จะชัดเจนทุกอย่างแล้ว
"ไม่มีอะไรจริง ๆ มันเป็นเรื่องในร้าน ที่ร้านกำลังจะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำ และพวกเขาแค่ถามผมว่าจะไปไหม"
หลี่โม่อธิบายสั้น ๆ เขาแค่ต้องการโทรศัพท์คืนจากกู้หยุนหลาน
หน้าอกที่แข็งแรงของเขาอยู่ตรงหน้ากู้หยุนหลาน ทำให้คนข้างหลังหน้าแดงก่ำ
“อย่าขยับ!”
กู้หยุนหลานถอยหลังไปสองก้าว และทำท่าทางเย็นชา
หลี่โม่กลัวมาก เขายืนอยู่กับที่ไม่ขยับ และจ้องมองที่โทรศัพท์ในมือของกู้หยุนหลานอย่างวิตกกังวล
“งานเลี้ยงเหรอ? งั้นฉันขอดูหน่อยว่า คุณแบ่งกันจ่ายคนละเท่าไหร่”
กู้หยุนหลานพูดพลางทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เธอกำลังจะเปิดบันทึกข้อความของหลี่โม่
และในกาสนทนาครั้งนี หวังฟางก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา เธอจ้องไปที่หลี่โม่ แล้วพูดว่า "หยุนหลาน แกมาทำอะไรตรงนี้? ยังไม่รีบไปกับเทียนไห่อีก ออกไปทานมื้อเย็นฉลองกันเถอะ"
“เอ่อ หนูจะรีบไปค่ะ”
กู้หยุนหลานตอบ และส่งโทรศัพท์คืนให้กับหลี่โม่อย่างไม่เต็มใจ แล้วพูดว่า "ฉันจะเชื่อคุณสักครั้ง"
หลี่โม่รับโทรศัพท์มาด้วยความหวาดวิตก และถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อกู้หยุนหลานก้าวออกไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นเธอก็หันกลับมาแล้วพูดว่า "หรือว่าคุณจะออกไปทานมื้อเย็นกับเรา จะได้ไม่ต้องทำกินที่บ้าน"
“ออกไปทานมื้อเย็น?” หลี่โม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
หวังฟางที่ยังไม่ออกไปก็ต่อว่าเขาด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง และไม่พอใจ “ทำไม แกอยากจะให้ผู้มีพระคุณของเรากินอาหารแย่ ๆ ฝีมือแกหรือไง แกรู้ไหมว่ามันรสชาติแย่แค่ไหน?"
หลี่โม่ขมวดคิ้ว และพึมพำ "เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยได้ยินว่ามันรสชาติแย่นี่"
เมื่อได้ยินแบบนี้ หวังฟางก็โกรธจัด เธอชี้ไปที่หลี่โม่ทันทีและดุว่า“กล้าดีนักนะ ไอ้หลี่โม่ เดี๋ยวนี้ชักเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ แกกล้าโต้เถียงกลับแล้วเหรอ? ฉันจะสอนบทเรียนให้แกดู!"
อย่างที่รู้กัน หลี่ม่อเยาะเย้ยในใจ
รถปอร์เช่เป็นรถหรูอย่างนั้นหรือ?
เขานั่งรถโรลส์-รอยซ์ แต่เขายังไม่โอ้อวดและหยิ่งผยองขนาดนี้เลย
หลังจากขึ้นรถ กู้หยุนหลานค่อนข้างไม่แน่ใจ จึงถามไปว่า "ไปร้านไหนดีคะ?"
หวังฟางเริ่มสนใจ และพูดว่า “ไปที่ฮั่นพาเลซ แม่ได้ยินมาว่า อาหารในฮั่นพาเลซอร่อย ดังมากด้วยนะ”
กู้หยุนหลานรู้สึกอับอาย และพูดว่า "แม่คะ ฮั่นพาเลซมีเพียงสมาชิกเท่านั้นที่เข้าไปกินได้ และถ้าต้องการเข้าไปเป็นสมาชิก เราจะต้องใช้เงินอย่างน้อยสิบล้านต่อปีนะคะ"
เมื่อได้ยินแบบนี้ หวังฟางก็ตกตะลึง และพูดว่า “โอ้แม่เจ้า แพงขนาดนั้นเลยเหรอ? งั้นลืมไปเถอะ ไม่ไปแล้ว หาร้านอาหารธรรมดาเถอะมันก็คงจะไม่แย่เกินไป”
กู้เจี้ยนหมินพยักหน้า และเห็นด้วย “ใช่ มันก็ไม่แย่เกินไป เพราะทั้งหมดนี่ก็เพื่อเชิญเทียนไห่มารับประทานอาหาร ส่วนฮั่นพาเลซ เราไม่ต้องไปนึกถึงมันเลย”
แต่ทว่า
ทันใดนั้น หลี่โม่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็อ้าปากพูดว่า "ผมมีบัตรสมาชิกของฮั่นพาเลซแล้วครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...