ฉินเป่ยไม่ได้ขาดทั้งเงินและอำนาจ
สำหรับการตัดสินใจของเวินหงอินเขาไม่มีทางยอมรับแน่ เห็นเขานิ่งสงบและมุ่งมั่นเช่นนั้น เวินหงอิงถึงฉุกคิดได้ว่าตนนั้นวู่วามเกินไป ในใจก็จินตนาการว่าคนสูงส่งอย่างฉินเป่ยคงไม่แร้นแค้นเรื่องเงินอย่างแน่นอน!
สมบัติแค่เพียงเล็กน้อยตระกูลเวินนั่น ไม่มีทางอยู่ในสายตาของเขาแน่นอน
“เสี่ยวเป่ย เป็นเพราะคนแก่อย่างฉันวู่วามเกินไป แต่คุณเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉัน เป็นผู้มีพระคุณของฉันและทั้งตระกูลเวิน ต่อไปมีเรื่องใดที่ยายเฒ่าอย่างฉันช่วยได้ ท่านอย่าได้เกรงใจเด็ดขาด!”
“ท่านย่าเวิน คุณอย่าเข้าใจผิดไปนะครับ ผมเป็นคนขี้เกียจน่ะ เปิดคลินิกที่เดียวก็เหลือเฟือแล้วล่ะครับ!”
“ได้ เสี่ยวเป่ย ฉันเห็นว่าคลินิกนี้ตกแต่งได้พอประมาณแล้ว จะเปิดกิจการเมื่อไรล่ะ?”
“ไม่รู้ว่าฉันพอจะมีเกียรติดื่มเหล้ากับท่านสักจอกไหม?”
เวินหงอิงมุ่งมั่นแล้วว่าต้องดีต่อฉินเป่ย กิจการคลินิกของฉินเป่ยถือเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้ตอบแทนเขา เธอไม่อยากจะปล่อยมันไป
“ท่านย่าเวิน ถึงเวลาผมจะบอกคุณเองครับ คุณมาได้ก็ถือว่าเป็นเกียรติของผมแล้วล่ะ”
“ท่านย่าเวิน ถ้าอย่างนั้นก็ให้แม่นางซูซูลุกขึ้นก่อนเถอะ!”
แม้ว่าฉินเป่ยจะไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับเวินซูซู แต่เธอที่คุกเข่าอยู่หน้าคลินิกทั้งคน เขาคงทนไม่ได้จริง ๆ
“ได้ ฉันจะฟังท่าน!”
เวินหงอิงลุกขึ้นเดินมาข้างหน้าเวินซูซู พูดด้วยน้ำเสียงเข้ม “เจ้าหัวดื้อ ฟังย่าให้ดี เสี่ยวเป่ยเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลเวินของย่า ต่อไปต้องเคารพเขาเหมือนที่เคารพย่า!”
“ถ้ายังไม่เคารพต่อเสี่ยวเป่ย ย่าจะไล่เจ้าออกจากตระกูลเวิน ย่าพูดแล้วไม่คืนคำ!”
“ฮือ ฮือ...ท่านย่า หนูผิดไปแล้ว ต่อไปหนูไม่กล้าอีกแล้ว!”
“คุณฉิน ขอโทษด้วยนะคะ!”
เวินซูซูร้องไห้โฮ ตอนที่เธอกำลังจะคำนับฉินเป่ย ฉินเป่ยยื่นมือออกมาจับไหล่ของเธอจับเธอดึงขึ้นมา
“แม่นางซูซูไม่จำเป็นต้องคำนับหรอกครับ แค่ต่อไปคุณเลิกมองว่าผมเป็นคนชั่วช้าอีกก็พอแล้ว! อีกอย่าง เลิกยั่วโมโหท่านย่าของคุณได้แล้วนะครับ”
“ขอบคุณคำสั่งสอนของคุณฉินแต่ผิดก็คือผิด ฉันหวังว่าคุณฉินจะให้โอกาสฉันได้ชดเชยสักครั้ง แล้วฉันอยากเข้าคลินิกของท่านเพื่อคำนับท่านเป็นอาจารย์กับเรียนการแพทย์ จะได้ไหมคะ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เวินซูซูรู้ผิดจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพราะฉินเป่ยจะให้ยาลูกกลอนกับท่านย่าของเธอ ท่านย่าของเธอมีระดับพลังเป็นปรมาจารย์มายี่สิบกว่าปีแล้ว มาถึงวันนี้ท่านย่าของเธอก็อายุหกสิบกว่าแล้ว เดิมทีชั่วชีวิตนี้ของเธอไม่มีโอกาสได้ก้าวออกจากระดับพลังปรมาจารย์แล้ว
แต่ตอนนี้เพราะยาลูกกลอนที่ฉินเป่ยให้ เพียงค่ำคืนเดียวท่านย่าของเธอก็ออกจากการเป็นปรมาจารย์แล้ว เข้าสู่การเป็นยอดปรมาจารย์!
ตัวเวินซูซูที่อยู่ตระกูลสูงศักดิ์ อีกทั้งท่านย่าของเธอก็เลี้ยงดูให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลเวิน เธอรู้ดีว่าการเป็นผู้สืบทอดสำคัญต่อตระกูลเวินมากขนาดไหน แม้ว่าตระกูลเวินจะมั่งมีมหาศาลในเมืองหยางตูแต่ในเส้นทางจอมยุทธ์กลับคอยตามหลังจวนเจ้าเมืองมาโดยตลอด
ตอนนี้ตระกูลเวินมีท่าย่าของเธอที่เป็นยอดปรมาจารย์ ต่อไปอาจจะเทียบหน้าเทียบตาจวนเจ้าเมืองได้
ได้ยินคำพูดของเวินซูซู เวินหงอิงก็พอใจอย่างมาก!
“คุณอยากเรียนแพทย์?”
ฉินเป่ยประหลาดใจเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงว่าเวินซูซูจะมีความคิดนี้
“ใช่ คุณฉิน คุณรับฉันเป็นศิษย์ได้ไหมคะ?”
เวินซูซูท่าทางเคารพเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเธอและท่านย่าต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
ทว่าฉินเป่ยกลับปฏิเสธที่จะรับเธอเป็นศิษย์!
“แม่นางซูซูขอโทษคุณจริง ๆ นะครับ ผมไม่สามารถรับคุณเป็นศิษย์ได้หรอก เพราะว่าการแพทย์ของผมในตอนนี้เกรงว่าคุณจะเรียนไม่ได้ แต่ถ้าคุณยอมละก็ ต่อไปคุณจะมาทำงานที่คลินิกของผมก็ได้ครับ ผมจะสอนพื้นฐานการฝังเข็มให้คุณเอง”
“ขอบคุณคุณฉิน!”
เวินซูซูรู้สึกผิดหวังที่ฉินเป่ยไม่รับเธอเป็นศิษย์ แต่ไม่กล้าจะร้องขออะไรอีก รีบโค้งคำนับอย่างเคารพเป็นการแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ เวินหงอิงเองก็ขอบคุณฉินเป่ยไม่หยุด เธอเห็นว่าแค่เวินซูซูมาทำงานที่คลินิกนี้ได้ อย่างนั้นทั้งตระกูลเวินก็เป็นคนของฉินเป่ยแล้ว
วินาทีนั้นที่ฉินเป่ยรักษาโรคของเธอหายดีแล้ว เธอก็มีความคิดที่จะยกเวินซูซูให้กับฉินเป่ยแล้ว แต่เธอเองก็รู้ดีว่าฉินเป่ยไม่ได้รู้สึกอะไรกับเวินซูซูประกอบกับเวินซูซูที่ไม่มีความเคารพฉินเป่ยครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเองก็ไม่กล้าที่จะบอกต่อฉินเป่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณภรรยาเทพนักรบของผม
ต้องการอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
อยากอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
ไม่ไปต่อแล้วเหรอครับ...
บทที่ 11-14 หายไปไหนเหรอครับ...