เหลยเทียนหมิงชอบผู้หญิงแบบหยางลี่
พอหยางลี่ได้ยินที่เขาพูด ก็รู้สึกตื่นเต้นเอามาก ๆ สองวันมานี้เธอกังวลกับรอยแผลบนใบหน้าของเธอแทบตายอยู่แล้ว หากทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้เธอก็จะกลายเป็นคนอัปลักษณ์ และพอถึงตอนนั้นโจวห้าวก็จะต้องรังเกียจเธออย่างแน่นอน
เธออยู่ไม่ได้หากไม่มีโจวห้าว!
“แพทย์เซียนเหลย คุณสามารถรักษารอยแผลบนใบหน้าฉันได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ?”
“วางใจได้เลยสาวน้อย แผลจุดนี้บนใบหน้าของคุณสำหรับพวกหมอเถื่อนพวกนั้นแล้วเป็นโรคร้ายแรงที่ยากเกินกว่าจะรักษาได้ แต่สำหรับผมแล้วนั้นมันไม่ใช่เรื่องแบบนั้นเลย เพียงเข็มเดียวผมก็สามารถรักษาคุณให้หายได้แล้ว และรับประกันด้วยเลยว่าจะไม่ทิ้งรอยใด ๆ เอาไว้ทั้งสิ้น!”
“แต่ผมไม่ได้พกกระเป๋าเครื่องมือแพทย์มาด้วย และแผลบนใบหน้าของคุณก็ไม่อาจรอต่อไปได้แล้ว จะต้องฉีดยาให้คุณโดยเร็วที่สุด ดังนั้นผมแนะนำว่าให้คุณรีบตามผมมาในตอนนี้เลย!”
“ได้ค่ะได้ คุณหมอเหลย ขอบคุณคุณมาก ๆ เลยนะคะ!”
หยางลี่กังวลกับรอยแผลบนใบหน้าจนแทบตาย และไม่อาจรอต่อไปได้อีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่อาจฟังความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเหลยเทียนหมิงออกแต่อย่างใด แต่โจวเทียนเป่ยที่มาถึงข้าง ๆ กลับฟังออกอย่างชัดเจน และเขานั้นก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้โจวห้าวแต่งงานกับหยางลี่ตั้งแต่แรกอีกด้วย
เพราะว่าความสามารถของตระกูลหยางกับตระกูลโจวนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก และโจวเทียนเป่ยเองก็เคยรู้มาว่าที่โจวห้าวต้องกลายเป็นแบบนี้ในตอนนี้ ทั้งหมดก็เพราะสาเหตุมาจากหยางลี่
ในฐานะหัวหน้าของตระกูลโจว โจวเทียนเป่ยได้ผ่านผู้คนมานับไม่ถ้วน ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอกับเหลยเทียนหมิงเขาก็เข้าใจความคิดของเขาได้ในทันที ในเมื่อตอนนี้เขาสนใจในตัวหยางลี่ งั้นเขาก็จะช่วยทำให้เขาผู้นั้นได้สมดั่งใจไปตามปกติ
ดังนั้น โจวเทียนเป่ยจึงพูดกับหยางลี่ขึ้นว่า “แม่นางหยาง เธอยังไม่รีบขอบคุณแพทย์เซียนเหลยอีก เช่นนี้ เธอก็รีบตามเขาไป และจะต้องขอบคุณแพทย์เซียนเหลยอย่างแน่นอน! ”
“คุณอา วางใจได้เลยค่ะ ฉันจะทำตามนั้นเลยค่ะ”
ในไม่ช้า หยางลี่ก็ออกจากโรงพยาบาลไปกับเหลยเทียนหมิง และนั่งบนรถของโจวเทียนเป่ย
ในโรงพยาบาล หลังจากที่หยางลี่ออกไปกับเหลยเทียนหมิงได้ครู่หนึ่ง โจวห้าวก็ฟื้นขึ้นมา
“พ่อ ผม ขาผมไม่ดีขึ้นเลยเหรอ? ต่อไปนี้ผมจะต้องนั่งบนรถเข็นแล้วเหรอ?”
“ผม ผมไม่อยากนั่งบนรถเข็น ผมอยากให้ฉินเป่ยตาย ๆ ไปซะ!”
“พ่อ พ่อไปฆ่ามัน ฆ่ามันนะพ่อ!”
พอโจวห้าวฟื้นขึ้นมาก็อาละวาด เขาหวาดกลัว ไม่ใช่หวาดกลัวฉินเป่ย แต่หวาดกลัวว่าตัวเองจะต้องนั่งรถเข็นไปอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ!
โจวเทียนเป่ยมองดูลูกชายที่ไร้ประโยชน์ ความโกรธก็ระเบิดออกมาจากใจของเขา
“หุบปากซะ! ไอ้สวะ แม้แต่ฉินเป่ยคนเดียวก็จัดการไม่ได้ แกจะให้ฉันวางใจฝากตระกูลโจวไว้กับแกได้ยังไงกัน? ฮะ? ! “
เสียงตะโกนนี้ของโจวเทียนเป่ย ทำให้โจวห้าวหุบปากลงทันที
ความสามารถของเขามีไม่มากนัก แต่ความทะเยอทะยานนั้นใหญ่หลวง หากหัวหน้าในอนาคตของตระกูลโจวไม่ใช่เขา มันจะมีความหมายอะไรให้เขามีชีวิตอยู่ต่ออีก!
“พ่อ ผมรู้ว่าผิดไปแล้ว ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าไอ้สารเลวฉินเป่ยนั้นมันจะกล้าหักขาผมจริง ๆ และยิ่งคิดไม่ถึงด้วยว่ามันจะมีความสามารถในการต่อสู้ขนาดนี้ พ่อ ตระกูลโจวของเรายังมีบอดี้การ์ดที่เก่ง ๆ กว่านี้ไม่ใช่เหรอ? พ่อให้บอดี้การ์ดไปแก้แค้นแทนผมไม่ได้หรือไง?”
“ใช่แล้ว วันนี้เป็นเวลาที่กำหนดไว้วันสุดท้ายที่ไอ้หนุ่มฉินเป่ยนั้นให้มา”
“เวลาที่กำหนดอะไรกัน?”
โจวเทียนเป่ยถาม โจวห้าวไม่กล้าปิดบังจึงรีบบอกข้อเรียกร้องของฉินเป่ยออกมาทันที
“เหอะ ๆ เจ้าเด็กโง่เขลา คิดว่าตระกูลโจวของฉันรังแกได้ง่ายจริง ๆ เหรอ? ช่างเป็นมดที่กล้าหาญชาญชัยจริง ๆ !”
โจวเทียนเป่ยโกรธจัด และกำลังเตรียมการที่จะไปปลิดชีพของฉินเป่ยด้วยตัวเอง แต่จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของโจวเทียนหนานน้องสองของเขาขึ้นมา จากนั้นก็เปลี่ยนมาพูดกับโจวห้าวด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งว่า “ลูกห้าว แกวางใจได้เลยแกเป็นถึงลูกชายของฉันโจวเทียนเป่ย เป็นถึงหัวหน้าในอนาคตของตระกูลโจว แค้นนี้ฉันจะชำระแทนแกเอง แต่ก็ต้องรอก่อน!”
“แพทย์เซียนเหลยที่มาจากเมืองมังกรได้เห็นขาที่เจ็บอยู่ของแกแล้ว เขารับประกันกับฉันว่าจะสามารถทำให้กลับมายืนขึ้นได้ใหม่อีกครั้ง”
“สองสามวันนี้ก็ตั้งใจพักผ่อนที่โรงพยาบาลซะ จริงสิ ยัยเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อหยางลี่ตัดออกไปจากชีวิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ซะนะ!”
พูดจบ โจวเทียนเป่ยก็หันหลังกลับไป โจวห้าวรีบเรียกเขา แล้วถามขึ้นว่า “พ่อ พ่อพูดอะไร ผมกับลี่ลี่เป็นรักแท้นะครับ ผมจะแต่งงานกับเธอ เรื่องนี้พ่อตอบตกลงแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ผมก็จะจัดงานแต่งงานกับเธอแล้ว และอารองของผมก็ยังเคยสัญญาเอาไว้กับผมด้วยว่าจะให้หงส์ปัณฑูรเทพีแห่งสงครามมาเป็นสักขีพยานในงานแต่งของผมกับลี่ลี่อีกด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณภรรยาเทพนักรบของผม
ต้องการอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
อยากอ่านต่อต้องทำยังไงคะ...
ไม่ไปต่อแล้วเหรอครับ...
บทที่ 11-14 หายไปไหนเหรอครับ...