นาตาชามองลูน่าอย่างมึนงง
หลังจากนั้นเธอก็เช็ดน้ำตาและพยักหน้า “ค่ะ ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน...”
คนเป็นแม่ควรจะรู้จักและเชื่อใจลูกสาวของตัวเองที่สุด แต่...
เมื่อเห็นว่านาตาชาร้องไห้สะอึกสะอื้นขนาดไหน แม้ว่าลูน่าจะโกรธ แต่เธอก็ทำได้แค่ถอนหายใจ
เธอส่งทิชชู่ให้นาตาชา “เช็ดน้ำตาเถอะค่ะ”
ด้านใน แม่กับลูกกำลังสารภาพความรู้สึกซาบซึ้งจากหัวใจกันอยู่ ส่วนข้างนอกแซคกับยูริต่างก็มองหน้ากัน
“ฉันง่วงนิดหน่อย” ยูริหาว แซคกลอกตาใส่เขา เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เห็นใครบางคนปรากฏตัวขึ้นที่บันไดเสียก่อน
เขาขมวดคิ้วอย่างตื่นตัว “นั่นใคร?”
หลังจากนั้น ผู้หญิงในเสื้อโค้ตตัวสีดำยาวและสวมแว่นกรอบสีดำก็เดินขึ้นมา เธอซ่อนตัวในความมืดจึงทำให้ไม่มีใครเห็นหน้าเธอได้ชัดเจน
“สวัสดี” เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินเข้ามา เธอยื่นมือถือในมือซึ่งปิดสนิทไปมา “ฉันมาหาคนรู้จักที่นี่น่ะค่ะ แต่มือถือแบตหมด ขอยืมมือถือหน่อยได้ไหมคะ จะโทรหาเขาหน่อย”
แซคขมวดคิ้วและมองเธอ เขาไม่พูดอะไร
ในขณะที่ยูริส่งมือถือให้เธออย่างมีน้ำใจ “รีบโทรนะครับ อย่าอยู่ที่นี่นาน”
“ขอบคุณค่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นรับมือถือจากยูริมาและลงมาชั้นล่าง เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าแซคกับยูริเห็นเธอแต่ไม่ได้ยินเสียงเธอ เธอก็หยุดเดิน
เธอรีบหาชื่อ [ลูกพี่นีล] ในรายชื่อและกดโทรออก
ตอนนั้นนีลยังอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บลูเบย์วิลล่าและกำลังวาดรูประบายสีกับเนลลี่อยู่
ในตอนที่โทรศัพท์ดังขึ้น เขาก็มองหน้าจอแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทำไมยูริถึงโทรหาเขาตอนนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณแม่งั้นเหรอ?
เขาขมวดคิ้วแล้วรับสาย
“นีลจ๊ะ” เสียงผู้หญิงปลายสายร้องไห้ดังออกมา “นี่คุณยายหนูนะ นาตาชา คุณแม่หนูบอกฉันทุกอย่างแล้ว มือถือของเธอแบตหมด ฉันเลยใช้มือถือบอดีการ์ดโทรมาจ้ะ หนูมาได้ไหม อย่าบอกโจชัวนะ ยายอยากเจอหนู”
นีลกำมือถือไว้และลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“ครับ รอผมหน่อย”
จากนั้นนีลก็วางสาย เขามองเนลลี่ที่ยังคงง่วนอยู่กับการวาดภาพระบายสี
“ฉันมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ เธออยู่บ้านนะ” จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมกันหนาวแล้วเดินออกไป
ตอนที่เขาอยู่ตรงทางเข้า เขาก็บังเอิญเจอกับโจชัวที่เพิ่งกลับมาพอดี
เมื่อเห็นการแต่งตัวของนีล โจชัวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดึกแล้วนะ จะไปไหน?”
“คุณแม่ทูนหัวอยากเจอผมครับ” นีลโกหกโดยไม่หวั่นเกรง เขารีบเดินผ่านโจชัวไปเรียกรถจากฝั่งตรงข้ามของถนน
ขณะยืนอยู่ตรงทางเข้าหลัก โจชัวมองนีลเดินจากไปด้วยดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อย
…
เมื่อแท็กซี่มาถึงอพาร์ตเมนต์ที่ลูน่าเช่าไว้ก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว
หลังจากลงรถมานีลก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ราวกับกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่ แล้วเดินขึ้นบันไดไป
ชั้นที่หนึ่ง ชั้นที่สอง ชั้นที่สาม...
“ฆ่าฉันเธอก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ” เสียงของนีลเยือกเย็น “เธอแค่อยากให้แม่เป็นห่วงฉัน ร้องไห้ แล้วก็อยากเห็นแม่เสียสติแล้วฆ่าฉันต่อหน้าแม่ แต่แย่หน่อยนะ แม่ของฉันโดนแซคกับยูริขังเอาไว้แล้วล่ะ เธอไม่มีทางได้เห็นสิ่งที่อยากเห็นหรอก”
ออร่ากัดฟันแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ “แกรู้ได้ยังไงว่าฉันอยากเห็นยัยลูน่า กิบสันเสียสติ? ฉันฆ่าแกด้วยการแทงแค่ครั้งเดียวยังได้เลย!”
เมื่อเห็นแซคและยูริเดินเข้ามาใกล้ ออร่าจึงทำได้แค่ดึงนีลถอยเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
ปัง!
เธอปิดประตู
แสงไฟในห้องสว่างขึ้น นีลมองไปรอบ ๆ “เธอเพิ่งเช่าห้องนี้ตอนบ่ายล่ะสิ ฝุ่นเยอะมากนะ ห้องนี้ไม่พอให้เราสองคนอยู่หรอกนะ เธอไม่น่าพาฉันมาที่นี่เลย ตอนนี้นอกจากเธอจะหนีไปไหนไม่ได้ เธอยังอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ด้วย”
ใบหน้าของนีลมีแต่ความยั่วยุ “เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเลย”
“หุบปาก!” ออร่าเตะเขาจนเขาฟุบลงไปอยู่บนพื้น “ไร้สาระทั้งเพ! ถ้าแกพูดมากอีกฉันจะเอามีดแทงแก!”
ออร่าเสียใจกับการตัดสินใจของเธอ! เธอไม่น่าโทรหานีลเลย เธอน่าจะพาตัวเนลลี่มาแทน!
นีลฉลาดและพูดมากเกินไป!
เธอใช้แรงค่อนข้างเยอะในการเตะนีลจนล้มลงกับพื้น ดังนั้นนีลจึงเจ็บจนหน้าบูดเบี้ยว
เขาฝืนยืนขึ้นหันไปยิ้มเยาะเย้ยออร่า
ออร่าขุ่นเคืองจากสีหน้าของเขา
เธอกัดริมฝีปากและพุ่งเข้าไปทันที
เพียะ! เพียะ! เพียะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ล่าหัวใจ คุณภรรยา(เก่า)ที่รัก
นักเขียนมาโป๊ะตรงที่ทำให้นางเอกและลูกๆเกิดโง่กระทันหัน นึกไม่ออกว่าเช็คดีเอ็นเอได้ ตอนที่มีคนมาสวมรอยเป็นแม่เด็กๆ อ...