ข่าวการเดิมพันระหว่างฉีเติ่งเสียนกับภู่ซิงซ่านถูกเผยแพร่ไปทั่วเมือง แม้แต่พนักงานฝ่ายเทียนไล่ยังรู้สึกว่าการเดินเกมของฉีเติ่งเสียนเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจยาก
ซั่งซ่านเภสัชกรรมของภู่ซิงซ่านได้ผูกขาดกิจการไปเป็นจำนวนมาก การเดิมพันกับเขาในตอนนี้ แถมยังเป็นการเดิมพันด้วยเงินหนึ่งร้อยล้าน แบบนี้ไม่ได้เรียกว่ายกเงินไปถวายให้หรอกหรือ?
สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ ฉีเติ่งเสียนไม่ได้มาทำงานในวันต่อมา โดยบอกว่าจะเข้าไปเข้าพบพ่อของประธานหลี่...
หมอนี่ไม่ได้เอาจริงเอาจังกับหนึ่งร้อยล้านเลยจริงๆ!
เซี่ยงตงฉิงหน้าดำหน้าแดงหลังจากได้ยินข่าวนี้ แต่เธอก็ยังอดทนอดกลั้น เตรียมสังเกตก่อนหนึ่งสัปดาห์แล้วค่อยว่ากันอีกที
หลี่หลงอี้เห็น “ลูกเขย” อย่างฉีเติ่งเสียนก็ดีใจมากและต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น จากนั้นจึงสอบถามเรื่องการเดิมพันระหว่างเขากับภู่ซิงซ่าน
ฉีเติ่งเสียนไม่คิดว่าข่าวจะถูกเผยแพร่ไปเร็วขนาดนี้ แม้แต่หลี่หลงอี้ก็ยังรู้
เรื่องนี้ถูกพูดถึงไปทั่วเมืองของจงไห่ บางทีภู่ซิงซ่านอาจจะคิดว่าชัยชนะอยู่ในกำมือเขาและกลัวว่าฉีเติ่งเสียนจะบิดพลิ้ว ดังนั้นจึงจงใจกระพือข่าวทำให้เขายากที่จะลงจากหลังเสือ
“เติ่งเสียน คิดไว้หรือยังว่าจะแต่งงานกับอวิ๋นหว่านเมื่อไร? ตอนนี้เธอก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ฉันว่าพวกเธอสองคนควรจะคิดกันได้แล้วนะ!” หลี่หลงอี้พูดขณะกำลังรับประทานอาหาร
“ครับ! ก็คิดไว้แล้วว่าจะรอตอนที่จัดการค่ายนี้เสร็จ” ฉีเติ่งเสียนชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบอย่างเต็มปาก
เป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งงาน แต่ท่าทีที่จริงจังนั้นยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี
แม้แต่หลี่อวิ๋นหว่านก็ยังพอใจมากที่เห็นท่าทีของฉีเติ่งเสียน เธอไม่มีความคิดเช่นนั้นในตอนนี้ ถึงอย่างไรอาชีพการงานของเธอก็กำลังเฟื่องฟู นอกจากนี้การหย่าระหว่างฉีเติ่งเสียนกับเฉียวชิวเมิ่งก็ยังผ่านไปไม่นาน ยังไงก็ต้องรอก่อน
ฉีเติ่งเสียนเดินทางไปที่กองพลที่แปดสิบเอ็ดอีกครั้งในตอนบ่าย จัดการฝึกซ้อมหลังกลับมาจากปีใหม่
ทันทีที่ออกมาจากค่ายฝึก ฉีเติ่งเสียนก็เห็นอวี้เสี่ยวหลงยืนอยู่ที่หน้าประตู
“นายพลอวี้มาแล้ว มาดูเร็วๆ เข้า!”
การปรากฏตัวของอวี้เสี่ยวหลงดึงดูดความสนใจของเหล่าทหารในกองพลที่แปดสิบเอ็ดทันที แต่ละคนมองเธอด้วยสายตาที่แทบจะเรียกได้ว่าเคารพนับถือสุดๆ
เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนเดินออกมา อวี้เสี่ยวหลงจึงพยักหน้าให้เขานิดหนึ่งและบอกว่า “ไปเดินเล่นกันหน่อยสิ”
ฉีเติ่งเสียนชะงักไปนิดหนึ่ง ไม่รู้ว่าทำไม แต่หลังจากที่ทั้งสองคนถูกกระสุนลูกเดียวกันยิงทะลุร่างกาย เขาก็ไม่นึกรังเกียจอวี้เสี่ยวหลงมากเหมือนเดิมอีกแล้ว
มีนักเขียนหญิงชื่อดังคนหนึ่งเคยกล่าวว่า วิธีเดียวที่ผู้ชายจะเข้าใจผู้หญิงได้ก็คือการเข้าไปในร่างกายของเธอ
ฉีเติ่งเสียนคิดว่าอาจเป็นเพราะกระสุนที่เปื้อนเลือดเขาลูกนั้นทะลุเข้าไปในร่างกายของอวี้เสี่ยวหลง... อืม... มันจะต้องเป็นเพราะเหตุผลนี้แน่ๆ!
“ผมควรจะทำความเคารพคุณไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็ ลืมมันซะเถอะ” ฉีเติ่งเสียนเม้มปากและขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“ไม่จำเป็น อย่าไปสนอะไรกับเรื่องเสียเปล่าพวกนี้!” อวี้เสี่ยวหลงกล่าวพลางส่ายหัว
หลังจากที่เอ่ยล้อเล่นไปแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็เดินเคียงข้างไปกับอวี้เสี่ยวหลง
อวี้เสี่ยวหลงเป็นคนผอมสูง และแทบจะสูงเท่าๆ กับเขาเมื่อสวมรองเท้าบูตทหาร หากสวมรองเท้าส้นสูงเธออาจจะสูงกลบเขาเลยก็ได้
เสียงรองเท้าบูตทหารที่เหยียบลงไปบนพื้นนุ่มๆ นั้นดังคมชัดและน่าฟังเป็นพิเศษ
พวกทหารเห็นฉีเติ่งเสียนกับอวี้เสี่ยวหลงเดินไปด้วยกันก็อดอิจฉาไม่ได้ พวกเขาอยากจะไปแทนที่ฉีเติ่งเสียนเหลือเกิน
“คุณคือคนที่ท่านฟู่เลื่อนตำแหน่งให้ ดังนั้นตอนนี้จึงถือว่าเราเป็นคนค่ายเดียวกันแล้ว” อวี้เสี่ยวหลงกล่าว สีหน้าของเธอสงบ ไม่มีความรู้สึกเหมือนคนที่อยู่ในจุดที่สูงกว่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงเมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ จากนั้นจึงเอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “ทิศทางเป็นอย่างไร”
อวี้เสี่ยวหลงบอกว่า “ก่อนหน้านี้ เบื้องบนล้วนสนับสนุนตระกูลเฉินเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่หนานหยาง เพราะถึงอย่างไรหนานหยางก็อุดมไปด้วยทรัพยากรมากมาย อย่างยางพารา น้ำแข็งไฟ* เหล็กกล้า... แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม ท่าทีที่พวกเขามีต่อตระกูลเฉินไม่ชัดเจนและหนักแน่นเหมือนเมื่อก่อน และคงกำลังคิดหาวิธีอื่นเพื่อให้ได้ทรัพยากรเหล่านี้” (*ผลึกลักษณะคล้ายน้ำแข็งที่ติดไฟได้)
“ไม่สนับสนุนตระกูลเฉิน? งั้นก็หมายความว่าสนับสนุนรัฐบาลหนานหยาง!” ฉีเติ่งเสียนชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา
“เรื่องนี้ได้รับการผลักดันจากคนตระกูลจ้าว ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอย่างไรต่อไป แต่เมื่อทิศทางลมเปลี่ยนไป อุตสาหกรรมหนานหยางเฉินกรุ๊ปในประเทศหัวจะต้องถูกคุกคามอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้ฉันหวังว่าคุณจะไม่เข้าไปยุ่ง เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้มันซับซ้อนมากเกินไป”
“ถ้าไม่ระวังคุณจะถูกคนอื่นชี้นิ้วกล่าวหา ถึงตอนนั้นจะแก้ก็แก้ไม่ได้แล้ว”
อวี้เสี่ยวหลงมีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นอกจากนี้คำเตือนในน้ำเสียงยังฟังดูจริงจังมาก
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าราวกับกำลังครุ่นคิด ตอนนี้ผลประโยชน์ที่ประเทศหัวได้รับจากหนานหยางแทบจะมาจากตระกูลเฉินทั้งหมด ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลเฉินจะต้องดีมาก
แต่ดูเหมือนตระกูลจ้าวจะไม่ยอมเห็นตระกูลเฉินมีอำนาจเหนือกว่าในหนานหยาง ดังนั้นจงสนับสนุนบางอย่างจนทำให้ทิศทางลมเปลี่ยนไป...
คำเตือนของอวี้เสี่ยวหลงทำให้เขาตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย
“โอเค ผมเข้าใจละ มีเรื่องอะไรอีกไหม? ว่าแต่การประเมินจะเริ่มตอนไหน ใช่ที่เมืองหลวงหรือเปล่า” ฉีเติ่งเสียนถาม
“ไม่ใช่... เพื่อความปลอดภัยของคุณ ท่านฟู่เลยเปลี่ยนสถานที่ประเมินเป็นที่โมตู” อวี้เสี่ยวหลงบอก
ฉีเติ่งเสียนกระตุกมุมปาก รู้สึกว่าฟู่เฟิงหยุนไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย แต่คิดๆ ดูแล้วก็ช่างมันเถอะ หากเขากลับไปเมืองหลวงในเวลานี้ก็มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งยิ่งรุนแรง ดังนั้นเปลี่ยนสถานที่ก็ดีแล้ว
อดทนมานานตั้งหลายปี รอต่ออีกสักนิดจะเป็นไรไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...