มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 559

ซุนอิ่งซูตกใจมาก แม้ว่าเธอจะหลุดพ้นจากอันตรายชั่วคราว แต่เมื่อครู่เธอก็เข้าใกล้ความตายมากจริงๆ

“ดูเหมือนคุณจะรู้จักนักฆ่าสองคนนั้นเป็นอย่างดี คุณรู้เหรอว่าพวกเขาเป็นใคร” ซุนอิ่งซูอดถามไม่ได้

“ที่ลูกน้องคุณพูดไง จิงถ่งอวิ้นหวี่!” ฉีเติ่งเสียนพูดนิ่งๆ

ซุนอิ่งซูขมวดคิ้วพลางพูดว่า “พวกเขาเหมือนแม่ลูกกันเลย”

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “พวกเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากในโลกนักฆ่า พวกเขาแทบไม่เคยทำพลาด ครั้งนี้ถือว่าคุณโชคดี”

ฉีเติ่งเสียนเคยได้ยินเรื่องของโลกนักฆ่าจากเทพเจ้าแห่งความตายผู้นั้น เขาเคยพูดถึงจิงถ่งอวิ้นหวี่มาก่อน ไม่คิดเลยว่าฉีเติ่งเสียนจะได้พบเจอในวันนี้

“พวกเขาไม่ใช่แม่ลูก แต่เป็นคู่รักกัน” ฉีเติ่งเสียนพูด

“โอเค...” ซุนอิ่งซูรู้สึกว่ามันแปลกมาก ผู้หญิงคนนั้นทั้งสูงทั้งอ้วน ส่วนผู้ชายกลับดูเหมือนเด็กที่ยังไม่โต

ฉีเติ่งเสียนเล่าต่อ “สองคนนี้เป็นคู่รักที่รักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับครอบครัวของพวกเขาและครอบครัวทั้งหมดก็เสียชีวิตในชั่วข้ามคืน”

“มีเพียงเด็กชายและเด็กหญิงที่รอดชีวิต เด็กชายจึงไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้างเพื่อเลี้ยงดูเด็กหญิง”

“ว่าไปแล้วเขาก็เป็นคนน่าสงสาร เพื่อที่จะเลี้ยงดูเด็กหญิงให้ได้ เขากลายเป็นแรงงานเด็กและต้องทำงานวันละสิบสองชั่วโมง”

“เมื่อเวลาผ่านไป การแบกรับน้ำหนักเป็นเวลานานทำให้ร่างกายเขาเกิดปัญหา เขาไม่สามารถสูงขึ้นได้อีก ส่วนเด็กหญิงที่เขาเลี้ยงมากลับขาวและอ้วนขึ้น”

“หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าทั้งสองเข้าสู่โลกนักฆ่าได้ยังไง ด้วยฝีมือที่ช่ำชองและรูปลักษณ์ที่ทำให้คนสับสน พวกเขาก็แทบจะทำอะไรราบรื่นไปทุกอย่าง”

ซุนอิ่งซูถึงกับพูดไม่ออก เธอคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกประหลาดราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในนิยายกำลังภายใน

เพียงแต่ว่าเมื่อครู่เธอได้เจอกับคนสองคนที่เป็นแบบนั้น

จิงถ่งเป็นผู้ชายที่มีปัญหาทางร่างกายและไม่สามารถสูงได้อีก ส่วนอวิ้นหวี่เป็นผู้หญิงที่ถูกจิงถ่งเลี้ยงจนสูงใหญ่

“ทางที่ดีผมขอแนะนำให้คุณรีบกลับไปยังถิ่นของคุณและสร้างเกราะป้องกันให้ดีเพื่อจะได้ไม่ถูกพวกเขาฆ่า”

“พวกเขาสองคนแข็งแกร่งมาก”

“คนหนึ่งเก่งศิลปะการต่อสู้ ส่วนอีกคนเก่งปืน ยากที่จะรับมือได้”

ฉีเติ่งเสียนพูดพลางส่ายหัว

เทพเจ้าแห่งความตายเคยเอ่ยถึงสองคนนี้และประเมินพวกเขาไว้สูงมาก ลำพังตัวพวกเขาก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว บวกกับพวกเขาเข้าใจกันและกันมากกว่าคนทั่วไป ไม่ว่ายอดฝีมือคนไหนได้พบพวกเขาต่างก็ปวดหัวไม่ต่างกัน

สีหน้าของซุนอิ่งซูดูไม่ดีนัก เธอกำลังคิดว่าเธออาจจะต้องขอให้จ้าวหงซิ่วฆ่าสองคนนี้ เพื่อเป็นการเตือนให้คนอื่นหวาดกลัว

ในเมื่อสองคนนี้มีชื่อเสียงมาก หากพวกเขาตายด้วยน้ำมือของเธอ มันจะเป็นการการสยบคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย!

ขณะที่ซุนอิ่งซูกำลังครุ่นคิด เสียงปืนหลายนัดก็ดังขึ้นราวกับถั่วระเบิด กระสุนตกลงมาบนรถราวกับเม็ดฝนและกระจกรถก็แตกทันที!

เธอขดตัวเป็นลูกบอลอย่างรวดเร็วและกรีดร้องออกมา

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วมุ่น เขาเห็นจิงถ่งยืนอยู่บนซันรูฟของรถที่วิ่งขนาบข้าง ในมือของเขาถือปืนกลเล็กและยิงมาที่รถของฉีเติ่งเสียนอย่างบ้าคลั่ง

“ดีที่วันนี้ฉันไม่ได้ขับแอสตันมาร์ตินมา ไม่งั้นถ้าแกมาชนรถของฉันแบบนี้ ฉันจะบี้กระโหลกแกให้แตก!” ฉีเติ่งเสียนสาปแช่งในใจ

ฝีมือการยิงของจิงถ่งนั้นแม่นยำมาก แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าคนในรถด้วยกระสุนด้วยนัดเดียวได้ แต่กระสุนสองสามนัดก็ระเบิดยางหลังของฉีเติ่งเสียนได้สำเร็จ

ถ้าฉีเติ่งเสียนควบคุมทิศทางรถได้ไม่ทัน เกรงว่ารถคงพลิกคว่ำไปแล้ว!

“จับแน่นๆ!” ฉีเติ่งเสียนตะโกนเสียงดัง

ฉีเติ่งเสียนถอดเสื้อคลุมที่หนักอึ้งออกแล้วดึงซุนอิ่งซูขึ้นสู่ผิวน้ำ

เสื้อผ้าของพวกเขาหนักขึ้นมากเนื่องจากการแช่น้ำ ดังนั้นการลอยขึ้นเหนือน้ำจึงเป็นเรื่องยากพอควร

ผ่านมาได้เพียงครึ่งทาง ซุนอิ่งซูก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ลำคอของเธอเริ่มมีการเคลื่อนไหว ฟองอากาศลอยออกมา แล้วน้ำเย็นเยือกถึงกระดูกก็ไหลรินเข้าสู่หลอดลมของเธอ

“อึก อึก...”

ถ้ากลั้นลมหายใจนี้ไม่ได้ ลมหายใจที่เหลือก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้

ฟองอากาศถูกพ่นออกจากปากของเธอติดต่อกันหลายฟอง มือและเท้าเริ่มสะบัดไปมาอย่างแรง

ฉีเติ่งเสียนทอดถอนใจ ฟองอากาศขนาดใหญ่สองฟองผุดออกจากรูจมูกของเขาและความเร็วทั้งร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นทันที

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นที่ผิวน้ำ เสียงอันทุลักทุเลทะลุผ่านน้ำแข็งบางๆ พุ่งออกไปจากแม่น้ำและหยุดอยู่ที่ริมแม่น้ำ

ตามมาด้วยร่างของฉีเติ่งเสียนที่กระโดดขึ้นจากน้ำ เขาสะบัดตัว เหยียบลงไปในแม่น้ำและรีบก้าวฉับๆ ไปที่ริมฝั่งด้วยระดับน้ำไม่เกินเข่า

“ไม่คิดเลยว่าคุณนายซุนจะซ่อนยอดฝีมือระดับนี้ไว้ข้างกาย กังฟูในระดับที่สามารถย่ำน้ำข้ามแม่น้ำได้ นี่มันเกินความคาดหมายจริงๆ!”

ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนถึงฝั่ง เขาก็ได้ยินเสียงของเด็กคนหนึ่ง

จิงถ่งและอวิ้นหวี่ยืนห่างออกไปไม่ไกล ศีรษะของจิงถ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังร่างอ้วนสูงของอวิ้นหวี่พร้อมด้วยรอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้าของเขา

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า “บีเอ็มดับเบิ้ลยู 740 คันนี้ของฉันมีมูลค่ากว่าหนึ่งล้าน พวกแกทำให้มันเป็นแบบนี้ ชดใช้มาเลย!”

เมื่อจิงถ่งและอวิ้นหวี่ได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ชะงักก่อนจะมองหน้ากัน จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ทันใดนั้นร่างกายของฉีเติ่งเสียนก็สั่นไหว เขาเรียกใช้ “พ่อไก่กระพือปีก” แล้วหยดน้ำบนตัวเขาก็ลอยขึ้นราวกับสายฝน เสื้อผ้าที่เปียกชุ่มในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นยับยู่ยี่และดูเหมือนจะแห้งขึ้นมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง