"เช่นนั้นก็ดี กำหนดไว้สามวัน ถ้าไม่เอาคนร้ายตัวจริงมาให้ข้า ข้าหมายถึงคนร้ายหลัก ไม่ใช่นักฆ่าที่ถูกจ้างวานมา ท่านก็ถ่ายทอดวิถีจิตกำลังภายในให้ข้า เป็นอย่างไร?"
มู่จิ่วซีเลิกคิ้วมองโม่จุน
"ทำไม ไม่มั่นใจตัวเองหรือ? สามวันหาคนร้ายตัวจริงไม่ได้? ให้ท่านเย่ช่วยท่านด้วยก็ได้ ข้าใจกว้างมากเลยใช่ไหม? คนฉลาดผู้ยิ่งใหญ๋แห่งแคว้นเกาอวิ๋นสองคนรวมอยู่ด้วยกัน คงไม่ใช่ว่าทำไม่ได้หรอกกระมัง?"
สายตาที่ทั้งหยามหมิ่นและคมกริบของมู่จิ่วซีทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเจ็บปวดร้อนวาบกันเลยทีเดียว
เย่อู๋เหิงมองโม่จุนด้วยสีหน้าจำใจ
"มู่จิ่วซี เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้วิธียั่วยุ ข้ารับปากก็จบ แต่เจ้าทางทีดีพูดอะไรก็ต้องทำให้ได้ด้วย" หลังจากโม่จุนครุ่นคิด ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา
"สุภาพบุรุษพูดแล้วไม่คืนคำ!" มู่จิ่วซีหัวเราะร่า ลุกขึ้นยืนยื่นฝ่ามือไปทางโม่จุน "แตะมือเพื่อสาบาน"
โม่จุนมุมปากกระตุก ยื่นมือออกมาแตะกับมือของนาง
มู่จิ่วซียิ้มเจิดจ้าให้กับเขา จนเกือบจะจ้าจนตาของโม่จุนบอด
เพียงแต่กลิ่นอายทั้งตัวของโม่จุนกลับยิ่งเย็นลงไปอีก
ชายทั้งสองคนจากไปอย่างรวดเร็ว ลู่เอ๋อร์ถามขึ้นอย่างตกตะลึง "คุณหนูใหญ่ ท่านทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนี้?"
"ข้าเดิมทีก็เก่งกาจแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้เท่านั้นเอง แต่ครั้งนี้ก็เกือบถูกเล่นงานจนตายเสียแล้ว ข้าไม่อาจทำตัวเงียบๆ ได้อีก มีแต่การทำให้คนอื่นกลัวข้าเท่านั้น ข้าถึงจะปลอดภัย"
มู่จิ่วซียิ้มเหี้ยมเกรียม ทำให้ลู่เอ๋อร์รู้สึกว่าคุณหนูใหญ่เหมือนจะเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งไปแล้ว
การอยู่ในตำหนักราชวงศ์ก็จบลงด้วยคดีของหมอหลวงเวิน ความคิดที่จะให้โม่จุนกับมู่จิ่วซีสร้างรักสมานฉันท์ของพระพันปีหลวงเองก็กลายเป็นฟองสบู่ไปเช่นกัน
เช้าตรู่วันถัดไป จวนแม่ทัพใหญ่มู่
มู่จิ่วซีกลับมาถึงในจวน ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวร้องห่มร้องไห้อยู่ด้านใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน