องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 203

ยามเซินมาถึงแล้ว

ซึ่งก็คือเวลาบ่ายสาม

หลี่จุ่นอาบน้ำแล้ว เปลี่ยนเป็นชุดขาวที่ดูสะอาดและสดชื่น ตรงเอวห้อยพู่หยกห้อยเอว ดูแล้วรูปงามราวกับหยก ช่างเป็นหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งจริงๆ

สระบัวอยู่ข้างสวนหลังจวน เป็นสระที่ขุดขึ้นมาเพื่อทัศนียภาพโดยเฉพาะ ข้างๆ สร้างศาลาและทางเดินยาวบนน้ำเอาไว้ และในสระย่อมปลูกดอกบัวไว้

แน่นอนว่าเพิ่งจะเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ ตอนนี้ยังไม่มีสระบัวให้เชยชม แต่ข้างสระบัวก็ปลูกต้นหลิวเอาไว้ไม่น้อย กิ่งหลิวแตกใบใหม่ ช่างงดงามเป็นอย่างยิ่ง

หลี่จุ่นพาหยางจงมายังสระบัว ยังไม่ทันได้เข้าไปก็เห็นเหล่าสนมและคนอื่นๆ มาที่นี่กันอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็เห็นหลี่เหวินจวิน เห็นพวกองค์รัชทายาท เห็นหลี่เซียงจู๋องค์หญิงแปดที่เดินตามมารดาของตน และหลี่จิ้นองค์ชายเจ็ดที่ยังเยาว์วัย

ส่วนองค์หญิงแปดที่เยาว์วัยยิ่งกว่า ตอนนี้ยังอยู่ในภาวะเขลา ราวกับเพิ่งจะหัดเดิน การร่วมพิธีบูชาในครั้งนี้มารดาของนางก็ยังเป็นคนจูงมืออยู่

หลี่จุ่นไม่ค่อยได้เจอน้องหญิงที่เด็กที่สุดผู้นั้นของตนเท่าไรนัก พิธีเซ่นไหว้ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เจอ ทว่าเคยพบกับเฉินกุ้ยเฟยมารดาของนาง เป็นนางสนมขั้นหนึ่ง ราวกับเป็นน้องสาวของเจ้ากรมอาญา หลี่จุ่นไม่รู้จักสักเท่าไร

สตรีผู้นั้น วิธีการไม่ธรรมดา หากในท้องเต็มไปความไม่เอาไหน ตอนนี้องค์ชายสี่ต่างหากที่จะได้เป็นองค์รัชทายาท และนางคงเป็นฮองเฮา!

และใช่องค์ชายสี่กับองค์หญิงแปดมีมารดาคนเดียวกัน

เมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว ที่พี่สี่ของตนผู้นั้นไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจขนาดนี้อาจจะมีแผนการบางอย่าง ถึงอย่างไรมารดาของเขาก็เก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่มีเหตุผลที่ลูกชายจะด้อยกว่าเลย

“ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย”

ทันใดนั้นหลี่จุ่นก็เข้าใจขึ้นมาโดยพลัน

ไม่แน่ว่าตนอาจจะลองแอบร่วมมือกับพี่สี่ผู้นี้ของตนดูก็ได้ จากนั้นก็ต่อต้านองค์รัชทายาทด้วยกัน

แต่ว่าไม่นานความคิดนี้ก็ถูกหลี่จุ่นปัดตกไป

องค์ชายสี่เก็บอาการเก่งมาโดยตลอด ต้องมีแผนอะไรบางอย่างแน่ ตนอย่าเพิ่งไปคลุกคลีกับเขามากจนเกินไปจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลาเกรงว่าจะดึงดูดศัตรูมากขึ้นกว่าเดิม

กำลังนึกถึงพี่สี่ของตนผู้นี้อยู่ จู่ๆ ข้างกายก็มีเสียงของเขาแว่วขึ้นมา

“จิ่งอ๋อง” ไม่รู้ว่าองค์ชายสี่เดินมาข้างกายตนตั้งแต่เมื่อไร เขาก้มศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“คำนับพี่สี่!” ในใจหลี่จุ่นตกตะลึง รีบประสานมือขึ้นในทันใด

องค์ชายสี่ค่อนข้างมีกลิ่นอายแห่งความปราดเปรื่องโดดเด่นจากผู้คน รูปลักษณ์ไม่ธรรมดา และยังมีมาดของชายชาตรี เขามองหลี่จุ่นทีหนึ่ง เพียงแค่พยักหน้าทว่าจู่ๆ กลับเอ่ยขึ้นก่อนว่า

“ไปด้วยกันเถอะ”

ในใจของหลี่จุ่นตกตะลึงเล็กน้อย ครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ขอรับ พี่สี่”

พวกเขาทั้งสองคนเดินเคียงกันไปยังศาลาหลักที่ทุกคนมารวมตัวกัน

“เหตุใดพวกเขาสองคนถึงมาด้วยกัน?”

ไม่นานหลี่จ้งองค์ชายห้าก็เห็นภาพที่ทั้งสองคนเดินเคียงมาด้วยกัน เขาขมวดคิ้วในทันใด

จากนั้นองค์รัชทายาทก็เห็น ทว่าไม่ได้มีสีหน้าอะไร

หลี่เหวินจวินเองก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เหล่าสนมที่อยู่ศาลาด้านข้างเองก็มีคนหันหน้ามาไม่น้อย ราวกับนัยน์ตามีความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นานพวกเขาก็ถูกการปรากฏตัวของหลี่เจิ้งและฮองเฮาดึงดูด

หลี่จุ่นประสานมือตอบกลับ

เขาถูกแต่งตั้งเป็นอ๋องแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมจริงๆ

แต่เขารู้ดีว่าใช่ว่าบอกไม่ต้องเข้าร่วมแล้วก็จะไม่เข้าร่วมได้

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันมีเรื่องจะทูลพ่ะย่ะค่ะ!”

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ!

หลี่จ้งคนเจ้ากี้เจ้าการลุกขึ้นยืนในทันใด เขามองหลี่จุ่นอย่างเย็นชาทีหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวง ต่างรู้กันดีว่าจิ่งอ๋องของเรามีพรสวรรค์ด้านบทกลอนเป็นอย่างยิ่ง เป็นอัจฉริยะด้านบทกลอนที่ยากจะพานพบ การออกมาเที่ยวชมธรรมชาติในครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่งดงามถึงเพียงนี้ จะขาดจิ่งอ๋องประพันธ์กลอนที่น่าสนุกไปได้อย่างไร?”

สีหน้าของหวังเหลียนเปลี่ยน เขาหันกลับไปมองหลี่เจิ้งทีหนึ่ง ก่อนจะพบว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ จากนั้นก็รีบเอ่ยขึ้นว่า

“องค์ชายห้า ฝ่าบาททรงมีรับสั่งว่าไม่ให้จิ่งอ๋องเข้าร่วม”

หลี่จ้งขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด

ในขณะนี้เองหลี่เฉียนก็ยืนขึ้น แล้วเอ่ยอย่างเกียจคร้าน

“หวังกงกง เจ้าฟังผิดแล้ว เราเพียงแค่อยากให้จิ่งอ๋องประพันธ์กลอนที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาก่อนบทหนึ่ง ไม่ได้บอกให้เขาเข้าร่วม

อีกย่างมีเพียงจิ่งอ๋องอัจฉริยะด้านบทกลอนที่ยากจะพบพานผู้นี้ที่เทียบเคียงได้ ถึงยิ่งทำให้พวกเรารู้ว่ากลอนที่พวกเราประพันธ์ดีหรือแย่ พระองค์ว่าใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ?

หลี่เฉียนโค้งตัวไปทางหลี่เจิ้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน