องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 229

ก่อนค่ำ เสิ่นเลี่ยไปที่ตำหนักบรรทมขององค์รัชทายาท ซึ่งก็คือตำหนักบูรพา

ระหว่างทางเขาเห็นองค์ชายสี่ที่กำลังมุ่งหน้าไปทางวังหลัง จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย

แต่เขาก็รีบเข้าไปในตำหนักบรรทมขององค์รัชทายาทอย่างรวดเร็ว

“องค์รัชทายาท พ่อของกระหม่อมบอกว่าให้เชื่อฟังองค์ชายทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นเลี่ยพูดทำความเคารพด้วยสีหน้าประจบเอาใจ

เสิ่นเลี่ยใช้ทักษะการพูดของเขาอย่างชำนาญ

ผู้เป็นพ่อบอกว่าถ้าองค์รัชทายาทต้องการเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนให้ตามนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือต้องเชื่อฟังทุกคำสั่งไม่ใช่หรือ

แม้ว่าความหมายจะแตกต่างไปบ้าง แต่องค์รัชทายาทก็ต้องทรงยินดีเมื่อเขาพูดแบบนี้

แน่นอนว่าองค์รัชทายาทที่ถือม้วนหนังสืออยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองเสี่ยเลี่ยที่เข้ามา สีหน้าของเขารู้สึกยินดีเล็กน้อยและกล่าวว่า

“พูดแบบนี้ ไท่ฟู่ก็คิดว่าวิธีของข้านั้นเป็นไปได้”

เสิ่นเลี่ยพยักหน้า แววตาของเขาวูบไหวเล็กน้อยและกล่าวว่า “พ่ะย่ะค่ะ นั่นคือสิ่งที่พ่อของกระหม่อมหมายถึง”

องค์รัชทายาทรู้สึกยินดีทันทีที่ได้ยินสิ่งนี้

องค์รัชทายาทวางแผนที่จะเพิกเฉยต่อเรื่องนี้และไม่แสดงท่าทีใด ๆ เขาแสร้งทำเป็นว่าเรื่องที่เสิ่นจิงหงกับหลี่จุ่นแต่งงานกันนั้นไม่มีอยู่จริง และต้องการจัดการอย่างคลุมเครือ

ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องผูกมิตรกับหลี่จุ่น เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าจะเป็นความตั้งใจของเขา แต่ตอนนี้ถ้าให้เขาก้มหัวและแสดงความเป็นมิตรกับหลี่จุ่น เขาที่เป็นถึงองค์รัชทายาทจะไม่ขายหน้าเอาหรอกหรือ

ดังนั้น ในเมื่อเสิ่นคั่วไม่คัดค้านต่อสิ่งที่เขาทำ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา

แต่ทว่า!

เสี่ยเลี่ยกลับเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “อย่างไรก็ตาม องค์ชายก็ทรงทราบว่าพ่อของกระหม่อมเป็นห่วงน้องสาวกระหม่อมมาโดยตลอด การแต่งงานระหว่างจิ่งอ๋องและน้องสาวของกระหม่อมเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว หากองค์ชายได้แสดงความคิดเห็น พ่อของกระหม่อมก็คงจะมีความสุขมากขึ้น”

องค์รัชทายาทขมวดคิ้วทันที

เสิ่นเลี่ยโตมาพร้อมกับเขา ดังนั้นเสิ่นเลี่ยจึงรู้ดีว่าเขาต้องการจะทำอะไร แบบนี้ก็หมายความว่าเขาก็ต้องไปเจรจาขอสงบศึกกับหลี่จุ่นงั้นหรือ

จะทำแบบนี้ได้อย่างไร

เขาเป็นองค์รัชทายาทนะ!

ควรจะเป็นหลี่จุ่นต่างหากที่ต้องมาแสดงความเป็นมิตรกับเขา!

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาทางการเมือง ในตำแหน่งของหลี่จุ่นเขาไม่จำเป็นต้องแสดงความเป็นมิตรเพราะสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้กระทบอะไร และหลี่จุ่นก็ไม่ต้องการการสนับสนุนทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่เหมือนกัน

ท่าทีของเขาเป็นตัวกำหนดความมั่นคงทางการเมือง

ความรู้สึกยินดีขององค์รัชทายาทหายวับไปในทันที เขามองเสี่นเลี่ยที่ดูไร้เดียงสาคิ้วขมวดและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง

หากองค์รัชทายาทมีความกังวลอื่น ๆ และต้องการตีสนิท ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถือโอกาสในงานท่าชิง และต่อต้านหลี่จุ่นอย่างเปิดเผย

แต่ทว่าการพระราชทานงานแต่งงานอย่างกะทันหันของฮ่องเต้ก็ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ไม่อย่างนั้นแล้วองค์ชายสี่ก็คงจะวิ่งไปที่จวนจิ่งอ๋องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และองค์รัชทายาทก็จะต่อต้านหลี่จุ่นอย่างเปิดเผยได้สำเร็จ และอยู่ท่ามกลางการต่อสู้อันยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงเพราะงานแต่งงานที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็รับมือไม่ทัน

หากพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฝ่าบาทคงจะทรงทราบความคิดขององค์รัชทายาทและองค์ชายสี่แล้ว

ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

“โอ้ เจ้าสี่ไม่ปล่อยให้คนอื่นอยู่อย่างสงบสุขจริง ๆ” องค์รัชทายาทขมวดคิ้ว รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

ในขณะนั้นเอง!

ตำหนักบรรทมของเฉินกุ้ยเฟย

องค์ชายสี่กำลังหยอกล้อน้องสาวของเขาอยู่ สองพี่น้องต่างก็สนุกสนานกันมาก

เฉินกุ้ยเฟยกล่าว “ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องมา ฝ่าบาทตรัสว่าเจ้าและองค์รัชทายาทต่างก็ไม่มีใครสามารถตีสนิทจิ่งอ๋องได้ และไม่รู้ว่านั่นคือการปกป้องเขาหรือเป็นการทำร้ายเขากันแน่...เสด็จพ่อของเจ้าคนนี้เข้าใจยากเสมอ”

นางถอนหายใจ ร่องรอยของความเศร้าปรากฏบนคิ้วเรียวสวยของนาง

องค์ชายสี่ไม่ได้ตอบอะไร และมีเพียงแววตาของเขาที่วูบไหว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน