องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 272

วันนี้เป็นการรวมตัวของขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนัก แม้แต่อวี่เหวินจิ้งไท่ซือซึ่งเป็นขุนนางใหญ่ที่ไม่ค่อยร่วมประชุมขุนนางก็ยังมา

หลี่เจิ้งนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร แลมองบรรดาขุนนาง ยิ้มถามว่า “ทุกท่าน หลายวันนี้คงรู้จักสุราหลงไถแล้วกระมัง”

เมื่อพูดขึ้นมา บรรดาขุนนางบุ๋นบู๊ก็มองหน้ากันทันที

นึกถึงตอนที่ซื้อสุรามา เนื่องจากดื่มหนักจนเมาไม่เป็นผู้เป็นคน ขอลาในวันต่อมาด้วยอ้างว่าต้องพิษลมเย็น ใครจะคิดว่าจะใช้เหตุผลเดียวกันหมด...คิดแล้วก็รู้สึกกระดากนิด ๆ

หลี่เจิ้งมองสีหน้าของเหล่าขุนนาง รอยยิ้มร่องลึกมากกว่าเดิม เอ่ย “ข้าห่วงใยทหารทางชายแดน ดังนั้นจึงอยากส่งสุราหลงไถไปให้เหล่าทหารจำนวนหนึ่ง เป็นการให้กำลังใจพวกเขาที่ผลงานปกป้องด่านชายแดน ทุกท่านคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้าง”

พอพูดขึ้นมา ในหน้าหลี่เหวินจวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเป็นคนแรก

แล้วนางจะเก็บเงินยังไงล่ะ

เสด็จพ่อจะเบี้ยวนางหรือไม่

หลี่เหวินจวินหัวใจรัดแน่นอย่างไม่มีสาเหตุ นี่คือสุราของนางกับน้องหกนะ จะให้เปล่า ๆ ไม่ได้

“ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!” หวังโส่วหนิงก้าวออกมาคัดค้านเสียงดังโดยตรง

หลี่เจิ้งขมวดคิ้วพลัน เหล่าขุนนางรอบ ๆ ก็มองเขาด้วย อวี่เหวินจิ้งไท่ซือสายตาแปลกใจนิด ๆ

ทำไมหวังโส่วหนิงถึงค้านเล่า

นี่มิใช่เรื่องดีหรือ

“อัครมหาเสนาบดีหวัง หรือว่าเจ้าจะคัดค้านที่ข้าจะปลอบขวัญเหล่าทหาร” หลี่เจิ้งถาม

หลี่เจิ้งเป็นฮ่องเต้ที่ดี ขยันหมั่นเพียร รักใคร่ประชาชน

ฮ่องเต้องค์ก่อนสามวัน ห้าวันจึงจะประชุมขุนนางสักครั้ง แต่หลี่เจิ้งน้อยนักที่จะขาดประชุม นอกเสียจากไม่มีเรื่องอะไรจริง ๆ มิเช่นนั้นจะประชุมเสมอ

โดยรวมแล้วจะประชุมสามวันหยุดพักหนึ่งวัน หรือไม่ก็ประชุมห้าวันหยุดพักสองวัน

เขาห่วงใยทหารที่อยู่ชายแดนมาก ระยะหนึ่งจะส่งของจำนวนหนึ่งไปปลอบขวัญเหล่าทหาร

ด้วยเหตุนี้ ด้วยการปกครองของราชวงศ์อู่ พื้นที่เก้ามณฑลจึงนับว่าลมฝนตกต้องตามฤดูกาล ไพร่ฟ้าสงบร่มเย็น แน่นอนว่านอกจากโจรผู้ชายทางชายแดนทางตะวันตกออกอาละวาด อันเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลี่เจิ้งอายจนยากจะปริปากนี้

หลี่เจิ้งคิดว่าครั้งนี้ส่งสุราดีเช่นนี้ไปด่านชายแดนน่าจะถูกต้องแล้ว แต่ทำไมหวังโส่วหนิงจึงคัดค้านเล่า

หวังโส่วหนิงสัมผัสถึงสายตาของทุกคนในท้องพระโรงได้ แต่ไม่กริ่งเกรงสักนิด ยังคงพูดทัศนคติของตน

“ฝ่าบาททรงห่วงใยทหารด่านชายแดน นี่คือการกระทำของกษัตริย์ที่ดี แต่การส่งสุราหลงไถไปให้ทหารด่านชายแดนครั้งนี้ไม่ค่อยเหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”

“อัครมหาเสนาบดีหวัง มีอะไรไม่เหมาะสมหรือ” มีขุนนางคนหนึ่งก้าวออกมาถามทันที

หลี่เจิ้งขมวดคิ้วมองดูด้วย

หวังโส่วหนิงกัดฟัน ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

“ฝ่าบาท สุราหลงไถนี้ฤทธิ์แรงเกินไปพ่ะย่ะค่ะ...”

หือ!!

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

“...”

บรรดาขุนนางต่างส่งเสียงบอกว่าเห็นด้วย!

หลังจากได้ฟังหวังโส่วหนิงให้เหตุผล หลี่เจิ้งก็รู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อมเขาทันที นึกขึ้นได้เดี๋ยวนั้น

นั่นสิ...

เขาก็เคยลองฤทธิ์สุรานี้มาแล้ว แรงจนน่าเหลือเชื่อ ถ้าพวกทหารดื่มเกินควร เช่นนั้นจะให้ศัตรูฉวยโอกาส ถึงตอนนั้นเรื่องดีจะกลายเป็นเรื่องร้าย!

“เป็นข้าที่คิดไม่รอบคอบ ถ้าเป็นอย่างที่อัครมหาเสนาบดีหวังกังวล เหล่าทหารควรคุมดื่มเกินควรจนเมาหมดสติ เช่นนั้นผลพวงยากจะจินตนาการ...สมกับที่เป็นอัครมหาเสนาบดีหวัง โชคดีที่เจ้าเตือนสติข้า!”

หลี่เจิ้งรู้สึกละอายรับผิดทันที แล้วพูดอย่างเสียดาย “น่าเสียดาย สุราดีเช่นนี้ข้ากลับไม่สามารถร่วมดื่มกับทหารของราชสำนักได้ น่าเสียดายแท้ ๆ”

หวังโส่วหนิงพูดพลัน “ฝ่าบาท อีกไม่นานเจิ้นเป่ยอ๋องก็จะยกทัพกลับเมืองหลวงแล้ว ถึงตอนนี้ค่อยรวมดื่มก็ยังไม่สายพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เจิ้งหัวเราะพยักหน้าพูด “อัครมหาเสนาบดีหวังพูดมีเหตุผล เอาล่ะ เรื่องนี้วางไว้ก่อน พูดถึงเจิ้นเป่ยอ๋อง ครั้งนี้ที่เจิ้นเป่ยอ๋องยกทัพกลับเมืองหลวง เป็นเพราะด่านชายแดนตงเป่ย1ไม่สงบ ทัพใหญ่แคว้นจ้าวริมแม่น้ำต้าเฉินมีแนวโน้มเคลื่อนไหว คิดจะข้ามแม่น้ำบุกรุกแผ่นดินชายแดนของราชวงศ์อู่เรา ทุกท่านมีกลยุทธ์รับมือหรือไม่”

-----------------------------------------------

1 ตะวันออกเฉียงเหนือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน