องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 290

หลี่จุ่นตื่นแต่เช้าและเตรียมตัวที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ แต่เขาไม่เห็นเจียงเยว่ฉาน แม่นางคนนี้วันนี้ไม่มาเหรอเนี่ย

หลี่จุ่นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก็เลยเริ่มฝึกซ้อมด้วยตนเอง

ช่วงนี้ทักษะหมัดเท้าของเขาพัฒนาขึ้นมาก เขาสามารถต่อสู้กับอารักขาอันดับหนึ่งในจวนได้ แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็ยังมีความสามารถในการป้องกันตนเองอยู่บ้าง

น่าเสียดายที่เขาไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ เลยไม่มีวิธีที่จะฝึกฝนกำลังภายใน ไม่เช่นนั้นก็คงจะดีไม่น้อย

หลังจากฝึกฝนเสร็จก็อาบน้ำและเริ่มทานมื้อเช้า

เจียงเยว่ฉานยังคงไม่ปรากฏตัว แต่หลี่จุ่นก็สั่งให้ห้องครัวเตรียมอาหารสำหรับเจียงเยว่ฉานไว้ด้วยหนึ่งชุด ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะโผล่มาตอนไหน

เที่ยงแล้วก็ยังไม่เห็นหน้าเจียงเยว่ฉาน หลี่จุ่นส่ายหัวแล้วเรียกหยางจง ทั้งสองแต่งตัวแล้วไปที่หอชุนฮวาอีกครั้ง

หยางจงถามอย่างไม่สบายใจ “ท่านอ๋อง นี่เรากำลังจะไปนอนกับนางคณิกาชั้นสูงหรือขอรับ”

หลี่จุ่นเหลือบมองหยางจงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้านี่นะ เอาแต่คิดเรื่องชายหญิงตลอดเวลา!”

หยางจงยิ้มเก้อเขิน “ข้าน้อยมิกล้า”

หลี่จุ่นยิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้ได้ยินมาว่านางคณิกาชั้นสูงไม่อยู่ ข้าไม่ได้มาหานางคณิกาชั้นสูงแล้ว ข้ามาหาแม่นางอื่น ข้าได้ยินมาว่าแม่นางอวี้เซียงจากหอชุนฮวาก็ไม่เลวเช่นกัน”

หยางจงยิ้มทันทีแล้วพูดว่า “งั้นกระหม่อมไปฟังเล่าเรื่องนะขอรับ!”

“ได้สิ”

หลี่จุ่นพอใจอย่างมาก

สองนายบ่าวเข้าไปในหอชุนฮวา หยางจงไปฟังเล่าเรื่องที่เขาสนใจ ส่วนหลี่จุ่นเดินตรงขึ้นไปชั้นบนแล้วพบกับแม่เล้าพอดี

“อุ๊ย คุณชาย วันนี้วานวานไม่อยู่นะเจ้าคะ มาเสียเที่ยวเลย” แม่เล้าแสดงความรู้สึกผิด

หลี่จุ่นพยักหน้า เขารู้ว่าเฉาวานวานไปทำธุระบางอย่างก็เลยไม่อยู่ ก่อนหน้านี้สาวใช้ของเฉาวานวานเคยบอกแล้ว เขาจำได้

หลี่จุ่นหยิบเงินสิบตำลึงออกมาหนึ่งก้อนแล้วยัดเข้าไปในอกของแม่เล้า พลางพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ข้ามาหาแม่นางอวี้เซียงแล้วกัน ให้แม่นางอวี้เซียงคอยปรนนิบัติข้าก็ได้”

แม่เล้ารู้สึกชาไปทั้งหัวใจ...

นางหลงคิดว่าหลี่จุ่นมีใจให้กับเฉาวานวานเพียงผู้เดียว ไม่คิดเลยว่าพอเฉาวานวานไม่อยู่ ก็หันมาหาอวี้เซียงเสียแล้ว...

เห้อ ผู้ชายหนอผู้ชาย

“ได้เจ้าค่ะคุณชาย ได้เลย ท่านนั่งลงก่อน ข้าจะไปแจ้งอวี้เซียงให้นางเตรียมตัวปรนนิบัติคุณชาย” แม่เล้าบิดสะโพกอันอวบอ้วนของนางแล้วจากไป

หลี่จุ่นรออยู่ในห้องโถง

หลังจากดื่มชาเสร็จ สาวใช้ก็มาเชิญหลี่จุ่นและพาเขาไปห้องที่อยู่ด้านข้างห้องโถง ป้ายด้านนอกประตูเขียนตัวอักษรไว้สองตัว อวี้เซียง

“ไม่มี! ขณะนี้ยังไม่มีแม่ทัพคนใหม่ในราชสำนักที่สามารถควบคุมกองกำลังหนึ่งในสามที่เหลืออยู่ได้ เมื่อเจิ้นเป่ยอ๋องไม่อยู่ชายแดนทางตอนเหนือจึงไร้แม่ทัพ! น่าจะมีเพียงรองแม่ทัพของเจิ้นเป่ยอ๋องเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รับผิดชอบคุมทัพชั่วคราว”

“น่าสนใจ”

หลี่จุ่นพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาฉายความลึกล้ำ “ได้ยินมาว่าจี้จงชิงกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว พวกเจ้าเคยเจอคนผู้นี้หรือไม่”

อวี้เซียงก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “จี้จงชิงทัศนาจรภายนอกมาห้าปีแล้ว และเพิ่งมาเมืองหลวงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เรายังไม่มีเวลาตรวจสอบเลยเจ้าค่ะ”

หลี่จุ่นบีบก้นของอวี้เซียงอย่างแรง อวี้เซียงส่งเสียงครวญครางเบา ๆ ออกมาทันที ร่างกายอันบอบบางของนางสั่นไหวเล็กน้อย หลี่จุ่นพูดเบา ๆ

“ข้าจ่ายเงินไปมากมายเพื่อสนับสนุนพวกเจ้าเป็นเวลาสองเดือน หากความสามารถของพวกเจ้ามีเท่านี้ ก็คงจะไม่สามารถสนองความต้องการของข้าได้”

ร่างกายอันบอบบางของอวี้เซียงกระตุก นางกอดคอของหลี่จุ่นไว้แนบแน่น เสียงลมหายใจของนางหนักขึ้นเล็กน้อย และรีบกล่าวว่า “ข้าน้อยจะทำให้ดีที่สุด...จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”

หลี่จุ่นพยักหน้า ระบายยิ้มอ่อน ๆ เชยคางของนางขึ้น แล้วพูดอีกครั้ง

“ช่างเถอะ ไม่ว่าจะเป็นจี้จงชิง อวี่เหวินจิ้ง หรือหลี่เจิ้ง พวกเจ้าไม่ต้องไปสืบแล้ว ตอนนี้ความสามารถพวกเจ้ายังไม่เพียงพอที่จะสืบคนเหล่านี้ได้ กลับกันอาจจะเป็นการเปิดเผยตัวเองไปเสียอีก ถ้าเป็นเช่นนั้นเงินของข้าก็เท่ากับสูญเปล่า ข้ารักเงินเท่าชีวิต”

อวี้เซียงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “รับทราบ ข้าน้อยเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

ขณะที่หลี่จุ่นหยอกล้อกับคางอันบอบบางของนาง นางสัมผัสได้ถึงลมหายใจอบอุ่นของฝ่ายชาย ซึ่งทำให้นางหายใจถี่ขึ้นไปอีก ร่างกายบอบบางของนางสั่นสะท้านจนเสียการควบคุมเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน