องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 337

หากรอฝนหยุด รอฟ้าสว่าง สถานการณ์ก็จะไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา ดังนั้นจำเป็นต้องฉวยโอกาสในคืนฝนตก บุกฝ่าวงล้อมออกไปในเวลากลางคืน

ส่วนเรื่องที่จะกลับไปพบหลี่เจิ้งเพื่ออธิบายให้ชัดเจนนั้น ยิ่งไม่ต้องคิดเลย

ถ้าเขาเป็นลูกชายของหลี่ตางเทียนจริงๆ เกรงว่าหลี่เจิ้งอาจจะฆ่าเขาไปเลยโดยไม่สนว่าเขาถูกใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งหรือไม่ สมัยนี้ไม่มีการตรวจดีเอ็นเอ อาศัยแค่การหยดเลือดพิสูจน์จึงเป็นเพียงเรื่องตลก

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหนี

หลี่เจิ้งไม่โปรดปรานเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กระทั่งผ่านเหตุการณ์นี้ เขายังสงสัยว่าหลี่เจิ้งอาจจะรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ จึงมักทำให้เขาลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่า

จุดประสงค์ก็เพื่อหาข้ออ้างฆ่าเขา ดีกว่าถูกตราหน้าว่าถูกผู้หญิงหลอกใช้ ไม่อย่างนั้นศักดิ์ศรีของฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

หลี่จุ่นคิดว่าความเป็นไปได้นี้เป็นไปได้มากที่สุด

อย่างไรเสีย ฮ่องเต้ก็ล้วนรักในศักดิ์ศรี

“เจ้าค่ะ”

แม่ครัวรีบพยักหน้าทันที จากนั้นควักมือเรียกบ่าวรับใช้สองสาม แล้วพาไปหลังจวนอย่างรวดเร็ว

หลี่จุ่นตั้งใจสั่งแม่ครัว ซึ่งทำให้เจียงเยว่ฉานและโหลวฮวนฮวนประหลาดใจทันที แม้แต่เสิ่นจิงหงก็ประหลาดใจมากเช่นกัน

และแม้แต่หยางจงก็ตกตะลึง

หมายความว่าหลี่จุ่นได้เตรียมการใต้จมูกของพวกเขาและฝึกฝนหน่วยลับหรือ

นี่... ทำได้อย่างไร

ช่างน่าประหลาดใจจริง

เจียงเยว่ฉานมองหลี่จุ่นอย่างลึกซึ้ง แล้วชำเลืองมองแม่ครัวที่ยังคงมีเสน่ห์เหมือนตอนสาว จากนั้นเดินไปข้างๆ หลี่จุ่น ลังเลชั่วครู่ก่อนถามว่า

“เรื่องที่ท่านเป็นลูกชายของหลี่ตางเทียน... เป็นเรื่องจริงหรือไม่”

หลี่จุ่นนิ่งเงียบชั่วครู่ก่อนจะพูดอย่างไม่สบายใจว่า “จากที่รัชทายาทพูดในตอนนี้ น่าจะเป็นความจริง”

จากนั้นก็เล่าสิ่งที่องค์รัชทายาทพูดอีกรอบ

เจียงเยว่ฉานหรี่ตาลงในทันที

เป็นจริงดังที่นางคาดไว้ก่อนหน้านี้ เหมือนกับที่สายลับในวังผู้นั้นคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด

พระชายาในคราวนั้นได้สลับตัวตนกับน้องสาวของนางจริงๆ จากนั้นรักษาชีวิตของหลี่จุ่นไว้

ก่อนหน้านี้นางให้คนตามสืบว่าพระชายาได้ตั้งครรภ์ก่อนที่หลี่ตางเทียนจะก่อกบฏหรือไม่ แต่ยังสืบไม่พบข้อสรุปใดๆ ทว่าตอนนี้ได้รับคำยืนยันจากรัชทายาทแล้ว แสดงว่าข้อสันนิษฐานนั้นถูกจึงไม่ต้องสืบต่อไปอีกแล้ว

ในเวลาเดียวกัน นางก็จำเป็นต้องพาหลี่จุ่นออกไปจากเมืองหลวงอย่างปลอดภัย เพราะหลี่จุ่นคือกุญแจสำคัญต่ออำนาจของพวกเขา

“ท่านวางแผนจะออกจากเมืองอย่างไร” เจียงเยว่ฉานถาม

หลี่จุ่นครุ่นคิดครู่หนึ่ง แววตาค่อนข้างลึกซึ้ง แล้วพูดว่า “มีคนคนหนึ่งติดค้างข้าอยู่ บางทีนางอาจสามารถช่วยเราหนีออกไปได้”

เจียงเยว่ฉานนิ่งงันชั่วขณะก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แล้วถามว่า

หลี่จุ่นหัวเราะ แล้วพูดว่า “อย่างไรเสีย มีเพียงข้าที่สามารถไขแผนที่ซ่อนสมบัตินั้นได้ เจ้าลองไตร่ตรองดู”

เจียงเยว่ฉานหน้านิ่งเฉยและถลึงตาโตอย่างหาได้ยาก จากนั้นหันหลังกลับและเดินจากไป แล้วตะโกนเรียกโหลวฮวนฮวนพร้อมกับกระโดดขึ้นหลังคา

“ระวัง”

แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ตามมาด้วยร่างหนึ่งกระโจนออกมาจากทางเดินแล้วล้มลงท่ามกลางสายฝน

พวกเจียงเยว่ฉานหน้าถอดสีและรีบหมุนตัวกลับมาทันที จากนั้นเห็นหลี่จุ่นยืนพิงเสาและถูกกริซแทงเข้าที่ท้องเล่มหนึ่ง ส่วนเสิ่นจิงหงกำลังประคองเขาพลางร้องไห้ด้วยความตื่นตระหนกและไม่รู้จะทำอย่างไรดี

หยางจงและคนที่อยู่รอบๆ ต่างวุ่นวายชุลมุน

“หลี่จุ่น” โหลวฮวนฮวนตะโกนร้องด้วยความตกใจ พร้อมกับพุ่งเข้าไปหาทันที ในดวงตาฉายแววตากังวลอันไม่มีที่สิ้นสุด

ความรู้สึกที่แท้จริงถูกเปิดเผย

หลี่จุ่นหันหน้าไปมององครักษ์ในจวนที่ถูกเสิ่นจิงหงถีบกระเด็นออกไปและนอนบาดเจ็บสาหัสปานตายอยู่กลางสายฝนอย่างยากลำบาก ไม่สิ พูดอย่างเคร่งครัดก็คือเขาเป็นไส้ศึกที่แฝงตัวอยู่ในจวน หลี่จุ่นหัวเราะแล้วด่าว่า

“มึงแม่งแทงที่หัวใจข้าสิว่ะ แทงท้องข้า... ข้าก็ไม่ตาย แม่งนี่ไม่เท่ากับทำให้ข้าทรมานเหรอ...”

จากนั้นเขาก็เอียงศีรษะและล้มลงในอ้อมแขนของเสิ่นจิงหง แล้วเป็นลมสลบไป

แต่ก็ไม่แน่ การแพทย์ของชาตินี้แย่ขนาดนี้ อาจจะตายไปเลยก็ได้

หลี่จุ่นคิดในใจครั้งสุดท้าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน