เสียงเรียกนี้มีพลังทะลุทะลวงมาก โหลวฮวนฮวนที่อยู่บนหลังคาได้ยินแล้วแก้วหูสั่นกระเพื่อม ในใจสะท้าน
นางฟังออกถึงความสิ้นหวังอย่างหนึ่ง
นางรู้ว่าจ้าวเฟยเอ๋อร์กับหลี่จุ่นต่างชอบพอกัน และรู้ฐานะของหลี่จุ่นในใจของจ้าวเฟยเอ๋อร์ดี ชั่วขณะ นางถึงกับทำใจทำร้ายจ้าวเฟยเอ๋อร์ไม่ลงเล็กน้อย
โหลวฮวนฮวนเอ่ยเสียงหนักอีกครั้ง “ท่านหญิงจ้าว หรือว่าท่านต้องการเห็นเขาตายหรือ!”
พอได้ฟังคำพูดนี้ จ้าวเฟยเอ๋อร์ก็มองโหลวฮวนฮวนที่หนึ่งอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เผยอปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่ นางไม่อยากเห็นเขาตาย...
“ถ้าท่านไม่อยากเห็นเขาตาย ก็อย่าตามมาอีกเลย!” โหลวฮวนฮวนเอ่ย
ทว่า
นาทีต่อมา จ้าวเฟยเอ๋อร์กลับฟาดบังเหียนอย่างแรง เร่งม้าเต็มกำลัง รีบร้อนจะตามรถม้าให้ทัน
โหลวฮวนฮวนเริ่มฉุนทันที เอ่ยเสียงต่ำ “งั้นก็อย่าโทษข้า”
นาทีต่อมา
โหลวฮวนฮวนกระโดดลงมาอย่างเร็ว ตกอยู่บนถนนม้า ตวัดกระบี่ยาวในมือ!
ฉับ!
ขาคู่หน้าของอาชาสีขาวถูกนางฟันแล้ว อาชาแผดร้องเสียงหลง เลือดสดสาดกระเซ็น
จ้าวเฟยเอ๋อร์กลิ้งถลาไปพร้อมกับอาชา ส่งเสียงครางต่ำ กลิ้งหลุน ๆ อยู่บนพื้นหลายตลบ นอนอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าทรมาน
หน้าผาเป็นแผลน่ากลัวรอยหนึ่ง เลือดสดไหลเป็นทาง
“หลี่หลาง...”
จ้าวเฟยเอ๋อร์บาดเจ็บสาหัสทันที รู้สึกเพียงหัวสมองดังวิ้ง ๆ ทัศนะเลื่อนลอย นางมองรถม้าแล่นเร็วหายไปจากตรงหน้าต่อหน้าต่อตา
แต่นาทีต่อมา นางตะเกียกตะกายลุกขึ้น ไม่สนความเจ็บปวดบนร่าง ย่างเท้าที่หนักอึ้ง โซเซตามไปข้างหน้า
โหลวฮวนฮวนยืนอยู่บนทางม้าด้านหน้า มองจ้าวเฟยเอ๋อร์ที่ไม่ยอมแพ้ด้วยความทึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น
“ดูท่าอยากให้เขาตายจริง ๆ สินะ เช่นนั้นข้าก็ต้อง...”
ฉึก!
โหลวฮวนฮวนเสือกกระบี่ยาวในมือออกไป แต่แค่ทะลุปักน่องขาขวาของจ้าวเฟยเอ๋อร์เท่านั้น
“อ๊า!”
จ้าวเฟยเอ๋อร์ร้องเสียงหลง กึ่งคุกเข่าอยู่กับพื้น มองโหลวฮวนฮวนทีหนึ่ง น้ำตาไหลพราก มองรถม้าที่ลับตาไปแบบไร้เรี่ยวแรงและสิ้นหวัง ก่อนจะแผดเสียงชอกช้ำระกำใจในท้ายที่สุด
“อย่าตามมาอีกนะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเสีย!”
โหลวฮวนฮวนหันมาพูดเสียงเย็น จากนั้นจึงกระโดดขึ้นหลังคา ตามรถม้าไปอย่างรวดเร็ว
…………………………………………….
วังหลวง
เจิ้นเป่ยอ๋องหลี่ทงลังเลเล็กน้อย
จี้จงชิงมองสีหน้าหลี่เจิ้งแวบหนึ่ง สอดปากขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ฝ่าบาทตรัสมีเหตุผล ทัพใหญ่ถึงด่านเหิงกู่แล้ว ต่อให้ท่านอ๋องไม่อยู่ เวลานี้ก็ไม่เกิดปัญหาอะไรหรอก ท่านอ๋องพักได้อีกสองวัน”
เสิ่นคั่วและอวี่เหวินจิ้งก็ผงกศีรษะน้อย ๆ เหมือนกัน
องค์ชายเจ็ดเสียชีวิตกะทันหัน แผนการของพวกเขาวุ่นวายไปหมด เรื่องนี้มีเลศนัยมาก ยามนี้มีขั้วอิทธิพลไม่แน่ชัดรอเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก กระทำการลับ ๆ ไม่รู้ว่ามุ่งเป้ามาที่ใคร
เจิ้นเป่ยอ๋องคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของราชวงศ์อู่ หากเขาอยู่ในวังหลวง จะวางใจเรื่องความปลอดภัยของฝ่าบาทได้
อีกอย่าง การเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวงครานี้ พวกเขาสงสัยว่าจะเกี่ยวกับเรื่องสงครามของราชวงศ์อู่
“ในเมื่ออัครเสนาบดีจี้กล่าวเช่นนี้แล้ว อย่างนั้นกระหม่อมก็จะพักอีกสักสองวันพ่ะย่ะค่ะ” หลี่ทงรับบัญชาอย่างเคารพ “เช่นนั้นกระหม่อมขอทูลลา”
ว่าแล้วก็ออกไปจากห้องทรงพระอักษร
หลี่ทงเดินออกไปถึงข้างนอก แหงนหน้ามองสีสันของท้องฟ้าทีหนึ่ง จันทร์กระจ่างที่ซุกซ่อนอยู่ในชั้นเมฆเผยออกมาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ทั้งเมืองหลวงราวกับมีผ้าบาง ๆ ปกคลุมชั้นหนึ่ง
ขาวสะอาดปานเกล็ดน้ำแข็ง
เขาหยุดฝีเท้าครู่หนึ่ง สูดลมหายใจเข้าลึกอยู่นาน แววตาเปลี่ยนเป็นคมกริบกว่าเดิม!
ก่อนจะสาวเท้าจากไป
---------------------------------------
1 เปรียบคนไม่มีประโยชน์ที่เอาแต่กินข้าวไปวัน ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...