องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 347

เสียงเรียกนี้มีพลังทะลุทะลวงมาก โหลวฮวนฮวนที่อยู่บนหลังคาได้ยินแล้วแก้วหูสั่นกระเพื่อม ในใจสะท้าน

นางฟังออกถึงความสิ้นหวังอย่างหนึ่ง

นางรู้ว่าจ้าวเฟยเอ๋อร์กับหลี่จุ่นต่างชอบพอกัน และรู้ฐานะของหลี่จุ่นในใจของจ้าวเฟยเอ๋อร์ดี ชั่วขณะ นางถึงกับทำใจทำร้ายจ้าวเฟยเอ๋อร์ไม่ลงเล็กน้อย

โหลวฮวนฮวนเอ่ยเสียงหนักอีกครั้ง “ท่านหญิงจ้าว หรือว่าท่านต้องการเห็นเขาตายหรือ!”

พอได้ฟังคำพูดนี้ จ้าวเฟยเอ๋อร์ก็มองโหลวฮวนฮวนที่หนึ่งอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เผยอปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร

ไม่ นางไม่อยากเห็นเขาตาย...

“ถ้าท่านไม่อยากเห็นเขาตาย ก็อย่าตามมาอีกเลย!” โหลวฮวนฮวนเอ่ย

ทว่า

นาทีต่อมา จ้าวเฟยเอ๋อร์กลับฟาดบังเหียนอย่างแรง เร่งม้าเต็มกำลัง รีบร้อนจะตามรถม้าให้ทัน

โหลวฮวนฮวนเริ่มฉุนทันที เอ่ยเสียงต่ำ “งั้นก็อย่าโทษข้า”

นาทีต่อมา

โหลวฮวนฮวนกระโดดลงมาอย่างเร็ว ตกอยู่บนถนนม้า ตวัดกระบี่ยาวในมือ!

ฉับ!

ขาคู่หน้าของอาชาสีขาวถูกนางฟันแล้ว อาชาแผดร้องเสียงหลง เลือดสดสาดกระเซ็น

จ้าวเฟยเอ๋อร์กลิ้งถลาไปพร้อมกับอาชา ส่งเสียงครางต่ำ กลิ้งหลุน ๆ อยู่บนพื้นหลายตลบ นอนอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าทรมาน

หน้าผาเป็นแผลน่ากลัวรอยหนึ่ง เลือดสดไหลเป็นทาง

“หลี่หลาง...”

จ้าวเฟยเอ๋อร์บาดเจ็บสาหัสทันที รู้สึกเพียงหัวสมองดังวิ้ง ๆ ทัศนะเลื่อนลอย นางมองรถม้าแล่นเร็วหายไปจากตรงหน้าต่อหน้าต่อตา

แต่นาทีต่อมา นางตะเกียกตะกายลุกขึ้น ไม่สนความเจ็บปวดบนร่าง ย่างเท้าที่หนักอึ้ง โซเซตามไปข้างหน้า

โหลวฮวนฮวนยืนอยู่บนทางม้าด้านหน้า มองจ้าวเฟยเอ๋อร์ที่ไม่ยอมแพ้ด้วยความทึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น

“ดูท่าอยากให้เขาตายจริง ๆ สินะ เช่นนั้นข้าก็ต้อง...”

ฉึก!

โหลวฮวนฮวนเสือกกระบี่ยาวในมือออกไป แต่แค่ทะลุปักน่องขาขวาของจ้าวเฟยเอ๋อร์เท่านั้น

“อ๊า!”

จ้าวเฟยเอ๋อร์ร้องเสียงหลง กึ่งคุกเข่าอยู่กับพื้น มองโหลวฮวนฮวนทีหนึ่ง น้ำตาไหลพราก มองรถม้าที่ลับตาไปแบบไร้เรี่ยวแรงและสิ้นหวัง ก่อนจะแผดเสียงชอกช้ำระกำใจในท้ายที่สุด

“อย่าตามมาอีกนะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเสีย!”

โหลวฮวนฮวนหันมาพูดเสียงเย็น จากนั้นจึงกระโดดขึ้นหลังคา ตามรถม้าไปอย่างรวดเร็ว

…………………………………………….

วังหลวง

เจิ้นเป่ยอ๋องหลี่ทงลังเลเล็กน้อย

จี้จงชิงมองสีหน้าหลี่เจิ้งแวบหนึ่ง สอดปากขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ฝ่าบาทตรัสมีเหตุผล ทัพใหญ่ถึงด่านเหิงกู่แล้ว ต่อให้ท่านอ๋องไม่อยู่ เวลานี้ก็ไม่เกิดปัญหาอะไรหรอก ท่านอ๋องพักได้อีกสองวัน”

เสิ่นคั่วและอวี่เหวินจิ้งก็ผงกศีรษะน้อย ๆ เหมือนกัน

องค์ชายเจ็ดเสียชีวิตกะทันหัน แผนการของพวกเขาวุ่นวายไปหมด เรื่องนี้มีเลศนัยมาก ยามนี้มีขั้วอิทธิพลไม่แน่ชัดรอเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก กระทำการลับ ๆ ไม่รู้ว่ามุ่งเป้ามาที่ใคร

เจิ้นเป่ยอ๋องคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของราชวงศ์อู่ หากเขาอยู่ในวังหลวง จะวางใจเรื่องความปลอดภัยของฝ่าบาทได้

อีกอย่าง การเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวงครานี้ พวกเขาสงสัยว่าจะเกี่ยวกับเรื่องสงครามของราชวงศ์อู่

“ในเมื่ออัครเสนาบดีจี้กล่าวเช่นนี้แล้ว อย่างนั้นกระหม่อมก็จะพักอีกสักสองวันพ่ะย่ะค่ะ” หลี่ทงรับบัญชาอย่างเคารพ “เช่นนั้นกระหม่อมขอทูลลา”

ว่าแล้วก็ออกไปจากห้องทรงพระอักษร

หลี่ทงเดินออกไปถึงข้างนอก แหงนหน้ามองสีสันของท้องฟ้าทีหนึ่ง จันทร์กระจ่างที่ซุกซ่อนอยู่ในชั้นเมฆเผยออกมาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ทั้งเมืองหลวงราวกับมีผ้าบาง ๆ ปกคลุมชั้นหนึ่ง

ขาวสะอาดปานเกล็ดน้ำแข็ง

เขาหยุดฝีเท้าครู่หนึ่ง สูดลมหายใจเข้าลึกอยู่นาน แววตาเปลี่ยนเป็นคมกริบกว่าเดิม!

ก่อนจะสาวเท้าจากไป

---------------------------------------

1 เปรียบคนไม่มีประโยชน์ที่เอาแต่กินข้าวไปวัน ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน