องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 35

หลี่จุ่นเมื่อเห็นสีหน้าของพวกนาง ก็พอใจเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ สมัยนี้ ไม่ได้มีพลุ ดังนั้นนับได้ว่าเขาเป็นคนคิดค้นมันขึ้นมา เป็นผู้ริเริ่ม

หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เขารวบรวมดินปืน รวบรวมหินมากมายที่สามารถระเบิดและเกิดเป็นสีขึ้นมา เสียเวลาไปตั้งนานกว่าที่จะทำพลุขึ้นมาได้

ถ้าไม่ใช่เพราะสมัยมัธยมปลายเรียนเคมีค่อนข้างดี อีกทั้งยังเป็นคนที่ชอบอ่านนิตยสารวิทยาศาสตร์ล่ะก็เขาคงทำออกมาไม่ได้หรอก ตอนนี้แม้จะทำสำเร็จแล้ว แต่ก็ยังทำออกมาได้เพียงสองสีเท่านั้น ถ้าอยากจะทำงานเลี้ยงจุดพลุล่ะก็ มันยังเร็วเกินไป

แต่ว่า ถ้าเอามาเป็นพลุสัญญาณล่ะก็ ก็ยังใช้ได้

หลี่จุ่นบอกให้ทั้งสองคนนั่งลง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“นี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งของเรา มีสิ่งนี้ พวกเราสามารถบอกอีกฝ่ายได้ถึงตำแหน่งที่เราล่าสัตว์อยู่ จากนั้นก็ทำการล้อมรอบสัตว์ตัวนั้น ทำให้ผลในการล่าสัตว์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และคนอื่นไม่มีอุปกรณ์แบบนี้แน่นอน”

หญิงสาวทั้งสองสบตากัน ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

หลี่จุ่นเอ่ยต่อไป “นอกจากของดีสิ่งนี้แล้ว พวกเรายังมีของดีอีกอย่าง”

เขาปรบมืออีกครั้ง หยางจงรีบหยิบหน้าไม้อันเล็กขึ้นมาสามอัน นี่เป็นหน้าไม้ที่หลี่จุ่นตั้งใจ ดัดแปลงมาจากหน้าไม้ขงเบ้ง

รูปร่างค่อนข้างเล็ก เหมาะในการพกและซ่อนไว้ติดตัว

หน้าไม้ขงเบ้งที่แท้จริงนั้น จะอันใหญ่ ยิงได้ไกล และพลังทำลายรุนแรงมาก

“สิ่งนี้ข้าเรียกมันว่าหน้าไม้ สามารถใส่ลูกดอกแบบพิเศษลงไปสิบดอกได้ในครั้งเดียว สามารถยิงไกลได้ถึงห้าสิบเมตร หากยิงภายในรัศมีสามสิบเมตรอัตราที่จะยิงโดนนั้นคือร้อยเต็มร้อย ขอเพียงเราห่างจากสัตว์ไม่เกินสามสิบเมตร เราจะต้องยิงโดนอย่างแน่นอน!”

หลังจากที่หลี่จุ่นอธิบายจบ เขาก็หยิบหน้าไม้ขึ้นมาอันนึง แล้วทำการยิงไปยังเสาที่อยู่ด้านข้างสิบนัดติดกัน ลูกดอกทั้งสิบลูกนั้นยิงโดนเสาทั้งหมด น่าตกใจเป็นอย่างมาก!

หญิงสาวทั้งสองมองอย่างตกตะลึง และหวาดผวาเลยทีเดียว

หลี่จุ่นเอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิ และกำชับเสียงเข้ม “พวกเจ้าเห็นความร้ายกาจของหน้าไม้นี้ใช่แล้วหรือไม่ ดังนั้นจงเก็บเป็นความลับให้ดี อย่าใช้มันต่อหน้าคนอื่น”

หวังเยียนหรันและจ้าวเฟยเอ๋อร์ ตอนนี้มองหลี่จุ่นด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป!

ตอนแรกก็พลุสัญญาณ ตอนนี้ก็ยังมีหน้าไม้ที่พลังร้ายกาจเช่นนี้อีก พวกนางมองดูลูกดอกที่ปักอยู่บนเสา หากว่ามันปักอยู่บนตัวคน พลังทำลายของมันจะต้องมากมายอย่างแน่นอน

ของทั้งสองอย่างนี้ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเอามาใช้ในสนามรบได้ โดยเฉพาะหน้าไม้ หากนำมาใช้ในสนามรบ จะต้องเป็นยุทโธปกรณ์ที่เอาไว้ฆ่าศัตรูได้อย่างแน่นอน

ของสิ่งนี้หากฮ่องเต้รู้เข้า ผลที่ตามมาไม่อาจคาดคิด!

ดังสุภาษิตที่ว่า ประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้มีความผิดนั้น หากในตัวมีหยกพกไว้ก็นับว่ามีความผิดแล้ว

ต่อให้หลี่จุ่นจะเป็นองค์ชาย หากไม่ทำการนำสิ่งที่คิดค้นนี้ถวายแก่ฝ่าบาท แต่กลับซ่อนเร้นอาวุธร้ายเช่นนี้เอาไว้ จะทำให้คนอื่นคิดว่าเขามีใจคิดกบฎเป็นแน่แท้!

หญิงสาวทั้งสองคนนั้น เข้าใจถึงความน่ากลัวของเรื่องนี้ได้ในทันที

เพียงแต่ว่า พวกนางเพียงคิดไม่ถึงว่าหลี่จุ่น จะสามารถคิดค้นอาวุธร้ายขนาดนี้ขึ้นมาได้

โดยเฉพาะจ้าวเฟยเอ๋อร์ ในใจของนางมองหลี่จุ่นเปลี่ยนไปในทันที!

คนที่สามารถคิดค้นเหล้ารสเลิศ ตู้เห้า คิดค้นพลุสัญญาณ และคิดค้นอาวุธร้ายกาจที่สามารถคร่าชีวิตคนได้เช่นนี้ จะเป็นคนไม่เอาไหนได้อย่างไร?

“จำเอาไว้ให้ดี สิ่งสำคัญในครั้งนี้ของพวกเราคือการร่วมมือกัน ทุกอย่างให้ฟังคำสั่งของข้า แน่นอนว่าหากพวกเจ้ามีความคิดเห็นอะไรดีๆ ก็สามารถบอกมาได้ตลอด พวกเราจะเปลี่ยนกลยุทธกันได้ตลอดเวลา” หลี่จุ่นมองหน้าทั้งสองคน และเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง

“องค์ชาย หม่อมฉันจะทำตามที่ท่านสั่งเพคะ” หวังเยียนหรันมองไปทางหลี่จุ่น แล้วเอ่ยออกมา

นัยน์ตาของนางนั้น มองออกได้เลยว่ามีความยกย่องฉายออกมา

หลี่จุ่นลูบจมูกตัวเองอย่างเก้อเขิน ก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับจ้าวเฟยเอ๋อร์

“ท่านหญิง หากท่านมีความคิดอะไรดีๆ ก็พูดมาได้เลย”

จ้าวเฟยเอ๋อร์นิ่งคิด นางลังเลสักพักก่อนเอ่ยออกมา

“หม่อมฉันไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทกับองค์ชายสี่จะมีความคิดเช่นนี้หรือไม่ แต่หากว่าเป็นไปได้ ข้าคิดว่าพวกเราควรที่จะไปรวมกลุ่มกับองค์หญิงใหญ่ ไม่ก็องค์รัชทายาท ทำให้องค์ชายสี่ตกรอบไปก่อน จากนั้นพวกเราค่อยใช้อุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้ แสดงอานุภาพที่พวกเขาคาดไม่ถึงออกมา...ให้ได้เห็นเพคะ”

โห!

หลี่จุ่นและหวังเยียนหรันมีใบหน้าที่ตกตะลึง มองจ้าวเฟยเอ๋อร์อย่างคาดไม่ถึง ว่าหญิงสาวคนนี้จะมีความคิดที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้

หวังเยียนหรันดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที นางเอ่ยออกมา

“ข้าคิดว่าความคิดนี้ของเฟยเอ๋อร์ไม่เลวเลย องค์หญิงใหญ่เหมือนจะดีกับองค์ชายอยู่มาก หากว่าองค์ชายยื่นข้อเสนอเรื่องการรวมกลุ่มกันจนผ่านสองวันแรกไปก่อนกับองค์หญิงใหญ่ ข้าคิดว่าองค์หญิงใหญ่ต้องตอบตกลงอย่างแน่นอนเพคะ”

หลี่จุ่นยิ้มออกมา “ไม่เสียทีที่เป็นท่านหญิง ความคิดนี้ไม่เลวเลย ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราลองไปคุยตกลงกับองค์หญิงใหญ่กันดู!”

องค์รัชทายาทคงไม่ยินดีที่จะร่วมกลุ่มกับคนอื่นหรอก ส่วนองค์ชายสี่ ก็คงคิดแผนการในการไปร่วมมือกับกลุ่มอื่น เพื่อให้ผ่านด่านแรกไปก่อนไม่ถึงแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน