องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 447

กระโจมจอมทัพ

หลินชิงและจางฟ่างนั่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าค่อนข้างอึมครึม

ใบหน้าของหลิวเซิ่งเต็มไปด้วยความร้อนใจ และเขากำลังเดินไปเดินมาในกระโจมราวกับว่าความโกรธของเขากำลังจะระเบิดออกเมื่อใดก็ได้

การคว้าชัยชนะทั้งหมดของหลี่จุ่นทำให้แผนการที่วางไว้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาวุ่นวายไปหมด และทำลายแผนการของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้ผู้คนในกองทัพกำลังกระจายข่าวลือว่าหลี่จุ่นเก่งกาจมาก ข่าวลือยิ่งกระจายไปมากเท่าไรก็ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือทหารจำนวนมากเริ่มยกย่องหลี่จุ่น และระดับการยกย่องนี้เกินหลินชิงไปแล้ว

โดยปกติแล้วหลินชิงเป็นคนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด แต่ในการแข่งม้าที่ผ่านมา หลี่จุ่นใช้ม้าหนึ่งตัววิ่งสามรอบ และชนะได้อย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งกดหลินชิงจนจมมิด

สายตาของพวกทหารนั้นเฉียบคม ทั้งสองประลองกันใครแข็งแกร่งและใครอ่อนแอกว่าต่างก็เห็นชัด แล้วแบบนี้จะยกย่องใครน่ะหรือ

ไม่จำเป็นต้องพูดมากเลย

“ต้องมีใครสักคนในกองทัพเป็นหัวโจกในการพูดชื่นชมเขา ไม่อย่างนั้นพวกทหารคงไม่พูดชื่นชมยกยอเขามากถึงขนาดนี้หรอก!”

ในที่สุดหลิวเซิ่งก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความโกรธ

หลินชิงและจางฟ่างไม่ได้พูดอะไร

พวกเขาไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้อยู่แล้ว!

คนในกองทัพนี่แหละที่เป็นคนนำคำชมเยินยอหลี่จุ่นไปป่าวประกาศ ถึงขนาดที่โยงไปเรื่องการรับช่วงต่อในการควบคุมอำนาจทางทหารอีกด้วย ต้องมีคนกำลังสร้างสถานการณ์อยู่แน่ ๆ

และคนที่กำลังสร้างสถานการณ์นี้ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าใคร!

นั่นก็คือจี้จงชิง!

ท่านอัครมหาเสนาบดียังไงล่ะ!

ให้พูดอีกอย่างก็คือ ก่อนหน้านี้ข่าวที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง คือหลี่จุ่นจะเข้ามารับไม้ต่อคุมอำนาจทางทหารจริง ๆ การกระทำของจี้จงชิงนั้นอธิบายทุกอย่างหมดแล้ว

ดังนั้นพวกหลินชิงทั้งสามคนจึงรู้สึกลำบากใจมากและไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี

นี่คงจะเป็นสิ่งที่ฝ่าบาทต้องการ หากฝ่าบาทต้องการให้หลี่จุ่นขึ้นครองอำนาจทางการทหาร ไม่นานต้องมีพระราชโองการตามมาอย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้นจะทำเช่นไร

ณ ตอนนี้เรื่องหลี่จุ่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะเอาชนะใจผู้คนไปแล้ว อย่างน้อยการต่อต้านของทหารที่มีต่อเขาก็ไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ ถึงขนาดพวกหัวอ่อนหลาย ๆ คนก็เริ่มคิดว่าหลี่จุ่นจะครองอำนาจทางทหารก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้...

“ก่อนที่จอมทัพจะไปก็ไว้ใจมอบอำนาจทางทหารให้กับเราสามคน หากอำนาจทางทหารนี้ถูกพรากไปจากมือของเราสามคน เป็นการยากที่จะหลบเลี่ยงความผิดนี้ได้!” จางฟ่างกล่าวเสียงต่ำ

ภายในใจรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ความไว้วางใจของทหารที่มีต่อหลี่จุ่นนั้นมีมากกว่าเมื่อก่อนมาก และไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

หลี่จุ่นแค่ทำอะไรไปไม่กี่อย่าง ทำไมเขาถึงเอาชนะใจผู้คนได้มากขนาดนี้

ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ!

“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราก็ต้องวางแผนใหม่ ถ้าราชโองการออกมาจริง เราทั้งสามจะปฏิบัติตามหรือไม่...”

หลินชิงพูดอย่างกลุ้มใจด้วยสีหน้าไร้ชีวิตชีวา

จางฟ่างรีบทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง “เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะบอกว่าเป็นความผิดของใคร มาคิดกันดีกว่าว่าจะรับมืออย่างไรดี ข้าเดาว่าพระราชโองการจะมาในไม่ช้า”

“พระ…” หลิวเซิ่งกำลังจะหลุดพูดคำหยาบอีกครั้ง

"รายงาน!"

ทว่า!

เสียงตะโกนจากด้านนอกกระโจมขัดจังหวะเขา

“เข้ามา!”

จางฟ่างพูดเสียงดังทันที

มีทหารนายหนึ่งรีบเข้ามาในกระโจมแล้วรายงานเสียงดัง

“รายงานท่านแม่ทัพทั้งสองและกุนซือ ในเมืองเกิดเรื่องประหลาดขึ้น ตอนนี้กำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก ท่านแม่ทัพทั้งสองและกุนซือ พวกท่านรีบไปดูเถอะขอรับ!”

เรื่องประหลาดอะไรกัน

พวกหลินชิงทั้งสามคนขมวดคิ้วทันที

หลินชิงถามทันที “เกิดอะไรขึ้น”

ทหารคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกัดฟันพูดว่า “เช้านี้มีชาวประมงกำลังหาปลาในแม่น้ำนอกเมือง ได้เจอศิลาเก่าแก่ที่มีอักษรโบราณสลักไว้ติดแหขึ้นมา...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน