เดี๋ยวนะ
ข้าไปวางแผนอะไรตอนไหน ?
หลี่จุ่นถึงกับนิ่งอึ้งไปทันที
จงจื่อหนิงจึงรีบเอ่ยต่อ
“ท่านจอมทัพจงใจให้ข้าอยู่ทางเหนือต่อเพื่อปราบรังโจร ที่แท้ก็มีเจตนาเช่นนี้นี่เอง กลยุทธ์นี้ของท่านทำให้ข้านับถือจริง ๆ !”
“นี่มัน...” แม้แต่หลี่จุ่นเองก็อึ้งไป
นี่มันเกี่ยวอะไรกับตัวเขาด้วยเล่า
ก็เห็นอยู่ว่าตัวจงจื่อหนิงเองนั่นแหละที่บุกไปโดยพลการ... จะพูดอะไรต้องมีหลักฐานสิ !
หลี่จุ่นมองดูสายตาที่เย็นชาของจี้จงชิง ในใจก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าจงจื่อหนิงผู้นี้กำลังใส่ร้ายทำให้เขาต้องแปดเปื้อน !
ครั้นเมื่อหลี่จุ่นกำลังจะเอ่ยปากแย้ง จงจื่อหนิงกลับถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น
“ทว่าท่านจอมพล ข้ายังตามหาตัวแม่นางเสิ่นไม่พบ ขอท่านอย่าได้ถือโทษข้าเลย !”
เมื่อเอ่ยถึงเสิ่นจิงหง ภายในใจของหลี่จุ่นก็หนักอึ้งขึ้นมา
เจ้าเด็กบื้อนี่ หรือจะกลับไปสู่วังหลวงแล้วปล้นคุกหลวงแล้วจริง ๆ
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แย่ละสิ !
“นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน อย่าได้โทษตัวเองไปเลย”
หลี่จุ่นส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ
จากนั้นเขาก็มองไปยังจี้จงชิงแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านอัครมหาเสนาบดีจี้ รบกวนท่านช่วยส่งจดหมายแจ้งไปยังไท่ฟู่ด้วย บอกว่าเสิ่นจิงหงมิได้อยู่ทางเหนือ”
เมื่อพูดถึงเรื่องของเสิ่นจิงหง จี้จงชิงก็พยักหน้ารับทันที
เรี่องที่เสิ่นจิงหงอาจจะกลับเมืองหลวงไปปล้นคุกหลวง เขาเองก็ได้ยินมาเช่นกัน จึงสั่งการลงไปทันที
หากเสิ่นจิงหงไปปล้นคุกหลวงจริง ๆ เช่นนั้นก็ต้องแย่แน่ ๆ ถึงตอนนั้นต่อให้เสิ่นคั่วคิดอยากจะช่วยลูกสาวของตนเองก็คงยากเสียแล้ว
แต่สิ่งที่หลี่จุ่นกังวลก็คือ หลี่เจิ้งจะใช้เสิ่นจิงหงในการบีบบังคับตน ถึงตอนนั้นคงแย่แน่!
ด้วยเหตุนี้ ต้องหยุดยั้งการที่นางจะปล้นคุกหลวงให้ได้
เมื่อคำนวณเวลาแล้ว เสิ่นเลี่ยน่าจะกลับถึงเมืองหลวงแล้ว เพราะเขาใช้ม้าเร็วเร่งฝีเท้าไปยังเมืองหลวงโดยไม่หยุดพัก
ในใจของหลี่จุ่นนึกคลายกังวลขึ้นได้อีกหน่อย
ขอแค่เสิ่นเลี่ยกลับไปได้ทันแล้วบอกกับเสิ่นคั่ว ด้วยความสามารถของเสิ่นคั่ว การจะตามหาตัวเสิ่นจิงหงที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงนั้นคงหาได้ไม่ยาก
เมื่อกลับสู่ค่ายทหาร
หลี่จุ่นก็เรียกตัวจงจื่อหนิงมา ถามความเป็นมาที่แม่ทัพหนุ่มประสบระหว่างอยู่ทางเหนือ เมื่อคุยกันจนถึงว่าเอาชนะทัพเฟิงเฉวี่ยนห้าหมื่นนายได้อย่างไรบ้าง หลี่จุ่นก็ถึงกับเหงื่อตกเช่นกัน
“ฉายาหรือ ?” จงจื่อหนิงนิ่งอึ้งไป หากแต่สีหน้านั้นเห็นได้ว่ายินดี
“อืม ข้าเคยอ่านในคัมภีร์โบราณ ในสมัยก่อนหน้านี้ คนโบราณจะมีชื่อสกุลกับอักขระ วันหน้าท่านจงใช้แซ่จง มีนามว่าจื่อหนิง มีอักขระว่าจื่อหลงแล้วกัน” หลี่จุ่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“อักขระคืออันใดหรือ” จงจื่อหนิงตกใจเป็นอย่างมาก
หลี่จุ่นจึงเอ่ยตอบ “เอาเป็นว่าก็ดูตามฉายาแล้วกัน”
ใช่แล้ว คนโบราณในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอักขระ
“จงจื่อหลง ?” จงจื่อหนิงพึมพำอยู่กับฉายานี้ของตน พลันก็รู้สึกว่าเป็นชื่อที่เยี่ยมยอดมากแม้ไม่รู้ที่มา
หลี่จุ่นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “วันหน้า ท่านไปยืนประจันหน้ากับทัพศัตรู สวมเกราะสีเงิน ขี่ม้าสีขาว มือถือทวนยาว ประกาศศักดาด้วยฉายาของท่านว่า ‘ข้าคือจงจื่อหลงแห่งชายแดนเหนือ !’ ได้เลย”
“ข้าคือจงจื่อหลงแห่งชายแดนเหนือ !”
จงจื่อหนิงเลียนแบบอีกฝ่ายทันที ทันใดก็รู้สึกว่าตนเองเก่งกล้าเหนือใคร แม้แต่แววตาของตนยังมีแสงเปล่งประกายออกมา
หลี่จุ่นหัวเราแหะ ๆ แล้วก็รู้สึกขึ้นมาว่า... ช่างน่ากระอักกระอ่วนอะไรเช่นนี้ !
ช่างดูเหมือนเด็กน้อยเสียเหลือเกิน
พอทำตามความกวนประสาทของตนเองได้ดั่งใจแล้ว หลี่จุ่นก็รีบเปลี่ยนประเด็นทันที
“หากนับตามจำนวนกองโจรที่ท่านกำจัดมาแล้ว ตอนนี้เขาเฟิงโหยวน่าจะมีจำนวนคนถึงหนึ่งหมื่นคนแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...