เมื่อได้ยินแม่ทักทุกคนจ่างวิพากษ์วิจารณ์กัน ซือหม่าชิงอวิ๋นก็มองทุกคนทีหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ก่อนหน้านี้ข้าสั่งให้หน่วยตรวจตราที่คุ้มกันอยู่ที่ด่านเฟิงเป่ยกลับไปป้องกันยังทางที่ต้องผ่านของชายแดนเหนือ หากหัวแรงหลักของกองทัพพิทักษ์อุดรนั่นกลับไปป้องกัน ข้าก็จะได้รับข่าว ตอนนี้ยังไม่ได้รับข่าวใด ๆ กลับมา เป็นไปได้มากว่าโจรจี้นั่นละทิ้งเมืองเฟิงหั่วนี่ไปชั่วคราวจริง ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว”
ซือหม่าชิงอวิ๋นชะงัก มือใหญ่ ๆ โบก ก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มอย่างเย็นชา
“เอาละ รีบส่งคนไปกวาดล้างเมืองศัตรู ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ทัพแคว้นเยียนของเราจะบุกเข้ายึดเมืองเฟิงหั่วในตอนสองยาม! และปักธงของทัพแคว้นเยียนเราบนกำแพงเมือง!”
ไม่ว่าจะเป็นกับดักหรือไม่ คืนนี้เขาซือหม่าชิงอวิ๋นจะต้องบุกเข้ายึดเมืองเฟิงหั่วให้ได้!
ไม่นาน
ยอดฝีมือด้านวรยุทธ์ที่อยู่ในทัพแคว้นเยียนกลุ่มหนึ่ง ก็เข้าไปสำรวจภายในเมืองเฟิ่งหัวด้วยความรวดเร็ว ผ่านไปครึ่งชั่วยามก็กลับออกมาอีกครั้ง
หลังสองยาม ทัพแคว้นเยียนเจ็ดหมื่นนายก็บุกเข้ายึดเมืองเฟิงหั่ว
บนกำแพงเมืองเฟิงหั่ว ธงของทัพแคว้นเยียนพริ้วไหว
เวลาเที่ยงของวันต่อมา ข่าวนี้ก็แพร่สะพัดมาถึงบนเขาเฟิงโหยว
เมื่อหลี่จุ่นได้ยิน ก็พลันหัวเราะก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“เยี่ยมไปเลยซือหม่าชิงอวิ๋น พอเข้าไปก็อดไม่ได้ที่จะต้องปักธงของทัพแคว้นเยียนเลย ช่างกล้าดีจริง ๆ ! แต่ว่านี่ก็เป็นได้แค่เรื่องตลกเท่านั้น! เจ้าซือหม่าชิงอวิ๋น ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ด้วยตัวตนของผู้พ่ายแพ้ เป็นตัวประกอบของข้า!”
หลี่จุ่นเรียกห้าผู้นำแห่งเขาเฟิงโหยวและจูเหล่าซานมา ก่อนจะรีบพูดสั่งว่า
“ขอสั่งให้ทุกคน ออกเดินทางพร้อมอาวุธครบมือ เคลื่อนทัพไปยังเมืองเฟิงหั่ว!”
เมื่อผู้นำสามและผู้นำห้าแห่งเขาเฟิงโหยวได้ยินดังนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปในทันใด!
จะทำศึกอีกแล้วหรือ?
พวกเขาต่างรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ไปทั้งตัวขึ้นมาในทันใด
ทว่า
จูเหล่าซานกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ขอรับ ท่านจอมทัพ!”
จูเหล่าซานใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ได้รับความรู้สึกดี ๆ จากหลี่จุ่นได้สำเร็จอีกครั้ง!
ผู้นำสามมองจูเหล่าซานทีหนึ่ง
เขารู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก เจ้าหมอนี่เร็วกว่าเขาอยู่ทุกครั้งมันร่ำไป
“เอาละ ให้เวลาพวกเจ้าครึ่งชั่วยาม จะออกเดินทางในอีกครึ่งชั่วยาม!” หลี่จุ่นเอ่ย
“ขอรับ!”
ผู้นำสามและจูเหล่าซานรีบเอ่ยขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน
ผู้นำห้าแพร่คำพูดของหลี่จุ่นไปให้พวกผู้นำใหญ่ทั้งสามคนได้ฟัง ผู้นำใหญ่และผู้นำรองต่างรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ไปทั้งตัวขึ้นมาในทันใด
ถึงอย่างไร คนผู้นี้ก็เป็นถึงอ๋องน้อย ยิ่งอ๋องน้อยเก่งกาจมากขึ้นเท่าไร อนาคตลัทธิเทียนซานของพวกเขาก็ยิ่งรุ่งโรจน์
แน่นอนว่าก่อนอื่นต้องให้เขาเข้าร่วมลัทธิเทียนซานเสียก่อน
จนถึงตอนนี้ เจ้าหมอนี่ราวกับไม่สนใจลัทธิเทียนซานเลย เขายินยอมถูกหลี่เจิ้งควบคุมเพื่อต่อลมหายใจ แต่ก็ไม่ยอมบากหน้าเข้าไปหาลัทธิเทียนซาน นี่ช่างน่าปวดเศียรเวียนเกล้าจริง ๆ
ทั้งสองคนกำลงพูดคุยกันอยู่ จู่ ๆ เงาร่างของผู้นำสี่ก็ปรากฏขึ้นตรงประตู
ผู้นำสี่กำลังถือเสื้อผ้าที่ซักเรียบร้อยแล้วและพับเอาไว้เป็นอย่างดีอยู่ในมือ นั่นเป็นเสื้อผ้าที่หลี่จุ่นถอดไปซัก ผู้นำสี่เป็นคนหยิบนำไปซัก ตอนนี้คงจะซักเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นผู้นำสี่ หลี่จุ่นก็รีบรุดหน้าขึ้นมา ยื่นสองมือไปรับ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ขอบคุณ!”
“ไม่ ไม่เป็นไร...”
ผู้นำสี่พยายามพูดสามคำนี้ให้ถูกต้อง จากนั้นนางก็มองไปที่หลี่จุ่น นัยน์ตาซับซ้อน สุดท้ายก็ประกายความเศร้าสลดและความผิดหวังออกมา ก่อนจะเบือนสายตา แล้วส่งเสื้อผ้าไปให้หลี่จุ่น
หลี่จุ่นเผยอปาก ก่อนจะรับเสื้อผ้ามา พลางมองไปที่ผู้นำสี่
เขาอยากจะถามว่านางชื่อแซ่อะไร ก่อนจะตระหนักได้ว่านางฟังภาษาราชวงศ์อู่ไม่ออก และตัวเองก็ไม่เข้าใจภาษาเฟิงเฉวี่ยนเช่นกัน
“เฮ้อ”
หลี่จุ่นพลันลอบถอนหายใจในใจ จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายดั่งด้ายพันกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...