องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 703

ณ เมืองหลวง

พระราชวัง สวนดอกไม้ด้านหลัง

ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงอาทิตย์สว่างจ้า

หวังเหลียนถือกล่องอาหารปลาพลางก้มหน้าเล็กน้อย เขายืนอยู่ด้านข้างอย่างนอบน้อม

หลี่เจิ้งอยู่ในชุดผาวลายมังกรลำลองสีเหลืองสดใส เขาค่อย ๆ บี้อาหารปลาก่อนจะโยนลงไปในสระ ชื่นชมปลาหลากหลายสีสันแย่งกันกินอาหาร พลางเอ่ยขึ้นว่า

“หัวหน้าขันทีหวัง วันนี้น่าจะเป็นวันครีษมายัน¹แล้วใช่หรือไม่?”

หวังเหลียนรีบก้มหน้าพลางเอ่ยขึ้นว่า “ทูลฝ่าบาท ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ วันนี้ก็คือวันครีษมายัน”

หลี่เจิ้งพยักหน้า ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ เฮือกหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ในที่สุดก็เป็นวันครีษมาบันแล้ว เช่นนั้นน้ำในแม่น้ำต้าเฉินก็คงจะขึ้นแล้ว”

หวังเหลียนรู้ดีว่าหลี่เจิ้งกำลังเป็นกังวลเรื่องอะไร เขาจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า

“กระแสน้ำขึ้นนี้ อีกไม่นานเกินรอแล้วพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าเมื่อคืนน้ำเอ่อขึ้นที่คูเมืองนอกเมืองแล้ว วันนี้กระหม่อมเจอกับใต้เท้าจางที่คุ้มกันเมืองผู้นั้นนอกวัง ใต้เท้าจางบอกว่าจะไปเปิดประตูน้ำพ่ะย่ะค่ะ”

ทางคูเมืองเป็นกระแสน้ำที่ไหลมาจากทางตะวันออก มีขึ้นและมีลง

หลี่เจิ้งพยักหน้า ก่อนจะถามขึ้นว่า “อาการบาดเจ็บของไท่ฟู่เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ทูลฝ่าบาท ไท่ฟู่ฟื้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ หมอหลวงบอกว่าเพียงแค่พักรักษาตัวให้ดี ก็ไม่เป็นอะไรมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หวังเหลียนรีบทูล

ตอนเช้าเขาได้รับคำสั่งจากหลี่เจิ้งให้ไปดูเสิ่นคั่ว ทราบอาการป่วยอย่างละเอียดมาจากหมอหลวง

หลี่เจิ่งถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“หัวหน้าขันทีหวัง เจ้าว่าข้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือว่าจะตรวจสอบอย่างละเอียดดีเล่า บุตรสาวของไท่ฟู่ผู้นี้ทำให้ข้าลำบากใจจริง ๆ”

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคุกหลวงคืนนั้น หลี่เจิ้งย่อมรู้ดีอยู่แล้ว

แม้เสิ้นคั่วตาแก่หนังเหนียวนั่นจะสั่งให้หน่วยข่าวลับทำลายร่องรอยจนเกลี้ยงก่อนที่เขาจะเป็นลมไป เพื่อลบล้างข้อสงสัยในตัวลูกสาวของตนแล้วก็ตาม แต่เขาเป็นถึงจักรพรรดิ เคยจัดการหน่วยข่าวลับมาก่อน เขาเองก็ย่อมรู้ได้อยู่แล้ว

ในชั่วขณะหวังเหลียนไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี

อยากบอกว่าฝ่าบาทไปตรวจสอบให้กระจ่างเถิด เสิ่นไท่ฟู่ผู้นั้นก็ให้หน่วยข่าวลับจัดการไปเรียบร้อยแล้ว ยังจะตรวจสอบหลักฐานรายละเอียดอะไรออกมาได้ที่ไหนอีก?

ตรวจสอบออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน

ฉะนั้น ที่ฝ่าบาทคิดจะให้คนไปตรวจสอบให้กระจ่าง ก็คงเป็นไปไม่ได้

แต่คืนนั้นจวนของอวี่เหวินไท่ซือเองก็เจอการบุกรุกของพวกโจรเช่นกัน หากวันนั้นเย่หงไปเป็นแขกอยู่ที่จวนของไท่ซือ เกรงว่าอวี่เหวินไท่ซือก็คงถูกพวกโจรนั่น...

ด้วยเหตุนี้ ฝ่าบาทก็เพียงแค่ปลอบขวัญไท่ซือเท่านั้น

ฎีกาที่วางอยู่บนโต๊ะ วางซ้อนกันเป็นกอง

ในระยะนี้มีการพูดถึงเรื่องโจรทางชายแดนตะวันตกขึ้นอีกครั้ง วันนี้ก็มีเจ็ดแปดฎีกาแล้ว

หลี่เจิ้งหยิบฎีกาหนึ่งในนั้นขึ้นมา ก็เป็นของผู้ว่าการแห่งเหยียนโจวที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ที่ถวายขึ้นมา เขาพลันลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

ผ่านไปนานสองนาน นัยน์ตาเผยความเย่อหยิ่งออกมา เขาพูดกับตัวเองว่า

“คิดว่าข้าไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนกวนหาเรื่องจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?! ไอ้สารเลวเอ้ย ในเมื่อคิดจะกวนหาเรื่อง เช่นนั้นข้าก็จะดูสิว่า จะกวนหาเรื่องไปได้ถึงขั้นไหนกันเชียว?!”

เขานั่งลงแล้วเริ่มเปิดอ่านฎีกา!

ถึงเวลาที่จะจัดการโจรทางชายแดนตะวันตกนี่แล้ว แต่จะให้ผู้ใดไปจัดการดีล่ะ?

ในใจของหลี่เจิ้งมีคำตอบแล้ว

เมื่อเขาอ่านฎีกาจบ หลี่เจิ้งก็เริ่มร่างพระราชโองการรับสั่งโดยละเอียดส่งไปให้สำนักส่วนกลางหนึ่งฉบับ

เนื้อความเขียนเอาไว้ว่า

องค์ชายหกหลี่จุ่น ป้องกันชายแดนเหนือมีคุณงามความดี สร้างคุณูปการด้านการทำศึกจนเลื่องชื่อ ค้ำชูเดชานุภาพแห่งราชวงศ์อู่ของเรา จึงตบรางวัลพิเศษพระราชทานเมืองหลินซุ่นให้เป็นศักดินาที่ดิน...

¹ ครีษมายัน คือ วันที่กลางวันยาวนานที่สุดและกลางคืนสั้นที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน