องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 713

ทัพแคว้นเยียนยอมจำนนแล้ว

เรื่องศึกทางเหนือจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์จริง ๆ แล้ว

แต่ทว่า

จะจัดการทัพแคว้นเยียนหนึ่งหมื่นนายที่ยอมจำนนแล้วอย่างไร ยังเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก

หลี่จุ่นเองก็ไม่อยากปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ เช่นนี้จริง ๆ หากปล่อยไปแบบนี้ วันหน้าต้องหวนกลับมาใหม่แน่นอน

ลมวสันต์จะพัดโบกปลุกชีวิตฟื้นคืนเช่นนี้ จะใช้ได้ได้อย่างไรกัน?

วิธีที่ดีที่สุดก็คือจัดการทิ้งจริง ๆ แบบลำบากแค่ครั้งเดียวแต่สบายตลอดไป

หนึ่งไม่สนใจทางเมืองหลวง แล้วเด็ดหัวฆ่าทิ้งไปเลย

สองคือเลือกที่จะตัดเอ็นข้อมือของพวกเขา ให้พวกเขายังพอที่จะดำรงชีพได้ แต่ไม่สามารถจับดาบได้

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยทำมาแล้ว

ด้วยทักษะการแพทย์ของโลกนี้ หากเอ็นข้อมือขาดแล้ว นอกจากจะกัดฟันต่อเข้าด้วยกัน ไม่อย่างนั้นก็ต้องพิการไปอย่างนี้

แม้นี่ก็ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ก็ดีกว่าฆ่าคนเหล่านี้ทิ้งไปเลยอยู่เล็กน้อย

เช่นนั้น ในภายภาคหน้าก็จะไม่เห็นคนเหล่านี้อยู่ในสนามรบอีก

แต่ทว่า...

หลี่จุ่นครุ่นคิดอย่างละเอียด

คนเหล่านี้คงไม่ลงมาในสนามรบแล้ว แต่ว่าพวกเขาต้องแค้นเป็นแน่ ฉะนั้นหากคลอดลูกกันอย่างไม่ขาดสาย เหล่าลูก ๆ ของคนสารเลวพวกนี้ในอีกสิบแปดปีข้างหน้าจะหวนกลับมาใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน

หรือว่าตัวเขาต้องทำการผ่าตัดทำหมันให้พวกเขาอย่างเหี้ยมโหด?

แต่นี่คนตั้งหนึ่งหมื่นคนเลยนะ...

หลี่จุ่นครุ่นคิดอยู่ในกระโจมจอมทัพทั้งเช้า ท้ายที่สุดก็ยังคิดวิธีดี ๆ ไม่ออก

ฆ่าคนเหล่านี้ไปเลยเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่มันก็ดูชั่วร้ายเกินไป นอกจากนี้ราวกับมีเพียงแค่ต้องส่งต่อให้หลี่เจิ้ง ให้เขารีดไถแคว้นเยียน ให้แคว้นเยียนเสียหายหนัก ๆ ทำให้ภายในเวลาสั้น ๆ อีกฝ่ายไม่สามารถเข้าร่วมทำสงครามได้อีก

“เฮ้อ ช่างเถอะ ข้าฆ่าซือหม่าชิงอวิ๋นเพื่อระบายความโกรธก็พอแล้ว”

หลี่จุ่นลอบคิด

เขาอยากจะตัดหัวของซือหม่าชิงอวิ๋นต่อหน้าเหล่าทหารและแม่ทัพทุกคน เพื่อปลอบประโลมวิญญาณของเหล่าทหารและแม่ทัพที่ตายในสนามรบที่อยู่บนสวรรค์

ท้ายที่สุดแล้วตัวการตัวจริงของสงครามก็คือพวกขุนนางบริหารบ้านเมืองเหล่านั้น

และซือหม่าชิงอวิ๋นก็เป็นดาบเล่มหนึ่งที่อยู่ในมือของขุนนางบริหารบ้านเมืองแห่งแคว้นเยียน ไม่ว่าอย่างไรดาบเล่มนี้ก็ต้องทำลายให้สิ้น สุดท้ายเรื่องที่จะไปคิดบัญชีกับขุนนางบริหารบ้านเมืองเหล่านั้น ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องให้หลี่เจิ้งผู้ซึ่งเป็นขุนนางบริหารบ้านเมืองเช่นเดียวกันออกมือ

แม้แต่ทักษะที่ตัวเองคิดว่ายอดเยี่ยมมาตลอด ก็ยังสู้เจ้าเด็กคนนี้ไม่ได้

ตอนนี้วรยุทธ์ด้านฝีปาก ก็ยิ่งสู้ไม่ได้ไปกันใหญ่

เจ้าเด็กคนนี้...หน้าหนาสุด ๆ

สู้ไม่ได้เลยสักนิด

“อืม พ่อหนุ่ม มานี่สิ!”

หลี่จุ่นกระดิกนิ้วไปทางเฟิงเฉวี่ยนอ๋อง สีหน้าของเฟิงเฉวี่ยนอ๋องพลันเต็มไปด้วยความกลัวจนกัดฟันแล้วถอยหลัง

หลี่จุ่นขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ข้าไม่พูดจาเพ้อเจ้อกับเจ้า มีสองทางให้เจ้าเลือก หนึ่งคือพาคนของเจ้ากลับไปยังแคว้นเฟิงเฉวี่ยนเดี๋ยวนี้ จากนั้นแคว้นเฟิงเฉวี่ยนก็จะกลายเป็นเมืองขึ้นของราชวงศ์อู่ และกลายเป็นมณฑลที่สิบของราชวงศ์อู่ สองคือยกเจ้าให้เป็นหน้าที่ของผู้เฒ่าเหล่านี้แล้วฟังการจัดการจากพวกเขา ตอนนี้เจ้าต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง!”

หากเขายอมตกลง เช่นนั้นที่นี่ก็สามารถเรียกได้ว่าเป่ยโจว และสามารถให้พวกเขาบริหารจัดการกันเองได้เลย กลายเป็นมณฑลปกครองตนเอง

เมื่อเฟิงเฉวี่ยนอ๋องได้ยินดังนั้น สีหน้าก็พลันขาวซีด รีบกัดฟันก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ข้า ข้า ข้าอยากพบเสด็จแม่...”

หลี่จุ่นแสยะยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้นว่า “เข้าเป็นไอ้โง่ดักดานหรือ? เสด็จแม่ของเจ้าคือผู้หญิงของข้า ต่อไปนางก็เป็นคนของข้าแล้ว เรื่องของเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับนาง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน