ซือหม่าหยวนยังคงเผยให้เห็นรอยยิ้มบนหน้า จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า
“เรื่องนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวล มีคนที่กังวลใจมากกว่าพวกเราอีก ซือหม่าไท่กงคงจะเป็นคนแรกที่ต้องการให้เหล่านักรบที่อยู่ชายแดนเหนือกลับมาโดยเร็ว แต่ว่า…”
ซือหม่าหยวนนิ่งไปชั่วครู่
นึกถึงภาพเหล่านักรบกลุ่มนั้นที่ถูกตัดเส้นเอนมือกลับมา จึงยิ้มขึ้นและพลางเอ่ยช้าๆว่า
“แม้จะกลับมา เกรงว่าคงไร้ประโยชน์แล้ว”
สีหน้าอ่อนโยนของซือหม่าหยวน ซ่อนเร้นแววตาอันล้ำลึกสุดขีด!
จากนี้ไป…แคว้นเยียนจะมีแค่ซือหม่าหยวนผู้เดียวเท่านั้น ไม่มีตระกูลซือหม่าอีกต่อไป!
……
ชายแดนเหนือ
ตัดหัวอาหลานซือหม่าชิงอวิ๋นต่อหน้าฝูงชน เรียกได้ว่าได้ใจทุกคนเต็มๆ
เหล่าทหารในกองทัพต่างรู้สึกเคารพยกย่องหลี่จุ่นมากยิ่งขึ้น
แต่ว่า เรื่องนี้ทำให้จี้จงชิงลำบากใจไม่น้อย
ตอนแรกคิดไว้ว่าจะใช้อาหลานซือหม่าชิงอวิ๋น ทำให้แคว้นเยียนยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้เห็นทีคงจะต้องตัดราคาลดลงไม่น้อย
ถึงอย่างไรก็ไม่มีหนทางอย่างอื่น เพราะไหนๆหลี่จุ่นก็ได้ฆ่าคนทิ้งไปแล้ว
จดหมายจากหลี่เจิ้งและเหล่าขุนนางในราชสำนักก็ได้ส่งมาถึงแล้ว เสนอให้แคว้นเยียนใช้ห้าสิบล้านตำลึงเงินแลกกับกองทัพหนึ่งแสนคนเหล่านี้ นอกจากนี้แล้วศรีษะของอาหลานซือหม่าชิงอวิ๋นจะต้องจ่ายเพิ่มอีกต่างหาก หนึ่งคนต่อหนึ่งล้านและห้าพันตัวม้ารบ!
หนึ่งล้านเทียบกับห้าสิบล้านถือว่าไม่เยอะและไม่น้อย กำลังเหมาะแก่การรีดไถ่!
ถ้ายอมจ่ายห้าสิบล้าน ส่วนอีกสองล้านก็คงจะไม่คิดเสียดาย
แต่ว่า อาหลานทั้งสองได้ถูกตัดหัวไปแล้ว…
เมื่อความมืดใกล้เข้ามา
ด้านในกระโจม
จี้จงชิงกำลังเดินหมากรุกอยู่กับหลี่จุ่น
จี้จงชิงมีประสบการการณ์เดินหมากมานาน จึงทำให้หลี่จุ่นรู้สึกลำบากใจ
ฉะนั้นหลี่จุ่นจึงเริ่มคิดแผนอุบาย งัดกฎเกณฑ์ที่แปลกประหลาดออกมาใช้ ทำให้จี้จงชิงต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
“เฮงซวยจริงๆ กฎเกณฑ์หมากรุกประเภทนี้มีเยอะเหลือเกิน ข้าอุตส่าห์ฝึกฝนมาได้อย่างยากลำบาก ตอนนี้กลับมีกฎใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีก ข้าชักจะสงสัยว่าท่านกำลังหลอกข้าอยู่หรือเปล่า?!”
จี้จงชิงโมโหจนเกือบจะคว่ำกระดานหมากรุก
“จริงด้วยท่านจอมทัพ เมื่อไหร่ข่าวสารถึงจะส่งมาหรือ?”
จี้จงชิงเอ่ยถามอย่างไม่ได้คิดอะไร “คาดว่าโจวชิงน่าจะได้รับจดหมายแล้ว หลักการเน้นความรวดเร็วของทหารจอมทัพน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี เกรงว่าถ้าเชื่องช้าอาจจะไม่ทันการณ์ ”
จี้จงชิงรู้สึกสงสัย สองวันนี้หลี่จุ่นใช้ชีวิตอย่างสบายใจ ดูไม่รีบร้อนเลยสักนิด แต่เขากลับรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก
เจ้าหนุ่มผู้นี้มักพูดเสมอว่าโอกาสผ่านไปก็จะหายวับ แล้วหลักการเน้นความรวดเร็วของทหารเขาไม่เข้าใจหรือ?
ทำไมถึงไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจบ้างเลยล่ะ?
หลี่จุ่นจ้องมองจี้จงชิงที่กำลังรู้สึกลังเลใจว่าจะเดินทหารหรือเดินม้า จึงแอบหัวเราะอย่างไม่มีเสียง และเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า
“ไม่มีข่าวสารส่งมา ถ้าข้าร้อนใจแล้วข่าวสารจะส่งมาทันทีงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แล้วจะให้ข้ากลุ้มใจให้เหนื่อยเปล่าทำไม? ”
เช่นนี้…
จี้จงชิงปิดปากไม่พูดไม่จา
เขากังวลว่าเจ้าหนุ่มนี้จะไม่ตั้งอกตั้งใจเต็มที่ เฝ้าแต่จะอยู่ที่ชายแดนเหนือ…ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็คงต้องแย่แน่ๆ?
แม้เจ้าหนุ่มนี้จะบอกว่าได้วางแผนไว้แล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย!
จี้จงชิงจึงอดเป็นกังวลไม่ได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...