องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 728

ยามรัตติกาล

ในที่สุดข่าวของเจ้าอ้วนหลิวก็ถูกส่งมาถึงเสียที !

หลี่จุ่นที่กำลังเตรียมตัวนอนก็ได้ยินเสียงหน่วยสอดแนมที่รีบรุดกลับมารายงาน จึงกล่าวขึ้นด้วยความยินดีขึ้นยิ่งนัก

“ดี ช่างดีเหลือเกิน ! ข้าอยากจะเห็นนักว่าโจวชิงผู้นี้จะยอมสู้ตายในสนามรบหรือถอยหนีไปกันแน่ ?”

ตอนที่เจ้าอ้วนหลิวไปโยนระเบิดย่อมต้องถูกขัดขวางอยู่ไม่น้อย

ทว่า อุปสรรคนั้นมิได้มาจากลัทธิเทียนซาน หากแต่มาจากกองทัพแห่งแคว้นฉู่ !

โจวชิงผู้นั้นเป็นผู้นำที่เก่งกล้าจริง เขารู้ถึงความสำคัญของช่องแคบหนึ่งเส้นฟ้า จึงสั่งให้กองกำลังสองพันนายตั้งฐานทัพประจำการอยู่ที่นั่น

เพียงแต่น่าเสียดายที่เจ้าอ้วนหลิวมุ่งตรงไปขอกำลังเสริมจากลัทธิเทียนซานด้วยตนเอง เมื่อเปิดเผยสถานะของหลี่จุ่นและป้ายคำสั่งของหม่าหยวนฮั่นแล้วก็ร่วมมือกับลัทธิเทียนซาน ระเบิดช่องแคบหนึ่งเส้นฟ้าทิ้งไปอย่างเงียบ ๆ !

คิดว่าตอนนี้โจวชิงผู้นั้นก็น่าจะได้ข่าวนี้แล้วเช่นกัน

แต่ก็ไร้ประโยชน์เสียแล้วละ

หลี่จุ่นไม่กลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น

เพราะงูได้ถูกต้อนจนมุมไร้ซึ่งทางหนีแล้ว !

จากนั้น หลี่จุ่นก็โบกมือเป็นสัญญาณเรียกองครักษ์ที่นอกกระโจมเข้ามาแล้วกำชับงาน

“รีบไปรายงานแก่อัครมหาเสนาบดีจี้ทันที ให้ทัพใหญ่พักในวันพรุ่งนี้ และรีบเคลื่อนทัพออกในคืนพรุ่งนี้ทันที !”

ครั้นเมื่อฟังจบ ทหารองครักษ์ก็รีบวิ่งออกไปตามคำสั่งทันที

ในช่วงเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น จี้จงชิงก็รีบรุดมาหาหลี่จุ่นแต่เช้า

เมื่อเข้ามาภายในกระโจมแล้ว อัครเสนาบดีผู้ปราดเปรื่องจึงเอ่ยถามขึ้น “ท่านจอมทัพ ได้ยินว่ามีข่าวมาแล้วหรือ ? นี่เราทำเรื่องอันใดลงไปกันแน่ ?”

หลี่จุ่นที่เพิ่งเช็ดหน้าเสร็จจึงแขวนผ้าเช็ดหน้าบนราวแขวนก่อนจะเดินยิ้มมายืนตรงหน้าแล้วเอ่ยตอบ

“ท่านอัครมหาเสนาบดีจี้ยังจำที่ข้าเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ว่า หากการศึกชายแดนเหนือสามารถจบได้ก่อนกำหนด ข้าจะทำให้ทัพใหญ่นับแสนกว่านายของโจวชิงผู้นั้นแม้ยกทัพมาได้ก็ไม่อาจกลับไปได้ ! ท่านอัครมหาเสนาบดีจี้คงรู้ใช่หรือไม่ว่าต้องทำเช่นใด พวกเขาจึงไม่อาจกลับไปได้อีก ?”

จี้จงชิงฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจนัก จึงเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าสงสัยโดยไม่ต้องคิดให้มากความ

“แน่นอนว่าต้องทำให้ทัพใหญ่ของเขาตายราบเป็นหน้ากลอง เช่นนี้คนพวกนั้นก็ไม่อาจมีชีวิตกลับไปได้อีก แต่โจวชิงผู้นั้นมิใช่คนธรรมดาทั่วไป หากต้องการกำจัดทัพใหญ่ของเขามันมิใช่เรื่องง่ายนักมิใช่หรือ ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่จุ่นหัวเราะและถามกลับทันที “เช่นนั้นท่านอัครมหาเสนาบดีจี้คิดว่าต้องทำเช่นไรจึงจะกำจัดทัพใหญ่ของเขาได้หมดสิ้นเล่า ?”

จี้จงชิงขมวดคิ้วครุ่นคิด

แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรเล่า ?

หากเขารู้คงจัดการโจวชิงไปได้นานแล้ว ไม่ต้องมานั่งกังวลอยู่ตรงนี้หรอก

หลี่จุ่นส่ายหัว ชายหนุ่มเองก็ไม่คิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก จึงชี้ไปยังช่องแคบหนึ่งเส้นฟ้าแล้วเอ่ยขึ้น

“ท่านอัครมหาเสนาบดีรู้หรือไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ใด ?”

จี้จงชิงพยักหน้า ดวงตาของเขาหรี่เล็กลงแล้วจึงเอ่ย

นี่หลี่จุ่นกำลังตัดหนทางถอยหนีของอีกฝ่ายจนหมดสิ้นเชียวนะ !

ช่างไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ...

เป็นเช่นนี้จริง ๆ เสียด้วย

เจ้าเด็กแสบนี่น่ากลัวเกินไปแล้ว

หมากแต่ละก้าวที่เดินไปล้วนเล่นงานศัตรูได้ถึงชีวิต

แค่นึกถึงตอนที่สู้กับฮูเถี่ยถูและซือหม่าชิงอวิ๋นก็รู้ได้แล้ว

ช่างเป็นบุคคลที่น่ากลัวเสียจริง...

เขาอยู่มาจนปูนนี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดความกลัวที่มากกว่าปกติต่อหลี่จุ่น

“ข้าทำลายทางที่จะถอยทัพของโจวชิงผู้นี้ทิ้ง แล้วค่อยส่งกำลังพลหนึ่งแสนนายร่วมมือกับทัพใหญ่ของเหยียนอ๋องผู้เฒ่าอีกแสนกว่านาย เข้าสู้กับทัพของเขาที่มีกำลังพลอยู่แสนกว่านาย เช่นนี้โจวชิงนั่นจะยังมีโอกาสชนะได้อีกหรือ ?”

หลี่จุ่นยิ้มเยาะขึ้นทันที

โจวชิงถูกทำลายหนทางที่จะถอยทัพหนีได้ไปแล้ว ต่อให้มีประสบการณ์โชกโชนหรือตั้งสติรับมือได้ดีมากเพียงใด ก็ไม่อาจอยู่เฉยแล้วรับมือได้แน่นอน

เพราะอีกฝ่ายไร้ซึ่งทางหนีทีไล่เสียแล้ว เมื่อไม่อาจถอยหนีได้จะเกิดอะไรขึ้นเล่า ?

สิ่งที่ต้องเจอก็มีแต่ความตายน่ะสิ !

หากไม่อาจจบการสู้รบได้ก่อนที่เสบียงจะหมดสิ้นแล้วกลับสู่แคว้นฉู่ เช่นนั้นก็มีแต่ต้องเผชิญหน้ากับความตายเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน