องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 76

เมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่จุ่นกล่าว หลี่จงและหลี่เฉียนก็พลันยิ้มเยาะเย้ยอย่างได้ใจทันที องค์รัชทายาทก็กลอกตาด้วยสายตาเย็นชาเช่นกัน

หลี่จุ่นเป็นคนไม่เอาถ่าน ไม่มีความสามารถเลยสักนิด

คราวก่อนที่หอเหวินชวีไม่รู้ว่าเขาได้บทกลอนอันยอดเยี่ยมมาจากไหน อาจไปเจอมันบังเอิญหรือมีคนแอบช่วยเขาจนทำให้เขาได้รับความสนใจ

แต่วันนี้เขาต้องแต่งกลอนต่อกลอนต่อหน้าเหล่าขุนนางและทหารหรือแม้แต่ราชทูตจากแคว้นต่างๆ ดูสิว่าเขาจะทุจริตอย่างไร ตบตาทุกคนอย่างไร

วันนี้องค์ชายท่านนี้ต้องถูกเปิดโปงและต้องมีชื่อเสียงฉาวโฉ่

“ชมการล่าสัตว์”

หลี่จุ่นเดินไปถึงตรงกลางทางเดินพร้อมกับเหยือกเหล้าในมือ แล้วกล่าวตรงๆ ด้วยความเคลิ้มเมาและคำพูดค่อนข้างเลื่อนลอยว่า

“บทกลอนของข้ามีชื่อว่า ‘ชมการล่าสัตว์’ หวังกงกง จดจำให้ดีล่ะ”

“องค์ชายโปรดทรงวางพระทัย กระหม่อมจะจดจำให้ดีอย่างแน่นอนพะย่ะค่ะ” หวังเหลียนได้กางกระดาษออก ฝึกหมึกและจับพู่กันไว้รอหลี่จุ่นเริ่มแต่งกลอนแล้ว

“ลมแรงพัดสายธนูสั่น เหล่าอ๋องล่าสัตว์เมืองเหนือ”

หลี่จุ่นเอ่ยกล่าว

เพียงแค่ประโยคแรกก็ทำให้ดวงตาผู้คนเป็นประกายและฉากการล่าสัตว์ก็ปรากฏขึ้นมาตามธรรมชาติ

ความหมายก็คือเหล่าองค์ชายกำลังล่าสัตว์ในเมืองทางตอนเหนือ ในอนาคตเหล่าองค์ชายจะได้ขึ้นเป็นอ๋องอย่างแน่นอน ดังนั้นใช้คำว่าเหล่าอ๋องจึงไม่ผิดแม้แต่น้อย

เพียงแค่ประโยคแรกก็ทำให้แววตาของหลายคนเป็นประกาย

ใบหน้าของหลี่จุ่นเผยรอยยิ้มกว้าง จากนั้นผลักเหยือกเหล้าไปข้างหน้าพลางกล่าวเสียงดังและอาจหาญว่า

“หญ้าแห้งเฉาเหยี่ยวตาไว หิมะละลายม้าวิ่งเร็ว”

หญ้าแห้งเฉาเหยี่ยวตาไว!

หิมะละลายม้าวิ่งเร็ว!

ซู่ดด~

ทุกคนหรี่ตาลงทันที

ดูเหมือนจะมีฉากเช่นนี้ปรากฏตรงหน้า เมื่อป่าหญ้าแห้งเหี่ยวเฉา เหยี่ยวตาแหลมคมก็มองหาเหยื่อ และม้าก็วิ่งเร็วราวกับกำลังไล่ตามสายลมและใบไม้บนหิมะที่กำลังละลาย

เยี่ยมมาก!

ช่างน่าทึ่งจริงๆ!

จินตภาพเต็มเปี่ยม ราวกับมีภาพการล่าสัตว์กำลังปรากฏตรงหน้า

“เยี่ยมมากเพคะ”

อวี้เจียอดไม่ได้ที่จะโห่ร้อง ดวงตางามลึกซึ้งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

องค์ชายผู้ไม่เอาถ่านท่านนี้ ไม่เอาถ่านจริงหรือ

เห็นทีข่าวลือจะไม่เป็นความจริง

“เยี่ยมมาก เยี่ยมมากจริงๆ พะย่ะค่ะ ”

เหล่าขุนนางที่กล้าหาญและใจกว้างในราชสำนักก็ต่างปรบมือและโห่ร้องยินดีทันทีที่อวี้เจียกล่าวจบ

ดวงตางามของหลี่เหวินจวินก็ล้นหลามไปด้วยสีสัน

เพียงแค่สองประโยคแรกก็อธิบายการล่าครั้งนี้ได้อย่างถึงอกถึงใจ

อย่างไรก็ตามฟังดูก็รู้ว่ากลอนนี้ยังไม่จบและยังไม่ถึงจุดสำคัญ

จ้าวเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันพลันกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้นทันที

เป็นไปตามคาด

องค์ชายทรงมีฝีมือในการแต่งกลอนอย่างยอดเยี่ยม

ในขณะนั้นแม้แต่หลี่เจิ้งก็พยักหน้าเล็กน้อยด้วยแววตาค่อนข้างประหลาดใจ

แน่นอน

ทันใดนั้นสีหน้าของหลี่จงและหลี่เฉียนก็เปลี่ยนเล็กน้อยและค่อนข้างแปลกใจ

ความเงียบสงบหลังบรรยากาศที่คึกคัก

ชั่วพริบตา

ทั่วทั้งงานเลี้ยงก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด

มีขุนนางในราชสำนักคนหนึ่งท่องทวนบทกลอนเบาๆ ทันทีและไตร่ตรองถึงความหมายของบทกลอน

“เยี่ยมมาก”

“เป็นกลอนที่ดีมาก”

“จินตภาพล้ำลึก”

“ช่างเป็นกลอนที่ดีมากจริงๆ ราวกับข้าได้เห็นภาพเหล่าองค์ชายกำลังล่าสัตว์ต่อหน้าต่อตา”

“ช่างเป็นบทกลอนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

ทันใดนั้นทั่วทั้งงานเลี้ยงพลันคึกคักขึ้นมาอีกครั้งหลังความเงียบสงัด เหล่าขุนนางตื่นเต้นจนทนไม่ไหว ต่างชื่นชมสรรเสริญ

สองหญิงจ้าวเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันตื่นเต้นมากที่สุดเป็นธรรมดา เพราะพวกนางเป็นพวกเดียวกับหลี่จุ่น จึงดีใจมาก

หลี่เจิ้งหรี่ตาลง แววตามีความตกตะลึงเล็กน้อย

เสิ่นคั่วหลับตาครุ่นคิด จากนั้นกล่าวชมเชยว่า “กลอนนี้ ข้า เสิ่นคั่วขอยกย่องให้เป็นบทกวีนิรันดร์อีกบท”

เหล่าขุนนางต่างฮือฮา

พวกองค์รัชทายาทสีหน้าคร่ำเครียด กำหมัดและกัดฟันแน่น

เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร

คนไม่เอาถ่านผู้นี้สามารถแต่งบทกวีนิรันดร์ต่อหน้าสาธารณชน

สีหน้าของหลี่จงคร่ำเครียด ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่หลี่จุ่นพร้อมกับตะโกนว่า

“หลี่จุ่น แค่กลอนบทเดียวไม่ได้มีความหมายอันใด หากเจ้ามีความสามารถก็แต่งกลอนอีกบทให้ข้าพี่ห้าได้เปิดโลกทัศน์”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน