องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 773

เมื่อเห็นด่านฝานหลงถูกเผาจนกลายเป็นทะเลเพลิงผืนหนึ่ง

เหยียนอ๋องผู้เฒ่ามองจนเกิดความไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอย่างหนักในใจ สีหน้าของเขาสับสน

ด่านฝานหลงแห่งนี้ เขาปกป้องมาตั้งหลายปีขนาดนี้

เคยแต่คิดว่าอาจจะถูกศัตรูทำลายไป ทว่ากลับไม่คิดเลยว่าวันนี้มันจะไม่ได้ถูกทำลายโดยศัตรู แต่ดันถูกเผาไปด้วยน้ำมือของตัวเอง!

แน่นอนว่า!

อันที่จริงก็นับไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคนเผา แต่นี่เป็นหนึ่งในแผนของหลี่จุ่น!

ฉะนั้นที่เจ้าหมอนี่เอาน้ำมันตะเกียงกลับมาด้วยตอนที่กลับจากแคว้นหลาง ก็เพื่อใช้น้ำมันตะเกียงยิงถล่มเมืองหน้าด่านในช่วงเวลาสำคัญนี่เอง!

เขาวางแผนเอาไว้อย่างดีมาตั้งนานแล้ว

เจ้าหมอนี่ก่อนหน้านี้...ยังเผาเมืองเฟิงหั่วทางชายแดนเหนือจนราบเป็นหน้ากลองอีกด้วย...

เหยียนอ๋องผู้เฒ่าเพียงแค่สั่งลงไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็เท่านั้น สุดท้ายแล้วแผนการก็มาจากหลี่จุ่นทั้งนั้น

ทว่าในใจของเหยียนอ๋องผู้เฒ่าก็ยังสับสนจนถึงขีดสุด ถึงอย่างไรก็เป็นคำสั่งที่เขาสั่งลงไปนี่นา

ในจังหวะนี้เอง!

จงจื่อหนิงและหวังเซิ่งนำทัพใหญ่ถอยกลับไปยังค่ายทหาร จากนั้นก็มองทั้งเมืองหน้าด่านถูกเผาจนกลายเป็นทะเลเพลิงผืนหนึ่งจากไกล ๆ

เห็นทัพศัตรูที่อยู่บนกำแพงเมืองกระโดดลงไปในคูเมืองอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่ได้สนใจว่าในคูเมืองนั่นมีฉมวกอันแหลมคมหรือไม่

ที่ไม่กล้ากระโดดทั้งเนื้อตัวก็เต็มไปด้วยไฟ วิ่งพล่านไปด้วย ส่งเสียงร้องโหยหวนแสนน่าเวทนา!

ทำเอาคนฟังหนังศีรษะชา และขนลุกซู่สั่นหงึกไปทั้งร่างกาย!

น่ากลัวจริง ๆ!

น้ำมันตะเกียงมากมายขนาดนี้ถูกยิงขว้างเข้าไปเลย ทำเอาทั้งเมืองหน้าด่านถูกเผาจนกลายเป็นเมืองแห่งเพลิง!

ในตอนนี้ทัพศัตรูที่อยู่ในเมือง คงจะถูกเผาไปเจ็ดแปดส่วนแล้วกระมัง...

พวกเขามองจนนึกกลัวในภายหลังอยู่ยกใหญ่

โชคดีที่นี่เป็นวิธีการที่ฝ่ายพวกเขาหยิบยกมาต่อกรกับศัตรู แต่ไม่ใช่วิธีการที่ศัตรูหยิบยกมาต่อกรกับพวกเขา!

ไม่อย่างนั้นฝ่ายที่กำลังถูกเผาจนวิ่งพล่านไปทั่ว ถูกเผาจนร้องไห้หาแม่ที่อยู่บนสวรรค์ ถูกเผาจนกรีดร้องโหยหวนอย่างเศร้าโศกในตอนนี้ก็คือพวกเขาแล้ว...

เมื่อคิดได้เช่นนี้ต่างก็รู้สึกทำให้พวกเขามีความหวาดผวาหลงเหลืออยู่ในใจ ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวอยู่ลึก ๆ!

โชคดีมากจริง ๆ...

โชคดีที่ท่านอ๋องเป็นท่านอ๋องของพวกเขา!

โชคดีที่ท่านอ๋องประดิษฐ์เครื่องโยนหิน!

ไม่อย่างนั้นฝ่ายที่ต้องประสบเคราะห์ร้ายก็คือพวกเขาแล้ว

ครั้นเหยียนอ๋องผู้เฒ่าเห็นไฟเผาไหม้ไปพอประมาณแล้ว ก็รีบสั่งขึ้นว่า

“แพร่คำสั่งลงไปทั้งทัพ บุกโจมตีเมือง!”

“ขอรับ!”

เสียงแตรเขาสัตว์ถูกเป่าดังขึ้น!

สีหน้าของหวังเซิ่งและจงจื่อหนิงสองแม่ทัพใหญ่พลันตื่นเต้นขึ้นมา ก่อนจะรีบเอ่ยเสียงดังว่า

ในเมืองแสนน่าอเนจอนาถ ทุกที่มีแต่เขม่าควัน และยังมีเปลวไฟที่ยังหลงเหลือกำลังเผาไหม้อยู่ ถูกเผาจนเละเทะไปหมด

ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยศพของทัพศัตรู...

และยังมีกลิ่นของเนื้อที่ถูกย่างทั้งเป็นอีกด้วย...

ทว่ากลิ่นเนื้อถูกย่างสดนี้แปลกยิ่งนัก

“โจวชิงหนีไปแล้วขอรับ!”

ในจังหวะที่หวังเซิ่งเข้ามา และจงจื่อหนิงกำลังสืบเสาะอยู่นั้น ไม่มีผลลัพธ์ใดที่เอ่ยร้องอย่างไม่พอใจเลย!

หวังเซิ่งรีบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า

“ข้าจะรีบนำคนไล่ตามไป!”

ในตอนนี้จ้าวอวี่เองก็มาถึงแล้ว เมื่อเขาได้ยินว่าโจวชิงหนีไป ก็รีบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที

“อย่าให้เขาหนีไปได้เด็ดขาด ข้าจะฆ่าเขา!”

แม่ทัพทั้งสามรีบนำกองกำลังห้าหกหมื่นนาย ไล่ตามออกไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

ทางท่านอ๋องมีกำลังคนประมาณหนึ่งหมื่นคนเท่านั้น อาจจะไม่มีแล้วก็เป็นได้!

แม้ทัพใหญ่ของโจวชิงนี้จะถูกไฟครอก ถูกไฟเผาจนบาดเจ็บล้มตายอย่างน่าอเนจอนาถ

แต่เกรงว่าก็ยังมีกองกำลังเหลืออยู่อีกสองสามหมื่นนาย!

หากไปเจอเข้า ท่านอ๋องอาจจะเสียเปรียบครั้งใหญ่!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน