องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 800

จงจื่อหนิงเอ่ยขึ้นโดยไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย

“ขอท่านจอมทัพวางใจได้ มีแค่บาดแผลเล็กน้อย ไม่มีอะไรต้องกังวล ! เพียงแต่น่าเสียดายที่พวกอันธพาลผู้ใจกล้าเหล่านี้หลบหนีไปได้ !”

“ไม่สำคัญหรอก ให้พวกมันหนีไปเถิด ขอแค่พวกเราไม่เป็นไรก็พอแล้ว” หลี่จุ่นเอ่ยพลางส่ายหัว

“ท่านจอมทัพ สองคนนั้นที่อยู่ข้างในหายไปไหนแล้ว?”

จงจื่อหนิงยกทวนขึ้นทันทีแล้วรีบพุ่งตรงเข้าไปข้างในทันที

หลี่จุ่นจึงเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องหา พวกเขาไปแล้วละ"

จงจื่อหนิงนึกเสียดายขึ้นมาทันที

เขาได้รับบาดเจ็บ แต่กลับจับตัวโจรไม่ได้สักคน จนนึกเสียใจอยู่ไม่น้อย

ครั้นหลี่จุ่นมองไปเห็นว่าหม่าหยวนฮั่นกำลังทำหน้าเคร่งขรึม ก็เอ่ยปากถามทันที

“พี่หม่า เป็นอะไรไปหรือ? ท่านกำลังคิดอะไรอยู่?”

หม่าหยวนฮั่นเหลือบมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างลังเล

“เมื่อครู่ตอนที่ข้าประมือกับคนพวกนั้น ข้าพบว่าหนึ่งในนั้นคือหวงฝู่สือหลี่ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งในแคว้นฉู่ แต่ข้าจำอีกคนหนึ่งไม่ได้ แต่ดูกระบวนท่าและการเคลื่อนไหวของเขานั้นดูคุ้นเคยมาก เหมือนวรยุทธ์ของสิบขุนพลตระกูลจิ่งในสมัยก่อน"

“สิบขุนพลตระกูลจิ่งหรือ ?”

เมื่อหลี่จุ่นและจงจื่อหนิงได้ยินต่างก็พากันงุนงง

หลี่จุ่นจึงเอ่ยถามขึ้น "นี่คืออะไรกันหรือ ?"

หม่าหยวนฮั่นจึงเอ่ยตอบ

“จะเรียกว่าเกี่ยวข้องกับท่านก็คงได้ สิบขุนพลตระกูลจิ่งคือยอดฝีมือทั้งสิบที่จิ่งอ๋องในตอนนั้นฝึกฝนเลี้ยงดูไว้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครในจงหยวนที่เอาชนะพวกเขาได้ หรือต่อให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องคนปัจจุบันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ยอดฝีมือทั้งสิบนี้มองว่าพวกตนเป็นบุตรชายทั้งสิบแห่งตระกูลจิ่ง”

“วรยุทธ์ของจิ่งอ๋องนั้นยิ่งไร้คู่ต่อสู้ในจงหยวน เกรงว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเจิ้นเป่ยอ๋องในตอนนี้อยู่หลายส่วน จวนจิ่งอ๋องของท่านในตอนนี้ก็คือที่ตั้งของตระกูลจิ่งในตอนนั้น และยังเป็นจวนจิ่งอ๋องในอดีตอีกด้วย !"

“หา นี่มัน” หลี่จุ่นถึงกับออกอาการตกตะลึง

จวนอ๋องของเขาเองเป็นสถานที่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งในจงหยวนเคยอาศัยอยู่เสียได้

จิ่งอ๋องในรุ่นก่อน หลี่จุ่นก็พอจะรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของบุคคลดังกล่าวอยู่บ้าง

คนผู้นี้ก็เหมือนกับเหยียนอ๋องผู้เฒ่าที่มีแซ่หวัง ซ้ำยังเป็นสกุลที่จักรพรรดิองค์เก่าพระราชทานให้ด้วย !

นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายมีวรยุทธ์สูง แล้วยังเคยร่วมรบกับจักรพรรดิเกาจู่

ถือได้ว่าเป็นพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมากับเกาจู่

แต่ว่า

มีบันทึกเกี่ยวกับจิ่งอ๋องรุ่นก่อนอยู่น้อยมาก มีงานเขียนประปรายเพียงไม่กี่ชิ้น หลี่จุ่นจึงมิได้ให้ความสนใจมากนัก

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะมีสิบยอดฝีมือแห่งจงหยวนอย่างสิบขุนพลตระกูลจิ่งปรากฏตัวขึ้น

นี่ นี่มันช่างน่าสนใจจริง ๆ !

จงจื่อหนิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยเอ่ยขึ้น

“เรื่องนี้ เหมือนว่าข้าเคยได้ยินท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถึงอยู่สองสามคำ เห็นบอกว่าสิบขุนพลตระกูลจิ่งทั้งสิบคนหายตัวไปกันหมดนะ !”

"หายตัวไปหรือ ?"

หลี่จุ่นหรี่ตาลง "สิบยอดฝีมือแห่งจงหยวนหายตัวไปพร้อมกันหรือ ?"

เมืองหลวงห้ามเข้าออกยามวิกาล การป้องกันของประตูเมืองก็รัดกุมยิ่งกว่าเดิม

ยามกลางวัน หากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ตัวตนยังเข้าไปไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับตอนกลางคืน

จงจื่อหนิงเกาหัวไปมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยตอบ

“ท่านจอมทัพ ข้าไม่คุ้นเคยกับหน่วยพิทักษ์เมือง”

“ก็ได้ เช่นนั้นก็พักผ่อนสักคืนแล้วค่อยไป”

หลี่จุ่นพยักหน้า ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปในโรงเตี๊ยม

จงจื่อหนิงเห็นดังนั้นจึงกล่าวทันที "ท่านจอมทัพ ควรทำอย่างไรกับทัพใหญ่ดีหรือ ?"

หลี่จุ่นกลับตอบแบบขอไปที "มีแม่ทัพหวังคุมทัพอยู่ พวกเราไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"

“ขอรับ”

จงจื่อหนิงเองก็นึกจนปัญญา

ทั้งสามคนหาห้องพักสามห้องติดกัน โดยให้หลี่จุ่นพักอยู่ห้องตรงกลาง เพื่อที่พวกเขาทั้งสองจะได้สะดวกต่อการคุ้มครอง

ทว่า

หลี่จุ่นนอนหลับไปไม่ทันไร เขาก็รู้สึกถึงลมหนาวที่พัดเข้ามาและทันใดนั้นก็ตื่นขึ้น

ครั้นเมื่อเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก็เห็นว่ามีร่างหนึ่งในความมืดนั่งยอง ๆ อยู่ข้างเตียงของตนเอง

ทันใดนั้นเอง แสงสว่างก็ส่องประกายขึ้น !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน