องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 812

เถ้าแก่ผู้นั้นชำเลืองมองชายชราที่วาดอยู่บนภาพเหมือน พลันครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“อ๋อ เคยมา! ราวกับกำลังหาตัวยาที่ชื่อว่า ‘ผีเพลิง’ อะไรนี่แหละ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อตัวยาขนานนี้มาก่อนเลย”

ชายขายขนมเปี๊ยะพลันขมวดคิ้วเข้าหากัน

ผีเพลิงอย่างนั้นหรือ?

ของสิ่งนี้หาได้ยากในราชวงศ์อู่!

มิหนำซ้ำยังล้ำค่าสุด ๆ

ทว่ากลับเป็นยาประหลาดที่พอจะสามารถทำให้คนที่บาดเจ็บหนักหมดสติไปนานฟื้นขึ้นมาได้!

นี่แย่แล้ว

“ลำบากแล้วนะขอรับ”

ชายขายขนมเปี๊ยะเอ่ยขอบคุณทีหนึ่ง

เขาเก็บภาพเหมือน พลางขมวดคิ้วและเข็นแผงลอยต่อก่อนจะเดินออกไปจนไกลลับ

หลงหู่ไถ

ก่อนหน้านี้หลงหู่ไถไม่ได้เรียกว่าหลงหู่ไถ แต่เรียกว่าเทียนหลางไถ

ซึ่งเป็นแท่นสูงที่ฮ่องเต้ราชวงศ์ก่อนสิ้นเปลืองกำลังคนและวัสดุไปเป็นจำนวนมากในการสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งแห่งราชวงศ์ก่อน และเคยรอบรวมกำลังทหารนับล้านคนที่นี่

ต่อมาฮ่องเต้ไท่จูแห่งราชวงศ์อู่ก็เข้ายึดอำนาจ และหลังจากขึ้นนั่งบัลลังก์ สถาปนาตระกูลหลี่อย่างมั่นคงแล้ว ก็เปลี่ยนชื่อที่นี่เป็นหลงหู่ไถ

มีความหมายว่ามังกรปะทะพยัคฆ์!

เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การรวบรวมกองกำลังทหารเป็นอย่างยิ่ง

ทัพใหญ่หนึ่งแสนห้าหมื่นนายของเจิ้นเป่ยอ๋อง และทัพใหญ่หนึ่งแสนสามหมื่นนายที่นำโดยหวังเซิ่งต่างแยกกันปักหลักอยู่ทางตะวันออกและทางตะวันตกสองฝั่ง แยกกันประจำการอยู่ที่นี่

กำลังรอทัพใหญ่สี่แสนกว่านายของจางเฟิงลู่แห่งแคว้นจ้าวมา

แต่ทว่า

จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่บุกมาเสียที!

หลังจากทัพใหญ่ของแคว้นจ้าวบุกโจมตีด่านเหิงกู่ ก็เอาแต่พักผ่อนบำรุงกำลังมาตลอด ไม่ได้คิดจะมาหลงหู่ไถอย่างร้อนใจเลย

การกระทำเช่นนี้ทำให้เจิ้นเป่ยอ่องฉงนอยู่เล็กน้อย

แต่ทว่าก็ทำให้เขาพอจะได้หายใจหายคอได้บ้าง

เพียงแต่อีกฝ่ายเอาแต่ไม่ยอมโจมตีบุกเข้ามา ยิ่งสิ้นเปลืองเวลาก็ยิ่งเป็นผลดีต่อทางราชวงศ์อู่

ถึงอย่างไรแม่น้ำต้าเฉินก็กำลังจะหลากอยู่รอมร่อแล้ว

หากน้ำหลากขึ้นมาทัพใหญ่ของแคว้นจ้าวก็จะถูกขังอยู่ที่นี่ นั่นจะเป็นการตัดทางหนีทีไล่ตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย ต้องปล่อยให้คนอื่นเข่นฆ่าโดยไร้ซึ่งความสามารถที่จะต้านทาน มิหนำซ้ำเสบียงอาหารและหญ้าที่ใช้เลี้ยงม้าก็จะจัดหาไม่พอเช่นกัน

ถึงเวลานั้นทัพใหญ่คงได้หิวตายก่อนเป็นแน่

ด้วยเหตุนี้

ก่อนที่น้ำจะหลากหากทัพใหญ่แคว้นจ้าวโจมตีราชวงศ์อู่ไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องถอนทัพกลับไป นอกเสียจากว่าจะรนหาที่ตาย

แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าจางเฟิงลู่นั่นไม่ใช่คนโง่ สามารถเข้าใจหลักการเล็กน้อยนี่ได้อยู่แล้ว แต่ทว่ากลับดันไม่ยอมโจมตีมาเสียที ช่างทำให้เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

“ท่านจอมทัพ!”

ภายในกระโจมกลางจอมทัพ

เจิ้นเป่ยอ๋องพร้อมด้วยกุนซือ จางฟ่าง หลิวเซิ่งและเหล่ารองแม่ทัพใหญ่กำลังหารือเรื่องทำศึกอยู่ด้วยกัน จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากนอกกระโจม

เจิ้นเป่นอ๋องรีบพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“หัวหน้าหลินมาจากแดนไกล ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการอะไรอย่างนั้นหรือ?”

หลินหงอวี้ส่ายหน้า

ก่อนจะมองไปที่ประตูกระโจมอย่างระแวดระวัง แล้วพลันเดินหน้ามา และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมทั้งระมัดระวัง

“ท่านจอมทัพ แผนมีการเปลี่ยนแปลง!”

นัยน์ตาของเจิ้นเป่ยอ๋องหดตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะรีบเรียกคนให้มาคุ้มกันกระโจมกลางกองทัพให้ดี จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมเล็กน้อย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”

หลินหงอวี้รีบเอ่ยขึ้นว่า

“ท่านจอมทัพ จิ่งอ๋องตายแล้วขอรับ ฝ่าบาทเดือดเป็นฟืนเป็นไฟปานฟ้าผ่า! สองสามวันนี้ในเมืองหลวงวุ่นวายเป็นอย่างมาก หน่วยข่าวลับกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในทุกพื้นที่ ทางหน่วยรักษาการณ์ลับฝ่ายข้าก็ถูกหน่วยข่าวลับกำจัดไปไม่น้อย เหตุการณ์ครั้งนี้ถึงขั้น...สูญเสียอย่างหนัก!”

“อะไรนะ?! เด็กคนนั้น...ตายแล้วหรือ?”

สีหน้าของเจิ้นเป่ยอ๋องเต็มไปด้วยความสงสัย นัยน์ตาพลันหดตัวลงในฉับพลัน!

กะทันหันเกินไปแล้ว!

น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก!

จู่ ๆ หลี่จุ่นก็มาตายไป!

หลินหงอวี้พยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ใช่แล้วขอรับ เขาบัญชาการทัพใหญ่เตรียมจะเดินหน้าไปหลงหู่ไถเพื่อสนับสนุนท่านจอมทัพ ราวกับอยากจะผ่านเมืองหลวง ก็เลยให้ทัพใหญ่เดินหน้าไปก่อน จากนั้นเขาก็เข้าไปในเมืองหลวง”

“ระหว่างทาง ค้างแรมที่โรงเตี๊ยมซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงห้าลี้ สุดท้ายเจอการลอบสังหารยามวิกาล หลานชายของท่านอัครมหาเสนาบดีจี้ผู้นั้นและแม่ทัพใหญ่จงจื่อหนิงเองก็ตามเขาไปด้วย ได้ยินมาว่าหม่าหยวนฮั่นเองก็ตามเขาไปเช่นกัน แต่ก็ยังเจอการลอบสังการ...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน