จวนจิ่งอ๋อง หลี่จุ่นตื่นแต่เช้าและพาหยางจงเดินไปตามถนน
หลังจากเดินไปได้สักพัก หลี่จุ่นก็เห็นรถเข็นขายของคันเล็ก ๆ ที่มีป้าย “เต้าหู้ตำรับจ้าว”
“ไปกินเต้าหู้กันเถอะ”
ใบหน้าของหลี่จุ่นเต็มไปด้วยความดีอกดีใจ และพาหยางจงเดินไปข้างหน้าทันที
ทว่ามีคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่หน้ารถเข็น
ทั้งสองไม่สามารถเบียดเข้าไปได้
“ท่านอ๋อง กลับไปกินข้าวกันเถอะ” หยางจงพูดทันที
หลี่จุ่นยิ้มแฉ่ง “ข้าอยากลองชิม”
ถ้าให้พูดจริง ๆ คือเขาอยากจะตรวจสอบ
มีเพียงการเป็นลูกค้าเท่านั้นที่จะทราบได้ว่ามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
ทั้งสองรออยู่นานจนในที่สุดจำนวนคนก็ค่อย ๆ ลดลง จึงรีบก้าวไปข้างหน้าทันที แต่พ่อค้ากลับบอกว่าเต้าหู้ขายหมดแล้ว จำเป็นจะต้องรอให้เขากลับไปเติม
“ขายเร็วขนาดนี้เลยเหรอ” หลี่จุ่นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
หยางจงก็ประหลาดใจเช่นกัน
ทั้งสองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาร้านแผงลอยอีกร้าน หลังจากเดินได้ไม่นานก็พบร้านแผงลอยอีกร้าน แต่ทว่ามีคนอยู่หน้าร้านมากเกินไปทำให้ในที่สุดก็ไม่สามารถซื้อได้
“ท่านอ๋อง เรากลับไปกินข้าวกันเถอะ” หยางจงพูดอย่างหมดหนทาง
หลี่จุ่นพยักหน้า ดวงตาครุ่นคิดเล็กน้อย
เมื่อทั้งสองกลับจวน หวังเยียนหรันก็พาเสี่ยวจูสาวใช้กลับมาพอดี
เมื่อสาวน้อยเห็นหลี่จุ่นก็พูดด้วยความตื่นเต้น
“หลี่จุ่น ระหว่างทางมาที่นี่หม่อมฉันเห็นเต้าหู้ข้างถนนขายดีมาก หม่อมฉันคิดว่าจะให้เสี่ยวจูซื้อมาสักชามหนึ่ง แต่ซื้อไม่ได้!”
เดี๋ยวนี้สาวน้อยคนนี้เรียกหลี่จุ่นด้วยชื่อจริงของเขา
เป็นกันเองอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
หลี่จุ่นพยักหน้า “เมื่อกี้ข้าก็ซื้อไม่ได้เหมือนกัน”
“เอ๋ ท่านก็ไปซื้อเหมือนกันเหรอ” หวังเยียนหรันตกตะลึง
หลี่จุ่นพยักหน้า ก่อนจะกำชับหยางจง “หัวหน้าขันทีหยาง ไปเอาเต้าหู้ในครัวมาสิ ข้าหิวจะแย่แล้ว”
“รับทราบ ท่านอ๋อง” หยางจงวิ่งไปทันที
ตอนนี้ทางจวนก็ได้เตรียมเต้าหู้ไว้ทุกวัน
หลี่จุ่นและหวังเยียนหรันเดินไปที่ลานแล้วนั่งลง หลี่จุ่นรินน้ำดื่มแล้วจึงถามว่า
เมื่อหวังเยียนหรันได้รับต้นฉบับของหลี่จุ่น ก็แทบรอไม่ไหวที่จะนำมันกลับจวน อยากอ่านจะแย่แล้ว แม้ว่าเต้าหู้แสนอร่อยจะอยู่ตรงหน้าก็ไม่อยากกินแล้ว
หลี่จุ่นเพียงยิ้มรับ
ยามเย็นจ้าวเฟยเอ๋อร์มาที่จวนด้วยใบหน้าที่แสนเหนื่อยล้า ทว่าดวงตากลับสดใส
“ท่านอ๋อง ท่านทายสิว่าวันนี้รายได้ของเราได้เท่าไหร่” จ้าวเฟยเอ๋อร์เจ้าของใบหน้าอันงดงามให้หลี่จุ่นเดา
หลี่จุ่นยิ้มก่อนจะพูดว่า “รถเข็นคันเล็ก ๆ ออกไปสองร้อยคัน แต่ละคันขายได้เป็นร้อยชาม แต่ละชามราคาห้าอีแปะ ดังนั้นเพียงแค่รายได้จากร้านแผงลอยเล็ก ๆ เพียงอย่างเดียวก็น่าจะถึงหนึ่งร้อยตำลึง
ส่วนร้านหลักขายเต้าหู้ถังและอาหารจำพวกผัด ในช่วงสองวันที่ผ่านมาข้าเห็นสาวใช้และคนรับใช้ของพวกระดับสูงมาซื้อเต้าหู้ ไหนจะพวกขุนนางอีกจำนวนมาก ดังนั้นในวันหนึ่งข้าเดาว่าอย่างไรก็ต้องมีเป็นร้อยตำลึง”
ดวงตาจ้าวเฟยเอ๋อร์เบิกกว้าง แล้วก็พูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ทำไมท่านเดาได้แม่นขนาดนี้”
“ข้าเดาถูกใช่ไหมล่ะ” หลี่จุ่นยิ้มด้วยสีหน้าภาคภูมิใจเล็กน้อย
“ไม่ ท่านเดาผิด”
ใครจะไปรู้ว่าวินาทีต่อมาจ้าวเฟยเอ๋อร์หัวเราะก่อนจะพูดว่า
“รายได้จากการขายของร้านแผงลอยริมถนนรวมสองร้อยสามสิบกว่าตำลึง ส่วนรายได้จากร้านหลักก็หนึ่งร้อยยี่สิบกว่าตำลึง ดังนั้นรายได้รวมวันนี้คือสามร้อยห้าสิบเจ็ดตำลึงแปดสิบเจ็ดอีแปะ!”
“มากขนาดนี้เลยเหรอ”
หลี่จุ่นอึ้งไปชั่วขณะ พร้อมกับความประหลาดใจเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...